แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก ญี่ปุ่น 1999 ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก (Shrines and Temples of Nikko)

1999 ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก (Shrines and Temples of Nikko)

ตำแหน่งที่ตั้ง 36.755140141856835, 139.60087090755658

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก: มรดกโลกที่ทรงคุณค่าแห่งสถาปัตยกรรมและจิตวิญญาณญี่ปุ่น

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก (Shrines and Temples of Nikko) ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก จังหวัดโทชิกิ (Tochigi Prefecture) ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปีคริสต์ศักราช 1999 (พุทธศักราช 2542) นับเป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่ประกอบด้วยอาคารและโครงสร้างจำนวน 103 แห่ง พร้อมด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งรวมถึงศาลเจ้าชินโต (Shinto shrines) สองแห่ง และวัดพุทธ (Buddhist temple) หนึ่งแห่ง

แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ประกอบด้วยสถานที่สำคัญสามแห่ง ได้แก่:

• ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine): มีชื่อเสียงในการอุทิศแด่โทกูงาวะ อิเอยาซุ (Tokugawa Ieyasu) ปฐมโชกุน (shogun) แห่งรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ (Edo Shogunate) โดดเด่นด้วยงานแกะสลักอันวิจิตรตระการตา ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นเอกของช่างฝีมือญี่ปุ่นโบราณ

• วัดนิกโกะรินโนจิ (Nikko Rinnoji Temple): ก่อตั้งโดยพระสงฆ์นามโชโดะ โชนิง (Shodo Shonin) ในปีคริสต์ศักราช 766 (พุทธศักราช 1309) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในนิกโกะ และยังรวมถึงวัดไทอิง (Taiyuin Temple) ซึ่งอุทิศแด่โทกูงาวะ อิเอมิตสึ (Tokugawa Iemitsu) โชกุนลำดับที่สาม

• ศาลเจ้านิกโกะฟูทาราซาน (Nikko Futarasan Shrine): ก่อตั้งโดยพระโชโดะ โชนิง เช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้ดูแลจัดการภูเขานันไต (Mount Nantai) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อเรื่องภูเขา และเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลยาโยอิ (Yayoi Festival) ประจำปี

จากโครงสร้างทั้งหมด 103 แห่ง มี 9 แห่งที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ (National Treasures) ของญี่ปุ่น และอีก 94 แห่งจัดอยู่ในประเภททรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ (Important Cultural Properties) สถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องในด้านอัจฉริยภาพทางสถาปัตยกรรมและศิลปะที่โดดเด่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคเอโดะ (Edo period) ที่ประยุกต์ใช้กับทั้งศาลเจ้าชินโตและวัดพุทธได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งยังผสมผสานเข้ากับเนินเขาป่าไม้ได้อย่างสมบูรณ์ สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดชินโตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งภูเขาและป่าไม้มีความหมายอันศักดิ์สิทธิ์ หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกจึงเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของศูนย์กลางศาสนาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์ของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ

คุณค่าสากลที่โดดเด่น (Outstanding Universal Value)

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกมีคุณค่าสากลที่โดดเด่น (Outstanding Universal Value - OUV) อันเป็นผลมาจากเกณฑ์หลายประการที่สะท้อนถึงอัจฉริยภาพทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของภูมิภาคนี้:

• สถาปัตยกรรมและศิลปะอันเป็นเลิศ: แหล่งมรดกโลกแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะทางสถาปัตยกรรมและศิลปะที่ไร้เทียมทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสไตล์สถาปัตยกรรมยุคเอโดะที่ประณีตงดงาม ซึ่งประยุกต์ใช้กับอาคารศาสนาได้อย่างลงตัว งานแกะสลักอันวิจิตรตระการตาที่พบในศาลเจ้านิกโกโทโชกุ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของฝีมือช่างญี่ปุ่นโบราณที่โดดเด่น

• การบูรณาการกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน: อาคารและโครงสร้างทั้ง 103 แห่ง รวมถึงบริเวณโดยรอบ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างให้ผสานเข้ากับภูมิทัศน์ป่าเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อทางชินโตที่ให้ความสำคัญกับความศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาและป่าไม้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

• ศูนย์กลางศาสนาและประวัติศาสตร์: หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของศูนย์กลางศาสนาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการพัฒนาวัฒนธรรมและสังคมของญี่ปุ่น

• การอนุรักษ์มรดก: สถานที่แห่งนี้ประกอบด้วยอาคาร 9 แห่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ และอีก 94 แห่งเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะของญี่ปุ่น

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม

ประวัติศาสตร์ของหมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระสงฆ์โชโดะ โชนิง ได้ก่อตั้งวัดนิกโกะรินโนจิและศาลเจ้านิกโกะฟูทาราซานขึ้นในปีคริสต์ศักราช 766 (พุทธศักราช 1309) นับเป็นการวางรากฐานทางศาสนาในพื้นที่นี้ การก่อตั้งดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกไว้ และแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของพระสงฆ์ในการเผยแผ่ศาสนาพุทธและความเชื่อแบบชินโตในภูมิภาคนี้

ในศตวรรษที่ 17 (พุทธศตวรรษที่ 22) หมู่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการพัฒนาและขยายอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้การอุปถัมภ์ของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อสร้างศาลเจ้านิกโกโทโชกุขึ้นเพื่ออุทิศแด่โทกูงาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกแห่งยุคเอโดะ ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ระลึกถึงผู้ปกครองผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการแสดงออกถึงอำนาจและความมั่งคั่งของโชกุนในยุคนั้นด้วย สถาปัตยกรรมและศิลปะในศาลเจ้านิกโกโทโชกุเป็นตัวแทนที่โดดเด่นของสไตล์สถาปัตยกรรมยุคเอโดะ ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความหรูหรา วิจิตรบรรจง และการใช้สีสันที่สดใส รวมถึงรายละเอียดการแกะสลักไม้ที่ซับซ้อน ตัวอย่างเช่น งานแกะสลักที่ประดับประดาอยู่บนอาคารต่างๆ ล้วนเป็นงานฝีมือระดับปรมาจารย์ที่แสดงถึงความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ของช่างฝีมือญี่ปุ่น

วัดไทอิงซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดนิกโกะรินโนจิ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่โทกูงาวะ อิเอมิตสึ โชกุนลำดับที่สาม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญของสถาปัตยกรรมยุคเอโดะที่ผสานความงามทางศิลปะเข้ากับวัตถุประสงค์ทางศาสนาได้อย่างลงตัว การออกแบบของอาคารเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงความงดงามทางสายตาเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงการจัดวางให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของเนินเขาและป่าไม้ สะท้อนถึงปรัชญาชินโตที่มองว่าภูเขาเป็นที่สถิตของเทพเจ้าและพลังศักดิ์สิทธิ์ สถาปัตยกรรมของหมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกจึงเป็นพยานหลักฐานทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่ยืนยันถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของญี่ปุ่น

จุดเด่นที่สำคัญ (Key Highlights)

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกประกอบด้วยจุดเด่นหลายประการที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกที่ทรงคุณค่า:

• สถาปัตยกรรมและงานศิลปะยุคเอโดะ: อาคารทั้ง 103 แห่ง แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองทางสถาปัตยกรรมและศิลปะของญี่ปุ่นในยุคเอโดะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลเจ้านิกโกโทโชกุที่มีการประดับประดาด้วยงานแกะสลักไม้ที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อน และใช้สีสันที่ฉูดฉาดงดงาม ซึ่งเป็นตัวอย่างของผลงานชิ้นเอกที่ไม่มีใครเทียบได้

• ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine): สถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานวิญญาณของโทกูงาวะ อิเอยาซุ โดดเด่นด้วยประตูโยเมมง (Yomeimon Gate) ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และงานแกะสลัก "ลิงสามตัวผู้ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่พูด" (Three Wise Monkeys) อันโด่งดัง

• วัดนิกโกะรินโนจิ (Nikko Rinnoji Temple): วัดพุทธโบราณที่ก่อตั้งในคริสต์ศักราช 766 (พุทธศักราช 1309) โดยพระโชโดะ โชนิง เป็นแหล่งรวมของอาคารสำคัญหลายหลัง รวมถึงวัดไทอิงซึ่งเป็นสุสานของโทกูงาวะ อิเอมิตสึ

• ศาลเจ้านิกโกะฟูทาราซาน (Nikko Futarasan Shrine): ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดในนิกโกะ ก่อตั้งโดยพระโชโดะ โชนิง เช่นกัน และมีความสำคัญในการเป็นศูนย์กลางของความเชื่อเรื่องภูเขา โดยมีภูเขานันไตเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลยาโยอิประจำปี

• ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่กลมกลืน: อาคารและโครงสร้างต่างๆ ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันงดงามของป่าไม้บนเนินเขา ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานความเชื่อทางศาสนาชินโตและพุทธเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

คำแนะนำสำหรับผู้เยี่ยมชมและข้อกำหนด (Visitor Guide and Regulations)

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกตั้งอยู่ในเมืองนิกโก จังหวัดโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น การเดินทางสามารถทำได้โดยรถไฟจากโตเกียวไปยังสถานีนิกโก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และต่อรถบัสหรือเดินเท้าไปยังบริเวณมรดกโลก

ข้อมูลสำหรับผู้เยี่ยมชม:

• เวลาทำการ: แต่ละศาลเจ้าและวัดอาจมีเวลาทำการที่แตกต่างกัน ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการก่อนการเดินทาง โดยปกติจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าถึงช่วงบ่าย

• ค่าเข้าชม: มีค่าเข้าชมสำหรับบางส่วนของศาลเจ้าและวัด ซึ่งอาจรวมถึงค่าเข้าชมส่วนสำคัญของศาลเจ้านิกโกโทโชกุ และวัดนิกโกะรินโนจิ

• การแต่งกาย: เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้เยี่ยมชมควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย

• การเดินทางภายใน: บริเวณมรดกโลกค่อนข้างกว้างขวางและมีทางลาดชันบางส่วน การสวมรองเท้าที่สะดวกสบายจึงเป็นสิ่งจำเป็น

• บริการ: มีร้านค้าของที่ระลึก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวให้บริการในบริเวณใกล้เคียง

ข้อกำหนดและข้อควรปฏิบัติ:

• การถ่ายภาพ: โดยทั่วไปอนุญาตให้ถ่ายภาพในพื้นที่สาธารณะ แต่บางพื้นที่ภายในอาคารอาจมีข้อจำกัด ห้ามใช้แฟลชในบางกรณี

• ความเคารพ: ผู้เยี่ยมชมควรแสดงความเคารพต่อสถานที่และปฏิบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติทางศาสนา เช่น การถอดรองเท้าก่อนเข้าอาคารบางแห่ง

• การรักษาสภาพแวดล้อม: ห้ามทิ้งขยะ เก็บดอกไม้ หรือสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อม

• ความสงบ: รักษาความสงบและหลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังเพื่อไม่ให้รบกวนผู้มาเยือนคนอื่นๆ และกิจกรรมทางศาสนา

รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดเฉพาะอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่ภายในหมู่ศาลเจ้าและวัด ผู้เยี่ยมชมควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของศาลเจ้าและวัดนั้นๆ เพื่อให้การเยี่ยมชมเป็นไปอย่างราบรื่นและเหมาะสม

หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก เป็นแหล่งมรดกโลกที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณของญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้เป็นมากกว่ากลุ่มอาคารทางศาสนา แต่เป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ อัจฉริยภาพทางสถาปัตยกรรมและศิลปะในยุคเอโดะ รวมถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์ของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ด้วยคุณค่าสากลที่โดดเด่น ทั้งในด้านความงามทางศิลปะ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และการผสมผสานทางศาสนา หมู่ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกจึงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ควรค่าแก่การศึกษา อนุรักษ์ และเยี่ยมชม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงความงดงามและความลึกซึ้งของมรดกโลกแห่งนี้

.

------------------------