iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

2025 ซาราวักเดลต้า อุทยานธรณีโลก (Sarawak Delta UNESCO Global Geopark)

 

อุทยานธรณีโลกยูเนสโก ซาราวักเดลต้า (Sarawak Delta UNESCO Global Geopark) มรดกธรณีแห่งบอร์เนียว สู่การท่องเที่ยวเชิงธรณีอย่างยั่งยืน

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกซาราวักเดลต้า ในประเทศมาเลเซีย เป็นแหล่งมรดกทางธรณีวิทยา ชีวภาพ และวัฒนธรรมอันโดดเด่น ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในฐานะอุทยานธรณีโลกยูเนสโก (UNESCO Global Geopark - UGGp) เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 ณ เมืองเตมูโก ประเทศชิลี นับเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับรัฐซาราวักให้เป็นผู้เล่นหลักในเวทีการท่องเที่ยวเชิงธรณี (Geo-tourism) และการอนุรักษ์มรดกโลกอย่างยั่งยืน แม้การรับรองอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการบริหารยูเนสโก (UNESCO Executive Board) จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2569 ณ กรุงปารีส อุทยานธรณีแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,112 ตารางกิโลเมตร ในเขตคูชิง (Kuching), เบา (Bau), ปาดาวัน (Padawan) และซีบูราน (Siburan) รวมไปถึงบางส่วนของเขตซามาราฮัน (Samarahan)

การจัดตั้งอุทยานธรณีแห่งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์โลก (Earth Science Education) ที่สำคัญอีกด้วย โดยนำเสนอหลักฐานทางธรณีวิทยาที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของโลกมานานกว่า 250 ล้านปี ผ่านการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก (Tectonic Movements) การก่อกำเนิดของหินโบราณ (Ancient Schists) ถ้ำหินปูน (Limestone Caves) และหน้าผาริมทะเล (Coastal Cliffs) ที่ล้วนเป็นเสมือนห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ การส่งเสริมการอนุรักษ์ธรณีวิทยา (Geoconservation) และการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับคุณค่าของมรดกธรณีเหล่านี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจและหวงแหนโลกที่เราอาศัยอยู่ การเดินทางมาเยือนอุทยานธรณีซาราวักเดลต้าจึงไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับโลกและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา (Geographical & Geological Context)

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกซาราวักเดลต้าตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกของรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 3,112 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศของอุทยานมีความหลากหลายอย่างยิ่ง ประกอบด้วยพื้นที่ราบต่ำชายฝั่ง (Coastal Lowlands) ป่าชายเลน (Mangrove Forests) ระบบแม่น้ำเดลต้า (River Deltas) และเนินเขาสูงต่ำ โดยมีแนวชายฝั่งที่งดงาม หน้าผาทราย (Sandstone Cliffs) และถ้ำหินปูน (Limestone Caves) ที่เป็นเอกลักษณ์

ประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของภูมิภาคนี้ย้อนกลับไปกว่า 250 ล้านปี ก่อกำเนิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (Tectonic Movements) ซึ่งเชื่อมโยงเรื่องราวทางธรณีวิทยาของภูมิภาคนี้เข้ากับทวีปยุโรปและเอเชีย อุทยานแห่งนี้ได้รับการยอมรับในฐานะอุทยานธรณีแห่งชาติในปี พ.ศ. 2565 และปัจจุบันได้ยกระดับสู่การเป็นอุทยานธรณีโลกยูเนสโก

ภายในอุทยานธรณีซาราวักเดลต้ามีแหล่งธรณีวิทยาที่มีความสำคัญระดับนานาชาติมากกว่า 42 แห่ง โดย 28 แห่งเป็นแหล่งธรณีหิน (Rock Geosites) ที่นำเสนอห้องปฏิบัติการธรรมชาติสำหรับการศึกษาธรณีวิทยาและวิทยาศาสตร์โลก แสดงให้เห็นถึงการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่สำคัญและประเภทหินที่หลากหลาย อาทิ หินชีสต์โบราณ (Ancient Schists), หินเซอร์เพนทิไนต์ (Serpentinites) และซากดึกดำบรรพ์ (Fossils) ต่างๆ ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอดีตของโลก นอกจากนี้ยังมีถ้ำหินปูนที่น่าประทับใจ หน้าผาริมทะเล และการก่อตัวของหิน (Rock Formations) ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นบันทึกทางวิทยาศาสตร์วิวัฒนาการทางธรณีวิทยาของซาราวัก เผยให้เห็นว่าเปลือกโลกมีการพัฒนาผ่านเหตุการณ์แผ่นเปลือกโลกที่สำคัญอย่างไรตลอดช่วงเวลาหลายล้านปี

แหล่งธรณีวิทยาสำคัญ (Key Geosites)

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกซาราวักเดลต้าเป็นที่ตั้งของแหล่งธรณีวิทยาที่มีความสำคัญระดับนานาชาติหลายแห่ง ซึ่งนำเสนอหลักฐานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ธรณีวิทยาของโลก โดยมี 3-5 แหล่งสำคัญที่ควรกล่าวถึงดังนี้:

1. เมลันจ์ตันจุงอดัม (Mélange Tanjung Adam)

รายละเอียดทางธรณีวิทยา: เมลันจ์ตันจุงอดัมเป็นชุดหินที่ซับซ้อน (Complex Assemblage of Rocks) ซึ่งประกอบด้วย หินเชิร์ตสีดำ (Black Chert), หินเชิร์ต (Chert), หินเซอร์เพนทิไนต์ (Serpentinite), หินฟิลไลต์ (Phyllite), หินเมตาบาซอลต์ (Metabasalt), หินเมตากรีแวกเค (Metagreywacke) และหินบล็อก (Rock Blocks) กับเศษหิน (Fragments) อื่นๆ การก่อตัวของหินเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญของการขยายตัวหลังการชนกันของแผ่นเปลือกโลก (Post-collision Extension) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกเกิดการแยกตัวออกหลังจากที่เคยชนกัน ทำให้เกิดโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อนและน่าสนใจอย่างยิ่ง เมลันจ์ (Mélange) โดยทั่วไปแล้วคือหินที่ผ่านการบีบอัดและผสมปนเปกันอย่างรุนแรงจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดลักษณะทางธรณีวิทยาที่ไม่เป็นระเบียบแต่เต็มไปด้วยข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของแผ่นเปลือกโลก

2. ถ้ำลมและถ้ำนางฟ้า (Wind Cave and Fairy Cave)

รายละเอียดทางธรณีวิทยา: ถ้ำลมและถ้ำนางฟ้าตั้งอยู่ในเมืองเบา (Bau) เป็นแหล่งธรณีวิทยาที่โดดเด่นด้วยการก่อตัวของหินปูน (Limestone Features) ที่น่าประทับใจ ถ้ำเหล่านี้เป็นผลมาจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินต่อหินปูน ซึ่งเป็นหินตะกอน (Sedimentary Rock) ที่เกิดจากการสะสมตัวของซากสิ่งมีชีวิตในทะเล โดยเฉพาะเปลือกหอยและโครงกระดูกของสัตว์ทะเลขนาดเล็ก การกัดเซาะของน้ำที่ซึมผ่านรอยแตกของหินปูนได้ละลายแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) และสร้างโพรงถ้ำขึ้นมา ภายในถ้ำจะพบเห็นหินงอก (Stalactites) ที่ห้อยลงมาจากเพดานถ้ำ และหินย้อย (Stalagmites) ที่งอกขึ้นมาจากพื้นถ้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการตกตะกอนของแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกน้ำพามา การก่อตัวเหล่านี้ใช้เวลาหลายพันถึงหลายล้านปี ทำให้ถ้ำเหล่านี้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่จัดแสดงกระบวนการทางธรณีวิทยาอย่างต่อเนื่อง

3. อุทยานแห่งชาติบาโก (Bako National Park)

รายละเอียดทางธรณีวิทยา: อุทยานแห่งชาติบาโกเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดของรัฐซาราวัก ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหน้าผาทราย (Sandstone Cliffs) และโขดหินริมทะเลที่สวยงาม หินทราย (Sandstone) เป็นหินตะกอนที่เกิดจากการสะสมตัวของเม็ดทรายที่ถูกอัดและเชื่อมติดกันตลอดช่วงเวลาทางธรณีวิทยา หน้าผาและโขดหินในอุทยานแห่งชาตินี้แสดงให้เห็นถึงการกัดเซาะของคลื่นทะเลและลม (Wave and Wind Erosion) ที่กระทำต่อชั้นหิน ทำให้เกิดรูปทรงแปลกตาและโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่ง รวมถึงเสาหินธรรมชาติ (Sea Stacks) และถ้ำทะเล (Sea Caves) ซึ่งเป็นหลักฐานของกระบวนการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของชายฝั่งทะเล (Coastal Geomorphological Processes) อย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สร้างภูมิทัศน์ที่หลากหลายและมีคุณค่าทางธรณีวิทยาอย่างยิ่ง

4. เขาวงกตหินปากู (Paku Rock Maze)

รายละเอียดทางธรณีวิทยา: เขาวงกตหินปากูได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในแหล่งธรณีวิทยาสำคัญของอุทยานธรณีซาราวักเดลต้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางธรณีวิทยาเฉพาะเกี่ยวกับลักษณะการก่อตัวและประเภทหินที่ชัดเจนยังไม่ได้รับการยืนยันจากรายงานที่รวบรวมได้ (no confirmed data from the provided report). โดยทั่วไปแล้ว "เขาวงกตหิน" มักจะหมายถึงพื้นที่ที่มีการก่อตัวของหินที่ซับซ้อนและมีเส้นทางคดเคี้ยว ซึ่งอาจเกิดจากกระบวนการกัดเซาะที่แตกต่างกันของหินหลายประเภท หรือการแตกหักของชั้นหินที่ก่อให้เกิดร่องรอยคล้ายเขาวงกต จึงเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจเพิ่มเติมทางธรณีวิทยาในอนาคต

ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกซาราวักเดลต้าไม่เพียงแต่มีมรดกทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างหิน (Rock), ดิน (Soil), น้ำ (Water), ป่า (Forest) และมนุษย์ (Human)

ความหลากหลายทางชีวภาพ: ภูมิประเทศที่หลากหลายของอุทยานประกอบด้วยระบบนิเวศ (Ecosystems) หลายประเภท ได้แก่ ป่าชายเลน (Mangrove Forests), ป่าดิบชื้นเขตร้อน (Tropical Rainforests), พื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง (Coastal Wetlands) และป่าพรุ (Peat Swamps) ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิด รวมถึงสัตว์เฉพาะถิ่น (Endemic) และสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species) เช่น ลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey) ที่พบมากในป่าชายเลนและพื้นที่เดลต้า, อุรังอุตังบอร์เนียว (Bornean Orangutan) ที่อาศัยอยู่ในป่าฝน และนกเงือก (Hornbill) หลายชนิด ป่าเหล่านี้ยังเป็นแหล่งรวมของนกหายากและต้นไม้โบราณที่สำคัญ พื้นที่ถ้ำหินปูน เช่น ถ้ำลมและถ้ำนางฟ้า ยังเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชจำพวกเฟิร์น (Fern Species) ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมเฉพาะของถ้ำได้ อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่คุ้มครองทั้งหมด (Totally Protected Areas) 11 แห่ง รวมถึงอุทยานแห่งชาติ (National Parks) 6 แห่ง เขตสงวนธรรมชาติ (Nature Reserves) 4 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Sanctuary) 1 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติบาโก (Bako National Park) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเซเมงโกห์ (Semenggoh Nature Reserve) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของซาราวัก

ความหลากหลายทางวัฒนธรรม: อุทยานธรณีซาราวักเดลต้าเป็นแหล่งรวมของชุมชนพื้นเมือง (Indigenous Communities) ที่หลากหลาย ซึ่งมีวิถีชีวิตและประเพณีที่ผูกพันกับผืนดินมาอย่างยาวนาน ชุมชนเหล่านี้ได้แก่ ชาวบิดายูห์ (Bidayuh), ชาวอีบัน (Iban), และชาวมาเลย์ (Malay) รวมถึงชาวจีน (Hakka) และชาวมาเลย์เชื้อสายชวา ชุมชนบิดายูห์ในอดีตมักอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขา ขณะที่ชาวมาเลย์ซาราวักเป็นชุมชนชายฝั่งที่มีมรดกทางทะเลที่เข้มแข็ง ชาวฮากกาได้นำความเชี่ยวชาญด้านการทำเหมืองทองคำมาสู่เมืองเบาในราวคริสต์ทศวรรษ 1820

มรดกทางวัฒนธรรมของอุทยานแห่งนี้มีทั้งที่เป็นรูปธรรม (Tangible Heritage) เช่น แหล่งโบราณคดีที่คาบสมุทรซันตูบง (Santubong Peninsula) ซึ่งเป็นแหล่งที่พบหลักฐานการถลุงเหล็ก เครื่องปั้นดินเผาจีน และวัตถุฮินดู แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมในอดีต และยังเป็นแหล่งที่ตั้งของหมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก (Sarawak Cultural Village) ที่จัดแสดงวิถีชีวิตและประเพณีของชนเผ่าต่างๆ ส่วนมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่เป็นรูปธรรม (Intangible Heritage) คือองค์ความรู้และประเพณีที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งชาวบ้านยังคงยึดถือและปฏิบัติอยู่ ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติผ่านแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นผ่านการพักแบบโฮมสเตย์ (Homestays) และการทัวร์วัฒนธรรม (Cultural Tours) ซึ่งเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

อุทยานธรณีโลกยูเนสโกซาราวักเดลต้า เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของโลก ความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าทึ่ง และมรดกทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก การได้รับการยอมรับในฐานะอุทยานธรณีโลกยูเนสโกเป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าสากลของภูมิภาคนี้ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรณีอย่างยั่งยืน การเยี่ยมชมอุทยานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและเรียนรู้กระบวนการทางธรณีวิทยา แต่ยังเป็นการส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์โลกอีกด้วย ด้วยแนวทางการบริหารจัดการที่เน้นการปกป้อง การให้ความรู้ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น อุทยานธรณีซาราวักเดลต้าจึงเป็นต้นแบบของการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ เพื่อส่งต่อมรดกอันยิ่งใหญ่นี้ไปยังคนรุ่นอนาคต

เอกสารอ้างอิง (References)

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward