iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

ระบบชลประทาน ตู้เจียงเอี้ยน (Dujiangyan irrigation system)

 

แผนที่โครงการชลประทานตู้เจียงเอี้ยน (Dujiangyan irrigation system)

google map https://maps.app.goo.gl/URN3imHHwtbXwUWFA

สุดยอดวิศวกรรมชลประทานแห่งยุคโบราณ: ตู้เจียงเอี้ยน มรดกโลกที่ยังคงก้องกังวานถึงปัจจุบัน

การเดินทางสู่ดินแดนแห่งมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ไม่เพียงเป็นการเยือนภูมิประเทศอันงดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการดำดิ่งสู่ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ได้รังสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาด้วยปัญญาและความเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง หนึ่งในความมหัศจรรย์เหล่านั้นคือ "ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยน" (Dujiangyan Irrigation System) มรดกโลกที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นเอกที่ไม่ธรรมดา เป็นพยานหลักฐานอันยิ่งใหญ่ของการทำงานร่วมกับธรรมชาติ มากกว่าการต่อสู้ฝืนกระแส ที่ยังคงหล่อเลี้ยงชีวิตและผืนแผ่นดินให้เจริญรุ่งเรืองมานานกว่าสองพันปี

ในโลกที่เต็มไปด้วยเขื่อนและสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ที่พยายามควบคุมธรรมชาติ ตู้เจียงเอี้ยนกลับโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยแนวคิดที่ไร้เขื่อน เป็นระบบที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อจัดการแม่น้ำหมินเจียงอันเกรี้ยวกราด ทั้งเพื่อป้องกันน้ำท่วมและส่งน้ำหล่อเลี้ยงที่ราบเฉิงตูอันอุดมสมบูรณ์ ทุกย่างก้าวที่ได้สัมผัสผืนดินแห่งนี้ คือการเดินทางข้ามกาลเวลาไปสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ทางวิศวกรรม ที่ซึ่งความรู้ด้านอุทกวิทยาและการสังเกตธรรมชาติถูกนำมาใช้อย่างกลมกลืนเพื่อสร้างสมดุลแห่งชีวิตอย่างยั่งยืน

จินตนาการถึงกระแสน้ำที่ไหลรินผ่านช่องทางที่ถูกกำหนดอย่างพิถีพิถัน ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่ยังคงรักษาสมดุลอันละเอียดอ่อนไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทุกองค์ประกอบของระบบตู้เจียงเอี้ยน ไม่ว่าจะเป็นสันดอนปากปลาหยูจุ่ย ประตูกั้นน้ำเฟยซาเหยียน หรือช่องทางเป่าผิงโข่ว ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมทางน้ำที่มีชีวิต ที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงความฉลาดล้ำของบรรพบุรุษชาวจีน แต่ยังสะท้อนถึงหลักปรัชญาเต๋าที่เชื่อในการบรรลุผลลัพธ์ผ่านการแทรกแซงที่น้อยที่สุด สอดประสานกับการไหลของพลังแห่งจักรวาล

การมาเยือนตู้เจียงเอี้ยนจึงไม่ใช่เพียงการมาชมสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นการมาเรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่าจากอดีต ที่ยังคงส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคต เป็นการเดินทางที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการค้นหาความจริง การชื่นชมในความชาญฉลาดของมนุษย์ และความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เมื่อผสานรวมกันอย่างลงตัวแล้ว ก็จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เพียงแต่คงทน แต่ยังคงคุณค่าและชีวิตชีวาให้แก่โลกใบนี้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตู้เจียงเอี้ยนจึงเป็นมากกว่าระบบชลประทาน เป็นมรดกแห่งภูมิปัญญาที่แท้จริง

สถานที่ตั้งและภูมิศาสตร์

ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยน ตั้งอยู่ในนครตู้เจียงเอี้ยน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเฉิงตู เป็นภูมิภาคที่มีสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีแม่น้ำหมินเจียง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาที่ยาวที่สุดของแม่น้ำแยงซี ไหลผ่าน ภูมิประเทศโดยรอบประกอบด้วยที่ราบเฉิงตูอันอุดมสมบูรณ์ และเทือกเขาชิงเฉิง ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า

ประวัติศาสตร์

ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยนเป็นสถาปัตยกรรมทางวิศวกรรมโบราณที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าทึ่ง ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นราว 256 ปีก่อนคริสตกาล (ประมาณ 2200 ปีที่แล้ว) โดยหลี่ปิง เจ้าเมืองแห่งราชวงศ์ฉิน พร้อมด้วยบุตรชายของเขา ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมน้ำท่วมจากแม่น้ำหมินเจียง และส่งน้ำเพื่อการชลประทานให้กับที่ราบเฉิงตูอันอุดมสมบูรณ์ การก่อสร้างเกิดขึ้นภายใต้การว่าจ้างของกษัตริย์จ้าวแห่งรัฐฉินในเวลานั้น

ความพิเศษของตู้เจียงเอี้ยนคือการเป็นระบบชลประทานที่ยังคงใช้งานได้จริงอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 2,200 ปี โดยไม่มีการใช้เขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งแตกต่างจากระบบชลประทานทั่วไป นี่คือสิ่งที่ทำให้ตู้เจียงเอี้ยนเป็นระบบชลประทานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงอยู่รอดและไม่มีเขื่อนกั้นน้ำ หลักการออกแบบอันแยบยลที่ทำงานร่วมกับธรรมชาติ แทนที่จะต่อสู้ขัดขวาง ได้สะท้อนถึงภูมิปัญญาและปรัชญาของชาวจีนโบราณอย่างชัดเจน

ในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยนพร้อมด้วยภูเขาชิงเฉิงได้รับการจารึกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งเป็นการยอมรับถึงคุณค่าสากลที่โดดเด่นภายใต้เกณฑ์ทางวัฒนธรรม (ii), (iv) และ (vi) นอกจากการเป็นมรดกโลกแล้ว ตู้เจียงเอี้ยนยังได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่คุ้มครองสำคัญของรัฐ เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกของพื้นที่ทัศนียภาพแห่งชาติและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นพื้นที่สาธิต ISO14000 แห่งชาติอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) ระบบนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นโครงสร้างชลประทานมรดกโลกโดยคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านการชลประทานและการระบายน้ำ (ICID)

ตู้เจียงเอี้ยนไม่เพียงเป็นโครงการวิศวกรรมไฮดรอลิกที่ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฉินเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องเคียงข้างคลองเจิ้งกว๋อและคลองหลิงฉูว่าเป็นหนึ่งใน "สามโครงการวิศวกรรมไฮดรอลิกที่ยิ่งใหญ่" ของยุคนั้น แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและวิศวกรรมของจีนโบราณที่ยังคงเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจมาจนถึงทุกวันนี้

ตำนานและความสำคัญ

ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยนไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยตำนานและความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ตำนานที่โดดเด่นที่สุดเกี่ยวข้องกับผู้ริเริ่มการก่อสร้าง คือ หลี่ปิง (Li Bing) เจ้าเมืองแห่งราชวงศ์ฉิน และบุตรชายของเขา เล่ากันว่าหลี่ปิงเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉพาะพฤติกรรมของแม่น้ำหมินเจียงที่มักจะสร้างความเดือดร้อนด้วยน้ำท่วมใหญ่ และในขณะเดียวกันก็ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ราบเฉิงตู

หลี่ปิงไม่เลือกที่จะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เพื่อสกัดกั้นแม่น้ำอย่างที่นิยมกัน แต่กลับเลือกใช้วิธีการที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยการแบ่งแยกและควบคุมกระแสน้ำอย่างชาญฉลาด ซึ่งสะท้อนถึงหลักปรัชญาเต๋าที่เน้นการทำงานร่วมกับพลังธรรมชาติ แทนที่จะต่อสู้ขัดขืน เขาเชื่อว่าการแทรกแซงที่น้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพ จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ยั่งยืนที่สุด แนวคิดนี้คือแก่นแท้ที่ทำให้ตู้เจียงเอี้ยนคงอยู่และทำงานได้อย่างสมบูรณ์มานานกว่าสองพันปี และยังคงหล่อเลี้ยงพื้นที่กว่า 5,300 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 3.3 ล้านไร่) ในปัจจุบัน

ในแง่ของสถาปัตยกรรม ระบบนี้ประกอบด้วยสามองค์ประกอบหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ:

  • หยูจุ่ย (Yuzui - สันดอนปากปลา): ไม่มีข้อมูลขนาดความสูงหรือความกว้างเป็นเมตรโดยเฉพาะ สันดอนนี้ทำหน้าที่คล้ายปากปลา โดยจะแบ่งแม่น้ำหมินเจียงออกเป็นสองช่องทางหลัก คือ ช่องทางด้านใน (Inner Channel) และช่องทางด้านนอก (Outer Channel) ช่องทางด้านในจะนำน้ำเข้าสู่ที่ราบเฉิงตูเพื่อการชลประทานและน้ำดื่ม ในขณะที่ช่องทางด้านนอกจะทำหน้าที่ระบายน้ำส่วนเกินและควบคุมน้ำท่วม การออกแบบนี้ทำให้สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้อย่างแม่นยำตามความต้องการในแต่ละฤดู

  • เฟยซาเหยียน (Feishayan - ประตูกั้นน้ำทรายบิน): ไม่มีข้อมูลขนาดความสูงหรือความกว้างเป็นเมตรโดยเฉพาะ ส่วนนี้ทำหน้าที่เป็นประตูกั้นน้ำที่ช่วยปรับการไหลของน้ำโดยอัตโนมัติ และที่สำคัญคือช่วยระบายตะกอนดินและทรายที่มากับน้ำออกไปสู่ช่องทางด้านนอก ทำให้ช่องทางด้านในไม่ตื้นเขินและคงความลึกที่เหมาะสมสำหรับการส่งน้ำ ระบบนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดการตะกอน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของระบบชลประทานทั่วไป

  • เป่าผิงโข่ว (Baopingkou - ช่องทางคอขวด): ไม่มีข้อมูลขนาดความสูงหรือความกว้างเป็นเมตรโดยเฉพาะ นี่คือช่องทางแคบๆ ที่ทำหน้าที่คล้ายคอขวด ช่วยควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ที่ราบเฉิงตู ไม่ให้มากเกินไปจนเกิดน้ำท่วม หรือน้อยเกินไปจนเกิดความแห้งแล้ง ช่องทางนี้เป็นหัวใจสำคัญในการรับประกันว่าจะมีน้ำเพียงพอและสม่ำเสมอสำหรับการเพาะปลูกในพื้นที่เกษตรกรรม

ความสำคัญทางวัฒนธรรมของตู้เจียงเอี้ยนยังเชื่อมโยงกับภูเขาชิงเฉิง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า ภายในบริเวณนี้มีวัดโบราณหลายแห่งที่เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณ ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาทางวิศวกรรมกับปรัชญาทางจิตวิญญาณที่เน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลปล่อยน้ำ (Water Releasing Festival) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อรำลึกถึงหลี่ปิงและคุณูปการของเขาในการสร้างระบบชลประทานนี้ ซึ่งถือเป็นการยกย่องและสืบทอดมรดกทางปัญญาและวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ไว้

ไฮไลท์และจุดที่น่าสนใจ

หยูจุ่ย (Yuzui - สันดอนปากปลา)

หยูจุ่ย หรือสันดอนปากปลา เป็นหัวใจสำคัญและนวัตกรรมอันชาญฉลาดที่สุดของระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยน ที่นี่คือจุดที่แม่น้ำหมินเจียงถูกแบ่งออกเป็นสองสายหลัก คือช่องทางด้านใน (Inner Channel) และช่องทางด้านนอก (Outer Channel) การออกแบบที่คล้ายปากปลานี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการสังเกตพฤติกรรมของแม่น้ำอย่างละเอียดและการทำความเข้าใจหลักอุทกวิทยาโบราณ การแยกช่องทางนี้ทำให้สามารถควบคุมการไหลของน้ำได้อย่างแม่นยำ โดยในฤดูน้ำหลาก น้ำส่วนใหญ่จะไหลลงสู่ช่องทางด้านนอกเพื่อป้องกันน้ำท่วม ในขณะที่ในฤดูแล้ง น้ำส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังช่องทางด้านในเพื่อการชลประทาน การทำงานของหยูจุ่ยเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของปรัชญา "การทำงานร่วมกับธรรมชาติ" ของหลี่ปิงและบุตรชาย แทนที่จะสร้างสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ตามมา พวกเขาเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากแรงธรรมชาติและรูปร่างของภูมิประเทศ สันดอนปากปลานี้ยังช่วยลดความเร็วของน้ำและลดปริมาณตะกอนที่ไหลเข้าสู่ช่องทางชลประทาน ทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมานานกว่าสองพันปี เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและยั่งยืน

เฟยซาเหยียน (Feishayan - ประตูกั้นน้ำทรายบิน)

เฟยซาเหยียน หรือประตูกั้นน้ำทรายบิน เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่แสดงถึงความอัจฉริยะในการออกแบบ ประตูกั้นน้ำนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมระดับน้ำและการระบายตะกอนออกจากระบบโดยอัตโนมัติ ด้วยการออกแบบที่เอื้อให้กระแสน้ำสามารถพัดพาเอาตะกอนดินและทรายที่สะสมอยู่ภายในช่องทางด้านในออกไปสู่ช่องทางด้านนอกได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพากลไกที่ซับซ้อนหรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ ชื่อ "ทรายบิน" มาจากการที่ตะกอนทรายจะถูกพัดลอยขึ้นคล้ายกำลังบินไปกับกระแสน้ำเมื่อระดับน้ำสูงขึ้น ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติที่ป้องกันไม่ให้ช่องทางด้านในตื้นเขินและขัดขวางการไหลของน้ำเพื่อการชลประทาน ความสามารถในการจัดการตะกอนได้อย่างมีประสิทธิภาพนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบตู้เจียงเอี้ยนสามารถคงความสะอาดและใช้งานได้ยาวนาน นับเป็นบทเรียนอันล้ำค่าในการจัดการทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืน และเป็นแรงบันดาลใจให้วิศวกรสมัยใหม่ได้ศึกษาและนำไปปรับใช้

เป่าผิงโข่ว (Baopingkou - ช่องทางคอขวด)

เป่าผิงโข่ว หรือช่องทางคอขวด คือประตูทางเข้าหลักที่ควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลจากช่องทางด้านในของแม่น้ำหมินเจียงเข้าสู่ที่ราบเฉิงตู ชื่อ "คอขวด" มาจากลักษณะทางกายภาพที่แคบลง ซึ่งจำกัดปริมาณน้ำที่สามารถไหลผ่านได้ ช่องทางนี้ได้รับการขุดเจาะผ่านเนินเขาที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอสำหรับการเกษตรกรรมและการบริโภคในที่ราบ แต่ไม่มากเกินไปจนทำให้เกิดน้ำท่วม การควบคุมที่แม่นยำนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและการผลิตทางการเกษตรในภูมิภาค ช่องทางคอขวดนี้เป็นผลมาจากการคำนวณและการวิเคราะห์อย่างรอบคอบเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับที่ราบเฉิงตูในแต่ละฤดูกาล มันทำหน้าที่เป็นวาล์วนิรภัยธรรมชาติที่ป้องกันไม่ให้กระแสน้ำที่รุนแรงของแม่น้ำหมินเจียงสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกในที่ราบ ความชาญฉลาดในการใช้ลักษณะทางธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมระบบชลประทานนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งในพลวัตของน้ำและภูมิประเทศ เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบเฉิงตูมานับพันปี

ภูเขา Qingcheng (Mount Qingcheng) / แหล่งมรดกโลก เป็นส่วนสำคัญที่ได้รับการจารึกให้เป็นมรดกโลกควบคู่ไปกับระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยน ภูเขาแห่งนี้ไม่เพียงเป็นทัศนียภาพที่งดงามและเขียวขจี แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยิ่งในฐานะหนึ่งในแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า มีวัดวาอารามและศาลเจ้าเต๋าโบราณตั้งอยู่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ให้บรรยากาศที่สงบเงียบและเต็มไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ การมาเยือนภูเขาชิงเฉิงเป็นการเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางสู่ตู้เจียงเอี้ยน เพราะมันสะท้อนถึงปรัชญาเดียวกัน นั่นคือการใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ผู้ที่มาเยือนสามารถเดินป่าตามเส้นทางที่ร่มรื่น ชมสถาปัตยกรรมโบราณ และดื่มด่ำกับความเงียบสงบที่หาได้ยาก ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใคร่ครวญและทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมจีนโบราณที่ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

- วัดเอ้อร์หวัง (Erwang Temple)

- สะพานแขวนอันหลัน (Anlan Cable Bridge)

ภายในบริเวณระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยนยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ วัดเอ้อร์หวัง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหลี่ปิงและบุตรชายของเขา ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษผู้สร้างระบบชลประทานที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ วัดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของระบบชลประทานและแม่น้ำหมินเจียงได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมี สะพานแขวนอันหลัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ "สะพานคู่รัก" ซึ่งเป็นสะพานแขวนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่และไม้ และได้รับการปรับปรุงใหม่ สะพานนี้ทอดข้ามแม่น้ำหมินเจียง เชื่อมต่อระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของระบบชลประทาน การเดินข้ามสะพานแห่งนี้ให้ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเป็นโอกาสที่ดีในการชื่นชมความงามของแม่น้ำและภูมิทัศน์โดยรอบ เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับมรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ

การเดินทางสู่ระบบชลประทานตู้เจียงเอี้ยน ไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยวตามแหล่งมรดกโลกเท่านั้น แต่เป็นการผจญภัยที่พาเราย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับความอัศจรรย์แห่งวิศวกรรมโบราณและความชาญฉลาดอันล้ำลึกของบรรพบุรุษชาวจีน ระบบชลประทานแห่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อันยิ่งใหญ่ว่ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมและทำงานร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน แทนที่จะพยายามเอาชนะ เป็นมรดกที่ยังคงมีชีวิตชีวา หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินและผู้คนมานานกว่าสองพันปี และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้เราเข้าใจถึงคุณค่าของการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน

ทุกองค์ประกอบของตู้เจียงเอี้ยน ตั้งแต่สันดอนปากปลาไปจนถึงช่องทางคอขวด ล้วนสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและปรัชญาที่ยึดมั่นในความเคารพธรรมชาติ การได้ยืนอยู่ริมแม่น้ำหมินเจียง มองดูสายน้ำที่ไหลผ่านช่องทางที่ถูกกำหนดอย่างแยบยล ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์โดยไม่ทำลาย แต่กลับเสริมสร้างให้ธรรมชาติงดงามและอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก

ตู้เจียงเอี้ยนจึงเป็นมากกว่าระบบชลประทาน เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความเพียรพยายาม และความเชื่อในพลังของปัญญาที่สามารถสร้างความดีงามให้แก่โลก การได้ชื่นชมในความงามและเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ จะปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้และการค้นหาความจริงในตัวเราทุกคน และทำให้เราตระหนักว่า มรดกที่แท้จริงคือสิ่งที่ยังคงส่งมอบคุณค่าและชีวิตชีวาให้แก่คนรุ่นหลังได้อย่างไม่สิ้นสุด ตู้เจียงเอี้ยนคือมรดกแห่งภูมิปัญญาที่แท้จริงที่ควรค่าแก่การสรรเสริญและการมาเยือนสักครั้งในชีวิต

.

-------------------------

ที่มา

-

รวบรวมข้อมูลและรูป

www.iok2u.com

-------------------------

ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่

เที่ยวจีน (Travel China)

เที่ยวรอบโลก (World Travel)

-------------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่

-

-

-

.

-------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward