iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา

2020 ดั๊กหน่อง อุทยานธรณีโลก (Dak Nong UNESCO Global Geopark)

 

ดั๊กหน่อง อุทยานธรณีโลก (Dak Nong UNESCO Global Geopark) มหากาพย์แห่งไฟ น้ำ และเสียงสะท้อนจากพื้นพิภพ

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกดั๊กหน่อง (Dak Nong UNESCO Global Geopark) ตั้งอยู่ในเขตที่สูงตอนกลางของประเทศเวียดนาม เป็นสถานที่ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 และได้รับการรับรองสถานะอีกครั้งสำหรับช่วงปี พ.ศ. 2567-2570 ซึ่งยืนยันถึงความสำคัญระดับโลกของแหล่งธรณีวิทยาแห่งนี้ ในฐานะอุทยานธรณีโลกแห่งที่สามของเวียดนาม ดั๊กหน่องเป็นศูนย์รวมของมรดกโลกทางธรณีวิทยาอันน่าทึ่ง ซึ่งบันทึกประวัติศาสตร์โลกย้อนหลังไปถึง 140 ล้านปี ผสมผสานกับการก่อตัวของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้ว การเดินทางมาเยือนที่นี่จึงไม่ใช่เพียงการพักผ่อน แต่เป็นการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับวิวัฒนาการของโลก (Earth's evolution) และส่งเสริมความเข้าใจในคุณค่าของธรณีวิทยา (geological values) ที่เป็นรากฐานของสรรพชีวิต

บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา (Geographical & Geological Context)

อุทยานธรณีโลกดั๊กหน่องครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4,760 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณสองในห้าของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดดั๊กหน่อง ประกอบด้วย 5 อำเภอ (Krong No, Cu Jut, Dak Mil, Dak Song, Dak G'long) และเมือง Gia Nghia ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครอง (administrative center) ของจังหวัด ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางและหลากหลาย ทำให้ภูมิประเทศ (topography) ของอุทยานธรณีแห่งนี้มีความซับซ้อนและน่าสนใจ

ภูมิประเทศ (Topography)

พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานธรณีโลกดั๊กหน่อง ตั้งอยู่ในเขตที่สูงตอนกลาง (Central Highlands) ของเวียดนาม มีลักษณะเป็นที่ราบสูง (plateau) ที่ปกคลุมด้วยหินบะซอลต์ (basalt) ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต ภูมิประเทศโดดเด่นด้วยเนินเขาเตี้ยๆ ที่สลับซับซ้อน หุบเหวลึก และเครือข่ายของแม่น้ำและลำธารที่ไหลผ่าน ซึ่งก่อให้เกิดน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง เช่น น้ำตก Dray Sap, Trinh Nu, และ Gia Long นอกจากนี้ยังพบปากปล่องภูเขาไฟ (volcanic craters) ที่ดับแล้วกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ เพิ่มความหลากหลายให้กับภูมิทัศน์

ธรณีวิทยาและกระบวนการก่อกำเนิด (Geology and Formation Process)

ประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดั๊กหน่องย้อนไปไกลถึง 140 ล้านปี เมื่อครั้งที่พื้นที่นี้ยังคงเป็นมหาสมุทร (ocean) หลักฐานของยุคสมัยนั้นปรากฏให้เห็นในรูปแบบของหินปูน (limestone) แอมโมไนต์ (ammonites) และฟอสซิล (fossils) ชนิดต่างๆ ที่เป็นพยานเงียบๆ ถึงอดีตทางทะเลที่ยาวนาน (Ref: unesco.org).

ในเวลาต่อมา เมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้ว ภูเขาไฟได้ปะทุขึ้นและหล่อหลอมภูมิทัศน์อย่างรุนแรง การปะทุเหล่านี้ทำให้เกิดการไหลของลาวา (lava flows) ที่ปกคลุมพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของอุทยานธรณีด้วยชั้นหินบะซอลต์ (basalt rock layer) อันกว้างใหญ่ (Ref: unesco.org). หนึ่งในผลลัพธ์ที่น่าทึ่งที่สุดของกิจกรรมภูเขาไฟนี้คือการก่อตัวของระบบถ้ำภูเขาไฟ (volcanic cave system) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีถ้ำเกือบ 50 แห่ง และมีความยาวรวมกันมากกว่า 10,000 เมตร (Ref: mae.gov.vn, unesco.org). ถ้ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว (Ref: unesco.org).

อุทยานธรณีแห่งนี้ยังอุดมไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุ (mineral resources) เช่น บ็อกไซต์ (bauxite) แอนติโมนี (antimony) แหล่งดีบุกพลอย (placer tin deposits) พัซโซไลต์ (puzzolite) และหินมีค่าโดยเฉพาะแหล่งโอปอล-คาลซิโดนี (opal-chalcedony semi-precious stones) ขนาดใหญ่ (Ref: vietnamlawmagazine.vn). ดินในภูมิภาคนี้มีชื่อเสียงในด้านความอุดมสมบูรณ์ของดินบะซอลต์สีแดง (fertile red basalt soil) ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากประวัติศาสตร์ภูเขาไฟของพื้นที่ (Ref: vietnamlawmagazine.vn).

แหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญ (Key Geosites)

อุทยานธรณีโลกดั๊กหน่องมีแหล่งธรณีวิทยาและธรณีสัณฐานวิทยา (geological and geomorphological heritage sites) ประมาณ 65 แห่ง โดยมีบางแห่งได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติถึง 7 แห่ง ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายทางธรณีวิทยาของพื้นที่แห่งนี้ (Ref: mae.gov.vn).

1. ระบบถ้ำภูเขาไฟดั๊กหน่อง (Dak Nong Volcanic Cave System)

นี่คือหนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของอุทยานธรณีแห่งนี้ โดยเป็นระบบถ้ำภูเขาไฟที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีถ้ำเกือบ 50 แห่ง และมีความยาวรวมกว่า 10,000 เมตร (Ref: mae.gov.vn, unesco.org). ถ้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นถ้ำลาวา (lava caves หรือ lava tubes) ซึ่งเกิดจากกระบวนการที่ลาวาพื้นผิวเย็นตัวลงและแข็งตัวเป็นเปลือกแข็ง ขณะที่ลาวาที่อยู่ด้านล่างยังคงไหลต่อไป ทำให้เกิดช่องว่างรูปทรงท่อใต้ดิน เมื่อลาวาที่อยู่ภายในไหลออกไปหมด ก็จะทิ้งช่องว่างเป็นถ้ำลาวาที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น ผนังถ้ำที่เป็นหินบะซอลต์ และโครงสร้างถ้ำที่แตกต่างจากถ้ำหินปูน (limestone caves) อย่างชัดเจน ระบบถ้ำที่โดดเด่นที่สุดอยู่ในบริเวณ Dray Sap-Chu R'Luh (Ref: vietnamlawmagazine.vn).

2. น้ำตกสำคัญ (Major Waterfalls)

อุทยานธรณีแห่งนี้เป็นที่ตั้งของน้ำตกหลายแห่งที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำบนชั้นหินภูเขาไฟ (volcanic rock layers) ที่แตกต่างกัน น้ำตกที่โดดเด่น ได้แก่:

  • น้ำตก Dray Sap (Dray Sap Waterfall): เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากแม่น้ำ Serepok ไหลผ่านชั้นหินบะซอลต์ มีพลังและสวยงาม แสดงให้เห็นถึงกระบวนการกัดเซาะของน้ำ (water erosion) ที่มีต่อโครงสร้างหินภูเขาไฟ

  • น้ำตก Trinh Nu (Trinh Nu Waterfall): หรือ "น้ำตกสาวบริสุทธิ์" มีลักษณะเป็นชั้นหินที่ลดหลั่นลงมา เกิดจากกระแสธารกัดเซาะหินบะซอลต์เป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดสระน้ำธรรมชาติและชั้นหินรูปทรงแปลกตา

  • น้ำตก Gia Long (Gia Long Waterfall): เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่สวยงาม ซึ่งตั้งชื่อตามจักรพรรดิ Gia Long น้ำตกเหล่านี้สะท้อนถึงธรณีสัณฐานวิทยาแบบภูเขาไฟ (volcanic geomorphology) ที่น้ำมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์

3. ร่องรอยทะเลโบราณและหินบะซอลต์ภูเขาไฟ (Ancient Ocean Traces and Volcanic Basalt Rocks)

อุทยานธรณีดั๊กหน่องนำเสนอหลักฐานสองยุคทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง:

  • ยุคทะเลโบราณ: เมื่อ 140 ล้านปีที่แล้ว บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทร ดังที่ปรากฏในหินปูน (limestone) และการค้นพบฟอสซิลของแอมโมไนต์ (ammonites) ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลโบราณ การมีอยู่ของหินปูนและฟอสซิลเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมทางทะเลในยุคครีเทเชียส (Cretaceous period) (Ref: unesco.org).

  • ยุคภูเขาไฟ: ในช่วงประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมภูเขาไฟได้สร้างชั้นหินบะซอลต์ (basalt) ที่ปกคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ หินบะซอลต์เป็นหินอัคนีพุ (extrusive igneous rock) ที่มีเนื้อละเอียด เกิดจากการเย็นตัวอย่างรวดเร็วของลาวา หินบะซอลต์เหล่านี้ไม่เพียงเป็นองค์ประกอบหลักของภูมิทัศน์ แต่ยังเป็นแหล่งกำเนิดของดินบะซอลต์สีแดง (red basaltic soil) ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก

4. ปล่องภูเขาไฟ (Volcanic Craters)

อุทยานธรณีดั๊กหน่องเป็นที่ตั้งของปล่องภูเขาไฟ (volcanic craters) ที่ดับแล้วหลายแห่ง ซึ่งเป็นพยานถึงกิจกรรมภูเขาไฟในอดีต ปล่องภูเขาไฟเหล่านี้มีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือ Crater C7 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธรณีสัณฐานภูเขาไฟ (volcanic geomorphology) ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกลมหรือรูปไข่ เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ปล่องภูเขาไฟเหล่านี้มักจะถูกปกคลุมด้วยพืชพรรณและอาจมีทะเลสาบ (crater lakes) ขนาดเล็กอยู่ภายใน เป็นแหล่งศึกษาที่สำคัญสำหรับนักธรณีวิทยาและผู้ที่สนใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก (Earth's crust)

ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)

อุทยานธรณีดั๊กหน่องไม่เพียงเป็นแหล่งมรดกทางธรณีวิทยาที่โดดเด่น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) และวัฒนธรรม (cultural diversity) อันรุ่มรวย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่า และมนุษย์

ความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่า และมนุษย์ (Rock-Soil-Water-Forest-Human Relationship)

  • หิน (Rock) และดิน (Soil): หินบะซอลต์จากการปะทุของภูเขาไฟได้ผุพังกลายเป็นดินบะซอลต์สีแดง (red basaltic soil) ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ดินชนิดนี้เป็นรากฐานสำคัญของการเกษตรในท้องถิ่น โดยเฉพาะการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น กาแฟ พริกไทย และยางพารา ทำให้เกิดการตั้งถิ่นฐานและวิถีชีวิตของผู้คน

  • น้ำ (Water): เครือข่ายของแม่น้ำ ลำธาร และน้ำตกที่เกิดจากการกัดเซาะหินบะซอลต์ ไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตและการเกษตร แต่ยังสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทะเลสาบ Ta Dung, Ea Sno และ Dak Mil ก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน้ำจืดที่สนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ

  • ป่า (Forest): ด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพดินที่อุดมสมบูรณ์ อุทยานธรณีแห่งนี้จึงเป็นที่ตั้งของระบบนิเวศป่าเขตร้อน (tropical forest ecosystem) ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ซึ่งรวมถึงเขตป่าสงวนแห่งชาติ Nam Nung (Nam Nung Nature Reserve), อุทยานแห่งชาติ Ta Dung (Ta Dung National Park) และบางส่วนของอุทยานแห่งชาติ Yok Don (Yok Don National Park) ป่าเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด และมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและเป็นแหล่งคาร์บอน

  • มนุษย์ (Human): พื้นที่ดั๊กหน่องเป็นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 40 กลุ่ม รวมถึงชาว M'Nong, Ede และ Ma ซึ่งมีวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ พวกเขาได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยาและชีวภาพ สร้างสรรค์วิถีชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ หลักฐานของกิจกรรมมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (prehistoric human activities) ถูกค้นพบในถ้ำภูเขาไฟ ซึ่งรวมถึงลิโธโฟน (lithophone) เครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่ทำจากหินบะซอลต์เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว (Ref: unesco.org). นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรมฆ้องแห่งที่สูงตอนกลาง (Gong Culture Space of the Central Highlands) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก (UNESCO-recognized intangible cultural heritage) และมหากาพย์ Ot N'drong ที่สะท้อนถึงเรื่องราวและภูมิปัญญาของชาว M'Nong (Ref: vietnamtourism.gov.vn).

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกดั๊กหน่อง เป็นอัญมณีล้ำค่าที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของโลก ตั้งแต่พื้นทะเลโบราณไปจนถึงการปะทุของภูเขาไฟอันทรงพลัง ด้วยแหล่งธรณีวิทยาที่โดดเด่น ความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ และวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการท่องเที่ยวเชิงภูมิประเทศ (geo-tourism) และการเรียนรู้เชิงธรณีศาสตร์ การรับรองจากยูเนสโกไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าของดั๊กหน่องเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการอนุรักษ์มรดกอันยิ่งใหญ่นี้ นักเดินทางทุกคนมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของอุทยานแห่งนี้ ผ่านการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมการท่องเที่ยวและการส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้ "มหากาพย์แห่งไฟและน้ำ" และ "เสียงสะท้อนจากพื้นพิภพ" ของดั๊กหน่องยังคงดังก้องไปชั่วลูกหลาน

เอกสารอ้างอิง (References)

.

-------------------------

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward