iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
#เราจะสู้โควิดไปด้วยกัน #เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน #ไทยชนะ
---------------------------------------------
ดูเพิ่มเติมเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ได้ที่
COVID-19 รวมความรู้ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 (COVID-19)
---------------------------------------------
Covid-19 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวมาวันนี้เราทุกคนมีหน้าที่
? มาวันนี้เราทุกคนมีหน้าที่ ข้อมูลที่ดีจะช่วยเราได้ รวมแหล่งข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับ Covid-19
? ติดตามข้อมูล Covid-19 Real Time สถิติเพื่อเฝ้าระวัง
? สรุปคนป่วย ตาย หายป่วย จาก Covid-19 (Corona virus) จากทุกประเทศทั่วโลก ได้ตลอดเวลา
https://multimedia.scmp.com/widgets/china/wuhanvirus/
?? เว็บแสดงข้อมูล COVID 19 ของไทยที่ดีมากๆ ละเอียดมีข้อมูลหลายมุม
?? ตรวจสอบพื้นที่เจอ Covid-19 ในไทยแบบ real time
? Covid-19 ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
?? ไม่ใช่แค่เรื่องของจีนแล้ว
? แต่เป็นหน้าที่เราทุกคนในโลกต้องช่วยกันดูแล
? คนเป็น/คนเสี่ยง ต้องกันตัวเอง
? คนยังไม่เป็นต้องดูแลตัวเอง อย่าให้เป็นเพิ่ม
? ควรศึกษาทำความรู้ความเข้าใจในโรคนี้ให้มากๆ
https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php
? สละเวลาดู
https://www.facebook.com/1683658098593742/posts/2362974713995407/
? คลิปนี้จะทำให้คุณรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับ #Covid19 เพิ่มเติมใน 3 ประเด็น คือ
?? 1. ตอนนี้ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงแล้วหรือยัง?
? 2. การจำกัดระยะของโรคติดต่อ แนวทางการรับมือ Covid-19 ระยะ 3
? 3. Self Quarantine กับค่าตัวเลข 14 วัน
? เนื้อหายาวหน่อยแต่ดี อย่าตระหนกกันเกินไป https://siamrath.co.th/n/137460
?? จีนยังพยายามหาคนแรก (Covid=19 no.0)
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2031266
? ข้อสรุปอนามัยโลก
? ข้อสรุป 25 ผู้เชี่ยวชาญ WHO หลังปฏิบัติงานได้ 9 วันในจีน
มีประโยชน์มากครับ สำหรับการระวังป้องกัน ด้วยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รายงานชิ้นนี้เชื่อถือได้ครับ
https://www.tcijthai.com/news/2020/3/current/9970
? รวมประกาศที่สำคัญ
??️ ราชกิจจาฯประกาศกฏกระทรวงสธ.ให้ 4 ประเทศ เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย
https://www.thansettakij.com/content/normal_news/423674?ad=
? ก.พ.งัดโทษวินัย กักตัวขรก.กลับจากประเทศเสี่ยง
https://www.thansettakij.com/content/normal_news/423664?ad=
? ประกาศศาลปกครอง ห้ามเดินทางไป 11 ประเทศ
https://www.thansettakij.com/content/world/423142?line=
??️ ราชกิจจานุเบกษาประกาศ “โควิด-19” เป็นโรคติดต่ออันตราย มีผล 1 มี.ค. 63
https://today.line.me/TH/article/K3JNEm?utm_source=lineshare
? ควรดูนะ คนทั่วโลกกำลังสนใจชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยชื่อภาษาไทยว่า "สัมผัสล้างโลก" ไม่น่าเชื่อเลยว่าทุกขั้นตอนจะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ไวรัสโควิด 19 เชิญชมเรื่องย่อของภาพยนตร์นี้ตามคลิปที่ได้แนบมา ขอบคุณคลิปนี้เป็นอย่างมากที่ทำให้เราได้เห็นวิธีการที่โรคนี้ระบาดและความยากลำบากในการแสวงหาวัคซีนป้องกันรวมทั้งการเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งในภาพยนตร์เป็นการสูญเสียของบุคลากรทางการแพทย์ของอเมริกา แต่ในข้อเท็จจริงเป็นการสูญเสียของประเทศจีน ในหนังการเริ่มต้นยังมาจากสัตว์ที่ระบุว่าเป็นค้างคาว อีกด้วย
#เราจะสู้โควิดไปด้วยกัน #เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน #ไทยชนะ
---------------------------------------------
ดูเพิ่มเติมเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ได้ที่
COVID-19 รวมความรู้ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 (COVID-19)
---------------------------------------------
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เดินหน้า“ปั้น ปรุง เปลี่ยน” ผู้ประกอบการ SMEs ให้ดีพร้อม (DIprom)
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงนโยบายและทิศทางการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในปี พ.ศ. 2563 ว่า ในปีหน้าทาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จะดำเนินการตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการ “ปั้น ปรุง เปลี่ยน” เอสเอ็มอีให้ดีพร้อม (DIProm) ซึ่งในมิติของ
“การปั้น” ก็จะมีการดำเนินการ 3 เรื่อง “ก - ส - อ” 1) ก = เกษตรอุตสาหกรรม 2) ส = สร้างสรรค์ 3) อ = อัจฉริยะ
“การปรุง” ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงกระบวนการ หน่วยงานที่เป็นกลไกของการพัฒนาเอสเอ็มอีทั้งหมดในประเทศนี้ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่จะมาช่วยกันในการสร้างระบบนิเวศน์ในการพัฒนาเอสเอ็มอี
“การเปลี่ยน” คือการเปลี่ยนวิธีการทำงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยการปรับโครงสร้างภายใน คือ การตั้งกองเกษตรอุตสาหกรรมขึ้นมา การปรับปรุงศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้งหมดให้มีมิติในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสากรรมให้มากขึ้น ซึ่งก็จะตรงกับนโยบายของทางรัฐบาลในการให้เอสเอ็มอีเป็นหัวใจสำคัญในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และชุมชนของประเทศ
สำหรับเป้าหมายในปี พ.ศ. 2563 ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตั้งเป้าในการที่จะพัฒนาผู้ประกอบการกว่า 16,200 คน 2,200 กิจการ 9,600 ผลิตภัณฑ์ และ 70 กลุ่ม คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ได้ ถึงจะมีเป็นจำนวนมากแต่ต้องทำให้ทุกอึตสาหกรรมมีความเข้มแข็งและแข็งแรง ในปีนี้เป็นเป้าหมายของ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่จะ “ปั้น ปรุง เปลี่ยน” เอสเอ็มอีให้ดีพร้อม (DiProm) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ ให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน ให้ก้าวหน้ายั่งยืนต่อไป นายณัฐพล รังสิพล ผู้บริหารระดับสูง ได้กล่าวให้สัญญาและแสดงความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ
การดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับทาง กสอ. และพัฒนารายได้ขึ้นมาประมาณ 10 เท่า ซึ่งคิดว่าจะมีการขยายผลตรงนี้องค์กรของรัฐไม่สามารถทำงานได้ด้วยเพียงหน่วยงานเดียว แต่สามารถทำได้ด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชน ซึ่งก็จะมีเรื่องของ Big Brother โดยโครงการนี้จะเป็นลักษณะพี่ช่วยน้อง โดยที่รุ่นที่ 1 ช่วยรุ่นที่ 2 รุ่นที่ 2 ช่วยรุ่นที่ 3 ซึ่งถ้าสามารถดำเนินการตรงนี้ได้ก็จะช่วยใน 2 จุด จุดหนึ่งคือการพี่ช่วยน้อง อีกจุดหนึ่งคือการเข้าไปสู่ระบบดึงคนเข้าไปในการช่วยเหลือโดยไม่ต้องรอการอุดหนุนจากทางภาครัฐเพียงอย่างเดียว
-----------------------------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านอุตสาหกรรมเพิ่มเติม คลิกที่นี่
-----------------------------------------------------
#iok2u
www.iok2u.com
กิจกรรมปั้นปรุงเปลี่ยนธุรกิจใหม่ ให้ดีพร้อม และกิจกรรมที่สำคัญ 4 เรื่อง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เร่งทำผลงานช่วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและ SMEs เร่งออกมาตรการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อมาให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากมายหลายกิจกรรม สืบเนื่องจากการที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชชอบในการออกมาตรการและนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการระดับเล็กถึงระดับกลางหรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งมีจำนวนมาก โดยได้เร่งเดินเครื่องกำหนดทิศทางและนโยบายการทำงานในปี 2563 ที่จะเน้นการส่งเสริมและพัฒนา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ใน 3 ด้าน คือ เกษตรอุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ ซึ่งไม่เพียงแต่การเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเท่านั้น แต่การสร้างผู้ประกอบการใหม่ก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กสอ. จึงได้จัดกิจกรรม ปั้น ปรุง เปลี่ยน ธุรกิจใหม่ ให้ดีพร้อม เพื่อส่งเสริมและสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้มีศักยภาพและเติบโตเป็นผู้ประกอบการที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไปในอนาคต โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ 4 เรื่อง คือ
1. การสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้วิธีการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร การสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยนวัตกรรม (NEC) แนะนำจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืน แนะนำการจัดทำและวางแผนธุรกิจเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ในการดำเนินธุรกิจ และมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ จากการดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้ได้รับการพัฒนาศักยภาพมาแล้วกว่า 80,000 คน ก่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่กว่า 18,000 คน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 29,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ 1,000 ราย และมีกิจกรรมนำร่อง อาทิ NEC วัยเกษียณ และ NEC เกษตรอุตสาหกรรม
2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ประกอบการใหม่ เป็นการสร้างศักยภาพผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (S Curve) ได้แก่ สาขาการแปรรูปอาหารและอาหารแห่งอนาคต สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ และสาขาดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ โดยดำเนินงานภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน จัดให้มีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จนได้เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น พร้อมการทดสอบตลาดออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ต่อไป
3. การพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมรุ่นใหม่ ทำหน้าที่เสริมความรู้ทุกด้านที่จำเป็นเช่น อุตสาหกรรมการผลิต นวัตกรรม และการพัฒนาการตลาด ให้กับผู้สนใจที่อยากจะเป็นทำธุรกิจโดย อบรมให้ความรู้ในการสร้างแนวคิด ออกแบบธุรกิจ การวางแผนการดำเนินงาน การวัดผลกระทบเชิงสังคม รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำในรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ ของการขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม สนับสนุนผู้ประกอบการให้ใส่ใจต่อปัญหาทางสังคมและสร้างสรรค์ธุรกิจที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ในขณะเดียวกันก็สามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จด้านการเงิน โดยได้สร้างอาชีพและรายได้ให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม ตั้งแต่ปี 2559-2562 รวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการทำธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
4. แหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ โดย กสอ. ได้ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมนี้เป็นปีที่ 5 มีจุดประสงค์ เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการใหม่และสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ได้มีโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบเงินให้เปล่า เช่น กองทุนนางฟ้า ที่ช่วยสูงสุดรายละไม่เกิน 500,000 บาท วงเงินรวม 4 ล้านบาทต่อปี ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนไปแล้วกว่า 13 ล้านบาท
กิจกรรมปั้นปรุงเปลี่ยน จะสามารถช่วยผู้ประกอบการโดยเฉพาะ เอสเอ็มอี ให้ได้รับผลประโยชน์มากมาย เป็นการสร้างโอกาสพัฒนาผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเร่งให้เกิดการจัดตั้งและขยายธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง.
-----------------------------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านอุตสาหกรรมเพิ่มเติม คลิกที่นี่
-----------------------------------------------------
#iok2u
www.iok2u.com
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เริ่มใช้นิยาม SME ใหม่ ปี 2563
ดูเพิ่มเติม กฎกระทรวง กำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประกาศจะเริ่มใช้นิยามของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ใหม่ในปี 2563 จะเน้นการใช้จำนวนการจ้างงานและรายได้ ในการจัดแบ่งขนาดผู้ประกอบการทั้งนภาคผลิตและบริการ มุ่งเน้นลักษณะเฉพาะของแต่ละกลุ่มรวมถึงกลุ่ม Micro เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การจัดทำข้อมูล ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ที่สะท้อนระดับการพัฒนา SME นำไปสู่การจัดทำมาตรการและนโยบายในการส่งเสริมได้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่ม และเพื่อให้มาตรการภาครัฐเข้าถึงกลุ่มธุรกิจไมโคร (อ้างอิงข้อมูลในปี 2561 ธุรกิจไมโคร 2.6 ล้านราย สร้าง GDP ได้ถึง 650,000 ล้านบาทต่อปี)
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เริ่มดำเนินการตาม ราชกิจจานุเบกษา ที่ได้ประกาศกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ทำให้มีการกำหนดคุณลักษณะของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือที่มักเรียกว่า นิยามคำว่า SMEs จะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยจะใช้จำนวนการจ้างงานและรายได้เป็นเกณฑ์ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ ขนาดของวิสาหกิจและโครงสร้างทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป และเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ที่ให้นำ “จำนวนรายได้” มาใช้เป็นเกณฑ์กำหนดขนาดของวิสาหกิจ
จากข้อมูล ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา นิยาม SME มีการใช้จำนวนการจ้างงานและมูลค่าสินทรัพย์ถาวรเป็นเกณฑ์ แต่เมื่อประเทศพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจ 4.0 ภาค SME มีการปรับใช้เทคโนโลยีมากขึ้นแทนการจ้างงานทำให้รูปแบบธุรกิจต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป เช่น บางกิจการมีการจ้างงานไม่ถึง 10 คน แต่สร้างรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาทต่อปี กลุ่มนี้ก็ไม่น่าจะเป็น SME และโดยที่นิยาม SME มีความสำคัญ เพราะถูกนำไปใช้ในกระบวนการส่งเสริมผู้ประกอบการหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อออกมาตรการหรือนโยบายช่วยเหลือของภาครัฐ เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ รวมถึงเพื่อติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ของ SME เช่น การเงิน การส่งออก-นำเข้า ฯลฯ ทำให้ สสว. ได้ปรับปรุงแก้ไข นิยาม SME ให้ใช้รายได้เป็นเกณฑ์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากบอร์ดส่งเสริม SME คณะรัฐมนตรี และกฤษฎีกาฯ มาแล้วก่อนที่จะประกาศเป็นกฏกระทรวงดังกล่าว
สำหรับนิยาม SME ที่ปรับปรุงใหม่มีรายละเอียด ดังนี้
@ วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) คือ
- กิจการในภาคการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท
- กิจการในภาคการค้า (ค้าส่ง หรือค้าปลีก) และบริการ มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คน หรือมีรายได้ต่อปี ไม่เกิน 50 ล้านบาท
@ วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) คือ
- กิจการในภาคการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 - 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกินกว่า 100 – 500 ล้านบาท
- ส่วนกิจการในภาคการค้า (ค้าส่ง หรือค้าปลีก) และบริการ มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 30–100 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกินกว่า 50–300 ล้านบาท
- Micro คือ กลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท การจ้างงานไม่เกิน 5 คน
** ทั้งนี้ หากจ้างงานและรายได้ เข้าลักษณะของวิสาหกิจต่างกันให้ยึดรายได้เป็นหลักในการพิจารณา
จากการประมวลผลข้อมูลของ สสว. พบว่า
- จำนวน SME ทั่วประเทศ 3,070,177 ราย
- เป็น วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) 3,029,525 ราย และวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) 40,652 ราย
- กลุ่มวิสาหกิจขนาดย่อย รวมถึงกลุ่ม Micro มีจำนวนถึง 2,644,561 ราย และนับเป็นวิสาหกิจส่วนใหญ่ของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.74 ของจำนวนผู้ประกอบการรวมทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกิจการในรูปแบบธุรกิจส่วนบุคคลมีจำนวนถึง 2,253,132 ราย ขณะที่กิจการในรูปแบบนิติบุคคลมีจำนวน 391,429 ราย
- กลุ่ม Micro ที่เป็นธุรกิจส่วนบุคคล พบว่าอยู่ในภาคการค้ามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.58 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก คือ การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ รองลงมาอยู่ในภาคบริการ คิดเป็นร้อยละ 35.73 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก คือ บริการอาหารและเครื่องดื่ม และภาคการผลิต คิดเป็นร้อยละ 19.69 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก คือ การผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร
- กลุ่ม Micro ที่เป็นนิติบุคคล พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ คิดเป็นร้อยละ 56.33 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก เช่น ธุรกิจก่อสร้างอาคาร รองลงมาอยู่ในภาคการค้า คิดเป็นร้อยละ 31.99 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก เช่น การขายส่งยกเว้นยานยนต์และจักรยานยนต์ และ ภาคการผลิต คิดเป็นร้อยละ 11.68 กิจการที่มีเป็นจำนวนมาก เช่น ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร
- ด้านการส่งออกในปี 2562 (มกราคม-พฤศจิกายน) พบว่ากลุ่ม Micro และ SME หรือ MSME มีบทบาทด้านการส่งออกคิดเป็นมูลค่ารวม 910,089.90 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.36 ของการส่งออกรวมของประเทศ กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง มีมูลค่า 549,025.80 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.06 รองลงมาเป็นธุรกิจขนาดย่อม มีมูลค่า 258,212.40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.79
- กลุ่ม Micro มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 102,851.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.51 ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญ คือ ผลไม้และลูกนัต ที่บริโภคได้ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก และยานยนต์และส่วนประกอบ โดยมีตลาดสำคัญ คือ จีน เวียดนาม และ สปป.ลาว
จะเห็นได้ว่ากลุ่ม Micro มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การกำหนดลักษณะเฉพาะตัวที่ชัดเจนของแต่ละกลุ่ม จะช่วยให้ภาครัฐกำหนดนโยบายและมาตรการการส่งเสริมได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Micro ก็จะมีโอกาสเข้าถึงความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การพัฒนานศักยภาพที่สอดคล้องกับธุรกิจ ขณะเดียวกันจะนำไปสู่การจัดทำฐานข้อมูล ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่สะท้อนระดับการพัฒนาของวิสาหกิจแต่ละกลุ่มที่ชัดเจน รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลผู้รับบริการและผลการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม
กฎกระทรวง กำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562
--------------------------------------
ที่มา https://www.sme.go.th
เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward