2018 โหนนเนือกกาวบั่ง อุทยานธรณีโลก (Non Nuoc Cao Bang UNESCO Global Geopark)
อุทยานธรณีโลก โหนนเนือกกาวบั่ง (Non Nuoc Cao Bang UNESCO Global Geopark) มรดกแห่งธรณีวิทยา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
อุทยานธรณีโลก โหนนเนือกกาวบั่ง ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 เป็นแหล่งรวมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันล้ำค่าในภาคเหนือและภาคตะวันออกของจังหวัดกาวบั่ง (Cao Bang Province) ประเทศเวียดนาม อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางกิโลเมตร เผยให้เห็นเรื่องราวทางธรณีวิทยาที่ยาวนานกว่า 500 ล้านปีของโลก พร้อมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและมรดกทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น การมาเยือนอุทยานธรณีแห่งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นการสำรวจพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่กระตุ้นให้เกิดความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรณีวิทยา (geoconservation) และการศึกษาธรณีวิทยา (Earth Science education) เพื่อส่งต่อคุณค่าเหล่านี้ให้แก่คนรุ่นหลัง
บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา
ภูมิประเทศ (Topography)
อุทยานธรณีโหนนเนือกกาวบั่งตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาประมาณ 90% ของอุทยาน โดยมีความสูงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ 1,500 ถึง 2,000 เมตรในพื้นที่ทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือ ไปจนถึง 200 เมตรในพื้นที่ทางตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคนี้มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนแถบที่ราบสูง (highland tropical monsoon climate) ที่มีฤดูแล้งและฤดูฝนที่ชัดเจน เครือข่ายการระบายน้ำมีความซับซ้อน ประกอบด้วยระบบแม่น้ำหลัก 5 สาย และทะเลสาบ 47 แห่ง ซึ่งมีส่วนสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงป่าไม้ที่แพร่หลายและพืชพรรณกับสัตว์ป่าประจำถิ่น [caobanggeopark.com]
ธรณีวิทยาและกระบวนการกำเนิด (Geology and Formation Processes)
อุทยานธรณีโหนนเนือกกาวบั่งเป็นดินแดนพิเศษที่เผยให้เห็นประวัติศาสตร์ของโลกกว่า 500 ล้านปี โดยถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนด้วยรอยเลื่อนมีพลังลึกกาวบั่ง-เตียนเยน (Cao Bang-Tien Yen deep-seated active fault) [globalgeopark.org]
-
ส่วนตะวันออก: ประกอบด้วยหินปูนเป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงวัฏจักรการวิวัฒนาการของภูมิประเทศแบบคาร์สต์เขตร้อน (tropical karst evolution cycle) ที่สมบูรณ์แบบ บริเวณนี้มีลักษณะธรณีสัณฐานแบบคาร์สต์ (karst landforms) ที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น แอ่งยุบตัวแบบยอดเขากระจัดกระจาย (peak-cluster depressions) ภูเขาหินปูนรูปกรวยและรูปหอคอย (cones and towers) ถ้ำเก่าแก่และถ้ำมีชีวิต (old and active caves) ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม (magnificent speleothems) หุบเขาแบบปิดและเชื่อมต่อกัน (closed and interconnected valleys) รวมถึงระบบแม่น้ำทั้งใต้ดินและบนดิน และระบบทะเลสาบแบบทัวร์ล็อก (turlough lake system) [globalgeopark.org]
-
ส่วนตะวันตก: มีลักษณะเป็นหินตะกอน (sedimentary rocks) หินบะซอลต์แบบหมอน (pillow basalts) และการแทรกซอนของหินอัลตรามาฟิกและหินแกรนิต (ultra-mafic and granitic intrusions) ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและการเปลี่ยนแปลงแบบไฮโดรเทอร์มอล (hydrothermal alterations) บริเวณนี้ยังคงมีหินตะกอนที่มีอายุมากกว่า 500 ล้านปี พร้อมหน้าตัดลำดับชั้นหินแบบฉบับ (stratotype cross-sections) และซากดึกดำบรรพ์ (fossils) ที่บ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมบรรพกาล (paleo-environments) และเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของชีวภาค (biosphere extinction events) ที่แตกต่างกัน ความหลากหลายของหิน (รวมถึงลำดับชั้นหิน บรรพชีวินวิทยา บรรพสิ่งแวดล้อม ปิโตรวิทยา และแร่วิทยา) และธรณีสัณฐาน (ธรณีแปรสัณฐาน ธรณีสัณฐานวิทยา คาร์สต์ การผุพัง และการกร่อนของดิน) เป็นหลักฐานของความหลากหลายทางธรณีวิทยา (geodiversity) และขั้นตอนการวิวัฒนาการของเปลือกโลกในพื้นที่ [globalgeopark.org]
แหล่งธรณีวิทยาสำคัญ (Key Geosites)
อุทยานธรณีโลกโหนนเนือกกาวบั่งนำเสนอแหล่งธรณีวิทยาสำคัญที่น่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาอันยาวนานและความหลากหลายของภูมิประเทศ
1. น้ำตกบ๋านจ๋อก (Ban Gioc Waterfall)
น้ำตกบ๋านจ๋อกเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นสัญลักษณ์ทางธรรมชาติที่โดดเด่นของเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศ น้ำตกแห่งนี้ก่อกำเนิดขึ้นจากการกัดเซาะของสายน้ำต่อชั้นหินปูนของภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst landscape) ในส่วนตะวันออกของอุทยาน ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการผุพังและการกร่อนของหินปูนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับล้านปี ทำให้เกิดการทรุดตัวและถอยร่นของหน้าผา สร้างเป็นชั้นน้ำตกหลายระดับที่สวยงามตระการตาในปัจจุบัน การไหลของน้ำจำนวนมากจากระบบแม่น้ำในภูมิภาคยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อเลี้ยงและเปลี่ยนแปลงลักษณะทางธรณีวิทยาของน้ำตกแห่งนี้อยู่ตลอดเวลา [localvietnam.com, vietnamtour.com]
2. ถ้ำเหงือกหงาว (Nguom Ngao Cave)
ถ้ำเหงือกหงาวเป็นถ้ำหินปูนที่มีชีวิต (active cave) อันงดงาม ตั้งอยู่ในภูมิประเทศคาร์สต์ทางตะวันออกของอุทยาน ความโดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือการสะสมตัวของหินงอกหินย้อย (speleothems) ที่เกิดขึ้นจากน้ำที่ซึมผ่านหินปูน ทำละลายแร่ธาตุแคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) และตกผลึกกลับคืนเมื่อสัมผัสกับอากาศภายในถ้ำ กระบวนการนี้ใช้เวลาหลายพันถึงหลายล้านปีในการสร้างสรรค์รูปทรงต่างๆ ที่น่าอัศจรรย์ อาทิ เสาหินย้อยม่านน้ำตก (flowstones), หินงอกหินย้อยรูปม่าน (draperies) และรูปปะการัง (coralloids) ถ้ำแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของภูมิธรณีวิทยาแบบคาร์สต์ใต้ดิน (subterranean karst geomorphology) และความงดงามทางธรรมชาติที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างน้ำและหิน [globalgeopark.org]
3. ระบบทะเลสาบท้างเฮน (Thang Hen Lake System)
ระบบทะเลสาบท้างเฮนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจ ประกอบด้วยทะเลสาบ 47 แห่งที่เชื่อมต่อกัน โดยบางส่วนเป็นทะเลสาบแบบทัวร์ล็อก (turlough lake system) ซึ่งเป็นทะเลสาบชั่วคราวที่ระดับน้ำขึ้นลงตามฤดูกาลและระดับน้ำบาดาล ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่คาร์สต์หินปูนทางตะวันออกของอุทยาน ซึ่งมีระบบเครือข่ายใต้ดินของถ้ำและทางน้ำที่ซับซ้อน เมื่อปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นหรือระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น น้ำจะเอ่อขึ้นมาปกคลุมพื้นที่แอ่ง ทำให้เกิดเป็นทะเลสาบที่เชื่อมต่อกัน เมื่อระดับน้ำลดลง ทะเลสาบบางส่วนก็จะแห้งหายไป ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงพลวัตของระบบอุทกวิทยาคาร์สต์ (karst hydrology) และการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างธรณีวิทยาและระบบน้ำบนพื้นผิวและใต้ดิน [globalgeopark.org]
4. ภูมิประเทศคาร์สต์หินปูน (Limestone Karst Landscapes)
ภูมิประเทศคาร์สต์หินปูนเป็นลักษณะเด่นของส่วนตะวันออกของอุทยาน ซึ่งเป็นผลมาจากการกัดกร่อนของหินปูนด้วยน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ ตลอดระยะเวลาทางธรณีกาลหลายล้านปี ก่อให้เกิดธรณีสัณฐานที่หลากหลาย เช่น ภูเขาหินปูนรูปหอคอยและรูปกรวย (karst towers and cones) แอ่งยุบตัว (dolines/sinkholes) และหุบเขาแคบๆ ที่คดเคี้ยว (valleys) การพัฒนาของภูมิประเทศคาร์สต์ในบริเวณนี้แสดงถึงวัฏจักรการวิวัฒนาการแบบเขตร้อนที่สมบูรณ์ โดยมีทั้งรูปแบบที่เก่าแก่และยังคงมีกระบวนการคาร์สต์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดทัศนียภาพอันตระการตาและเป็นห้องเรียนธรรมชาติสำหรับการศึกษาธรณีสัณฐานวิทยา [unesco.org]
5. หินตะกอนโบราณและหินภูเขาไฟ (Ancient Sedimentary and Volcanic Formations)
ในส่วนตะวันตกของอุทยานธรณีโหนนเนือกกาวบั่ง มีการค้นพบหินตะกอนที่มีอายุมากกว่า 500 ล้านปี รวมถึงหินบะซอลต์แบบหมอน (pillow basalts) และหินอัคนีแทรกซอน (igneous intrusions) เช่น หินอัลตรามาฟิก (ultra-mafic rocks) และหินแกรนิต (granitic rocks) หินตะกอนเหล่านี้มีหน้าตัดลำดับชั้นหินแบบฉบับ (stratotype cross-sections) ที่เผยให้เห็นประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาในยุคเริ่มแรกของโลก และมีซากดึกดำบรรพ์ (fossils) ที่เป็นพยานถึงสภาพแวดล้อมบรรพกาล (paleo-environments) ที่แตกต่างกัน รวมถึงเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในอดีต (biosphere extinction events) การปรากฏของหินบะซอลต์แบบหมอนบ่งชี้ถึงการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลในอดีต ในขณะที่การแทรกซอนของหินอัลตรามาฟิกและหินแกรนิตสะท้อนถึงกิจกรรมทางธรณีแปรสัณฐาน (tectonic activity) และการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก (crustal evolution) ที่ซับซ้อนและยาวนาน [globalgeopark.org]
ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)
อุทยานธรณีโลกโหนนเนือกกาวบั่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์
ความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่า และมนุษย์ (Rock-Soil-Water-Forest-Human Relationship)
-
หิน (Rock): ธรณีวิทยาที่หลากหลาย ทั้งหินปูนในส่วนตะวันออกและหินตะกอนกับหินภูเขาไฟในส่วนตะวันตก เป็นรากฐานสำคัญที่กำหนดลักษณะทางกายภาพของภูมิประเทศ ธรณีวิทยาอายุมากกว่า 500 ล้านปีพร้อมซากดึกดำบรรพ์ ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมบรรพกาลและความหลากหลายทางชีวภาพในอดีต
-
ดิน (Soil): การผุพังของหินหลากหลายชนิด โดยเฉพาะหินปูนและหินภูเขาไฟ ก่อให้เกิดดินที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป ดินเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดของสารอาหารที่หล่อเลี้ยงพืชพรรณและสนับสนุนการเกษตรกรรมของชุมชนท้องถิ่น
-
น้ำ (Water): ระบบแม่น้ำหลัก 5 สายและทะเลสาบ 47 แห่ง เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ ทั้งสำหรับการบริโภค การเกษตร และการประมง ภูมิประเทศคาร์สต์ที่มีระบบถ้ำและทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน มีบทบาทสำคัญในการจัดเก็บและระบายน้ำ ทำให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศน้ำ
-
ป่า (Forest): ด้วยสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนและดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้พื้นที่กว่า 55.59% ของจังหวัดถูกปกคลุมด้วยป่าไม้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะป่าดิบชื้นเขตร้อน ป่าเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ประจำถิ่นและหายากหลายชนิด รวมถึงเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและยาพื้นเมืองสำหรับชุมชน
-
มนุษย์ (Human): ผู้คนประมาณ 250,000 คน ซึ่ง 92% เป็นชนกลุ่มน้อย 9 กลุ่ม (เช่น Tay, Nung, Mong, Kinh, Dao, San Chay) ได้พัฒนาวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีที่ผูกพันกับธรรมชาติและธรณีวิทยาของภูมิภาค ความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานเป็นปัจจัยพื้นฐานที่หล่อเลี้ยงชีวิตและสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น ทั้งในด้านหัตถกรรม อาหาร และการแพทย์พื้นบ้าน [unesco.org, globalgeopark.org]
มรดกทางวัฒนธรรม (Cultural Heritage)
อุทยานแห่งนี้เป็น "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์" ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่กว่า 20,000 ปีที่แล้ว และเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ศักดินาบางแห่ง นอกจากนี้ยังเป็น "แหล่งกำเนิดของการปฏิวัติเวียดนาม" ด้วยแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ เช่น ถ้ำป๊ากบ๋อ (Pac Bo Cave) ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์กลับมาเพื่อนำการเคลื่อนไหวปฏิวัติในปี พ.ศ. 2484 และป่าเจิ่นฮึงด่าว (Tran Hung Dao Forest) ที่เป็นที่ตั้งของการก่อตั้งกองทัพปลดปล่อยโฆษณาชวนเชื่อเวียดนาม ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ รวมถึงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ถูกหล่อหลอมโดยสภาพธรรมชาติและธรณีวิทยาของภูมิภาค [globalgeopark.org, unesco.org]
อุทยานธรณีโลกโหนนเนือกกาวบั่งเป็นอัญมณีแห่งธรณีวิทยาและวัฒนธรรมของเวียดนาม ที่นำเสนอการเดินทางอันน่าตื่นเต้นผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนานของโลก จากภูมิประเทศคาร์สต์อันตระการตาไปจนถึงหินตะกอนโบราณที่เก็บงำเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตในอดีต ผนวกกับความหลากหลายทางชีวภาพและมรดกทางวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน การมาเยือนอุทยานแห่งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เชื่อมโยงกับโลกธรรมชาติ เรียนรู้คุณค่าของผืนดิน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่านี้ไว้ให้ยั่งยืนสืบไป
เอกสารอ้างอิง (References)
.
-------------------------
ที่มา
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
-------------------------

