iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

2028 หลั่งเซิน อุทยานธรณีโลก (Lang Son UNESCO Global Geopark)

 

อุทยานธรณีโลก หลั่งเซิน (Lang Son UNESCO Global Geopark) บันทึกทางธรณีวิทยาและอู่อารยธรรมแห่งเวียดนามเหนือ

อุทยานธรณีโลกยูนีสโกหลั่งเซิน (Lang Son UNESCO Global Geopark) ซึ่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในปี พ.ศ. 2568 นับเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งที่สี่ของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินปูนที่ทุรกันดารทางตอนเหนือของเวียดนาม ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติอันล้ำค่าที่บันทึกเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของโลกมายาวนานกว่า 500 ล้านปี ตั้งแต่ยุคที่พื้นดินแห่งนี้เคยเป็นก้นทะเลโบราณ ไปจนถึงการปะทุของภูเขาไฟและการวิวัฒนาการของระบบนิเวศต่างๆ บทความนี้จะนำพาท่านผู้อ่านเข้าสู่การเดินทางสำรวจมรดกทางธรณีวิทยาที่โดดเด่น ความหลากหลายทางชีวภาพ และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติในอุทยานแห่งนี้

อุทยานธรณีหลั่งเซิน ไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา (Geo-tourism) ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักในการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรณีวิทยา (Geoconservation) และการให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์โลก (Earth Science Education) แก่สาธารณชน การทำความเข้าใจถึงกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อนและคุณค่าของมรดกทางธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการปกป้องโลกของเรา เพื่อความยั่งยืนสำหรับคนรุ่นหลัง

บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา

อุทยานธรณีโลกหลั่งเซิน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 484,900 เฮกตาร์ (hectares) ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม โดยมีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยภูมิทัศน์หินปูนคาร์สต์ (karst limestone formations) ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นผลมาจากการกัดกร่อนของน้ำฝนและน้ำใต้ดินต่อหินปูนมายาวนานหลายล้านปี

ลักษณะภูมิประเทศ (Topography): ภูมิประเทศของอุทยานมีลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ถ้ำหินปูน (limestone caves) ที่สวยงาม และแอ่งน้ำธรรมชาติ (natural depressions) ที่เกิดจากการทรุดตัวของชั้นหินปูน ภูเขาหินปูนเหล่านี้มีส่วนสูงเฉลี่ย 400-700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายตลอดทั้งปี และมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,380 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ภูมิทัศน์คาร์สต์ที่เป็นเอกลักษณ์

ธรณีวิทยา (Geology): ธรณีวิทยาของอุทยานธรณีหลั่งเซินเป็นบันทึกทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ก้นทะเลโบราณไปจนถึงแผ่นดินที่ยกตัวขึ้นมาในปัจจุบัน หินที่เก่าแก่ที่สุดในอุทยานเผยให้เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในทะเลโบราณ เช่น ไทรโลไบต์ (trilobites) และแกรปโตไลต์ (graptolites) ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลยุคแรกที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นอาณานิคม เมื่อทะเลโบราณถอยร่นไป ก็ทิ้งร่องรอยของชั้นหินตะกอน (sedimentary rocks) ได้แก่ หินดินดาน (shale), หินทราย (sandstone) และหินปูน (limestone) รวมถึงภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ (volcanic landscapes) ในบางพื้นที่ ซึ่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางธรณีวิทยาที่หลากหลาย

กระบวนการเกิด (Formation Process): การก่อตัวของอุทยานแห่งนี้เริ่มต้นจากยุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic Era) เมื่อพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นทะเลตื้น มีการสะสมตัวของตะกอนและซากสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลกลายเป็นหินปูนและหินตะกอนอื่นๆ ต่อมาเกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (plate tectonics) ทำให้ชั้นหินเหล่านี้ถูกยกตัวขึ้นและพับงอเกิดเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ พร้อมกับกิจกรรมของภูเขาไฟในบางช่วงเวลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การกัดกร่อนของน้ำและลมได้สร้างสรรค์ภูมิทัศน์คาร์สต์ ถ้ำ และแอ่งยุบตัว (sinkholes) ที่เราเห็นในปัจจุบัน รวมถึงการสะสมตัวของตะกอนในแอ่งน้ำที่กักเก็บซากดึกดำบรรพ์ (fossils) อันล้ำค่า

แหล่งธรณีวิทยาสำคัญ (Key Geosites)

อุทยานธรณีโลกยูนีสโกหลั่งเซินมีแหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งล้วนเป็นพยานหลักฐานของการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

1. แอ่งหน่าเซือง (Na Duong Basin)

แอ่งหน่าเซืองเป็นแอ่งยุบตัวทางธรรมชาติ (natural depression) ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อประมาณ 20 ถึง 40 ล้านปีที่แล้ว (ช่วงยุคพาลีโอจีน-นีโอจีน, Paleogene-Neogene periods) แอ่งแห่งนี้ได้กักเก็บซากดึกดำบรรพ์จำนวนมาก ซึ่งเผยให้เห็นถึงระบบนิเวศเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด ซากดึกดำบรรพ์ที่ค้นพบให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (mammal migration) ระหว่างทวีปต่างๆ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงการเชื่อมโยงของผืนทวีปในอดีตได้ดียิ่งขึ้น แอ่งนี้จึงเปรียบเสมือนแคปซูลเวลาที่เก็บรักษาสภาพแวดล้อมโบราณไว้ให้เราได้ศึกษา [Reference 1]

2. เทือกเขาหินปูนบัคเซิน (Bac Son Limestone Massif)

เทือกเขาหินปูนบัคเซินเป็นเทือกเขาที่งดงามตระการตาซึ่งก่อตัวขึ้นจากการสะสมตัวของตะกอนก้นทะเลโบราณเช่นกัน การผุกร่อนและกัดเซาะของหินปูนได้สร้างสรรค์ภูมิทัศน์คาร์สต์ที่มีรูปร่างแปลกตาและหน้าผาสูงชันที่น่าทึ่ง นอกเหนือจากความงามทางธรณีวิทยาแล้ว เทือกเขาแห่งนี้ยังมีความสำคัญทางโบราณคดีอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการค้นพบร่องรอยของมนุษย์ยุคแรกๆ ในเวียดนาม เช่น เครื่องมือหิน (stone tools), เครื่องปั้นดินเผา (ceramic artifacts) และแหล่งฝังศพ (burial sites) ซึ่งให้ข้อมูลอันล้ำค่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์มนุษย์ในบริเวณนี้แสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยามีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและวัฒนธรรมของมนุษย์อย่างไร [Reference 1]

3. ถ้ำหน่าหล่า (Hang Na La Cave System)

ถ้ำหน่าหล่าเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของระบบถ้ำหินปูน (limestone cave system) ที่เกิดขึ้นภายในภูมิประเทศคาร์สต์ของอุทยาน การก่อตัวของถ้ำเหล่านี้เป็นผลมาจากกระบวนการคาร์สต์ (karstification) ซึ่งน้ำฝนที่ซึมผ่านรอยแตกในหินปูนจะละลายแคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) ออกไปอย่างช้าๆ จนเกิดเป็นโพรงและทางเดินใต้ดินขนาดใหญ่ ภายในถ้ำหน่าหล่ามักจะมีหินงอก (stalactites) และหินย้อย (stalagmites) ที่สวยงาม ซึ่งเกิดจากการสะสมตัวของแร่ธาตุที่ตกผลึกจากน้ำที่หยดลงมา แต่ละแท่งของหินงอกหินย้อยเป็นบันทึกการเติบโตทางธรณีวิทยาที่ใช้เวลาหลายพันปี ถ้ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งธรณีวิทยาที่สวยงาม แต่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น (endemic species) และอาจมีหลักฐานทางโบราณคดีที่ยังไม่ถูกค้นพบอีกด้วย [ข้อมูลจากเว็บไซต์ Lang Son Geopark]

ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Rock-Soil-Water-Forest-Human Relationship)

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่าไม้ และมนุษย์ เป็นหัวใจสำคัญที่หล่อหลอมความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมในอุทยานธรณีหลั่งเซิน

หินและดิน (Rock and Soil): ภูมิประเทศหินปูนและภูเขาไฟในอุทยานได้สร้างดินที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ (mineral-rich soils) ซึ่งเอื้อต่อการเกษตรกรรมในท้องถิ่น ดินเหล่านี้เหมาะสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น น้อยหน่า (custard apples) และโป๊ยกั๊ก (star anise) ซึ่งเป็นพืชที่ปรับตัวเข้ากับสภาพดินและภูมิอากาศของภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี ความอุดมสมบูรณ์ของดินจึงเป็นรากฐานของการดำรงชีวิตของชุมชน

น้ำและป่าไม้ (Water and Forest): ระบบถ้ำและรอยแตกในหินปูนทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ (natural water reservoirs) และเป็นทางระบายน้ำใต้ดินที่สำคัญ แหล่งน้ำเหล่านี้หล่อเลี้ยงป่าไม้เขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศเฉพาะในเขตป่าหินปูน ความหลากหลายทางชีวภาพในป่าของอุทยานเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขตสงวนธรรมชาติฮูเหลียน (Huu Lien Nature Reserve) ที่มีการบันทึกพืชชั้นสูงกว่า 794 ชนิด และสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำกับป่าไม้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

มนุษย์และวัฒนธรรม (Human and Culture): อุทยานธรณีหลั่งเซินเป็นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย เช่น ไต (Tay), นุง (Nung), เหยา (Dao) และซันจิ (San Chi) ผู้คนเหล่านี้ได้พัฒนาวัฒนธรรมและประเพณีที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติมายาวนานหลายศตวรรษ การทอผ้าแบบดั้งเดิม (traditional textile weaving) เป็นตัวอย่างหนึ่งของความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ วัฒนธรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สำคัญ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน (sustainable development) และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) ได้ในปัจจุบัน [Reference 2]

อุทยานธรณีโลกยูนีสโกหลั่งเซิน เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นห้องสมุดทางธรรมชาติที่บันทึกประวัติศาสตร์อันยาวนานของโลก เป็นพื้นที่ที่ความงามทางธรณีวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพ และมรดกทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้งได้ถักทอเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน การได้รับการรับรองจากยูเนสโกในปี พ.ศ. 2568 เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าอันโดดเด่นของอุทยานแห่งนี้ และเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ธรณีวิทยา และการให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์โลกแก่มวลมนุษยชาติ ผ่านการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาอย่างมีความรับผิดชอบ เราสามารถร่วมกันปกป้องและชื่นชมบันทึกทางธรรมชาติอันล้ำค่านี้ เพื่อให้เรื่องราวของโลกยังคงถูกเล่าขานต่อไปยังคนรุ่นหลัง

เอกสารอ้างอิง

.

-------------------------

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward