ภูเขา Qingcheng และระบบชลประทาน Dujiangyan
แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก จีน (China)
google map https://maps.app.goo.gl/uBkbRofGdpWN1BPv8
ภูเขาชิงเฉิงและตูเจียงเอี้ยน: ตำนานเต๋า วิศวกรรมเหนือกาลเวลา และธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเสฉวน
ในใจกลางมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีดินแดนมหัศจรรย์สองแห่งที่หลอมรวมกันเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าของ UNESCO อย่างลงตัว ดินแดนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ภูเขาชิงเฉิงและเมืองตูเจียงเอี้ยน ที่ซึ่งความงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติมาบรรจบกับความอัจฉริยะทางวิศวกรรมของมนุษย์ และตำนานเก่าแก่ของลัทธิเต๋ายังคงดังก้องอยู่ในสายลมที่พัดผ่านยอดไม้ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่คือการเดินทางย้อนเวลาเข้าสู่ห้วงแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความศรัทธาอันลึกซึ้ง และความเข้าใจอันชาญฉลาดในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
จินตนาการถึงการยืนอยู่บนยอดเขาชิงเฉิง มองเห็นป่าไม้เขียวขจีที่ปกคลุมภูเขาทั้งลูกราวกับพรมธรรมชาติที่ทอด้วยไหมสีมรกต ท่ามกลางหมอกจางๆ ที่เคลื่อนคล้อยปกคลุมยอดเขา สัมผัสถึงพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เล่าขานกันว่าเป็นจุดกำเนิดของลัทธิเต๋า สูดอากาศบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสมุนไพรและดินชื้น ชวนให้จิตใจสงบและเบิกบาน ภูเขาแห่งนี้คือโอเอซิสแห่งความสงบ เป็นที่พำนักของวัดวาอารามโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมู่ไม้ แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ผสานเข้ากับภูมิทัศน์ได้อย่างกลมกลืน
ในขณะเดียวกัน ที่ราบเบื้องล่างนั้นเป็นที่ตั้งของระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยน สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจินตนาการ ระบบที่สร้างขึ้นเมื่อกว่าสองพันสองร้อยห้าสิบปีที่แล้วนี้ยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงผืนดินให้เจริญงอกงาม นี่คือเรื่องราวของหลี่ปิงและบุตรชายของเขา ผู้ซึ่งใช้ปัญญาอันเฉียบแหลมในการควบคุมพลังของแม่น้ำหมินเจียง โดยไม่สร้างเขื่อนกั้นที่ขวางทางธรรมชาติ แต่กลับใช้ความเข้าใจในกระแสน้ำและภูมิประเทศมาสร้างสรรค์ระบบที่ยั่งยืนและไร้กาลเวลา
การเดินทางมายังภูเขาชิงเฉิงและตูเจียงเอี้ยนจึงไม่ใช่แค่การชมทิวทัศน์ แต่เป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งการผจญภัยในเส้นทางเดินป่าอันคดเคี้ยว การค้นพบวิหารเต๋าที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง การชื่นชมความยิ่งใหญ่ของภูมิปัญญาโบราณ และการได้ใคร่ครวญถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับโลกธรรมชาติ ทุกย่างก้าวในสถานที่แห่งนี้จะปลุกเร้าความรู้สึกอัศจรรย์ใจ และความซาบซึ้งในมรดกที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และส่งต่อมาถึงปัจจุบัน ให้เราออกเดินทางสู่ดินแดนแห่งตำนานและวิศวกรรมอันน่าทึ่งแห่งนี้ไปพร้อมกัน
ความพิเศษของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้อยู่ที่การเป็นประจักษ์พยานถึงปรัชญา "การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน" ไม่ว่าจะเป็นหลักคำสอนของลัทธิเต๋าที่เน้นความสมดุลและความเรียบง่าย หรือระบบชลประทานที่เลียนแบบและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างชาญฉลาด ทุกองค์ประกอบล้วนสะท้อนถึงการเคารพและเข้าใจในวัฏจักรของโลก ความรู้สึกของความสงบ ความเคารพ และความตื่นตาตื่นใจจะเติมเต็มจิตวิญญาณของผู้มาเยือนทุกคน ทำให้การเดินทางนี้เป็นมากกว่าการพักผ่อน แต่เป็นการเติมพลังและแรงบันดาลใจจากมรดกอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
ทำเลที่ตั้งและภูมิศาสตร์
ภูเขาชิงเฉิงและเมืองตูเจียงเอี้ยนตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองตูเจียงเอี้ยน ซึ่งอยู่ห่างจากนครเฉิงตูไปทางตะวันตกประมาณ 68-70 กิโลเมตร ทำเลที่ตั้งนี้ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับจากเฉิงตู
ภูมิประเทศโดยรอบมีความหลากหลายและงดงามน่าทึ่ง ครอบคลุมทั้งหุบเขาแม่น้ำ เนินเขา และเทือกเขาสูง ภูเขาชิงเฉิงเป็นที่รู้จักจากยอดเขา 36 ยอดที่ปกคลุมด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มตลอดปี สร้างระบบนิเวศป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ ความสูงของภูเขาชิงเฉิงอยู่ที่กว่า 1,260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มอบทิวทัศน์อันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาของที่ราบเสฉวน
ในส่วนของระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยนนั้นตั้งอยู่บนแม่น้ำหมินเจียงที่ระดับความสูง 726 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของที่ราบเฉิงตู โดยระบบนี้ใช้ประโยชน์จากลักษณะทางภูมิประเทศและอุทกวิทยาตามธรรมชาติได้อย่างอัจฉริยะ แม่น้ำหมินเจียงไหลผ่านหุบเขาและที่ราบสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและความชาญฉลาดของมนุษย์ได้อย่างลงตัว
ภูมิอากาศของภูมิภาคนี้โดยทั่วไปจะอบอุ่นและชื้น โดยมีสี่ฤดูที่แตกต่างกัน ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เป็นช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุดสำหรับการมาเยือน อุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ในระดับที่สบายตัว เหมาะสำหรับการเดินสำรวจและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงาม ในขณะที่ฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) จะมีอากาศอบอ้าวและมีความชื้นสูง และเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งอาจทำให้เส้นทางบนภูเขาบางแห่งลื่นได้ ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะมีอากาศหนาวเย็น แต่ก็ยังคงความสวยงามในอีกรูปแบบหนึ่ง
ประวัติศาสตร์
เรื่องราวของภูเขาชิงเฉิงและตูเจียงเอี้ยนถักทอเข้าด้วยกันด้วยเส้นใยแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าอัศจรรย์ ซึ่งเป็นพยานถึงวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณและวิศวกรรมของอารยธรรมจีน
ระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยน: มหัศจรรย์แห่งวิศวกรรมชลประทานนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 256 ปีก่อนคริสตกาล หรือราว 2279 ปีมาแล้ว โดยหลี่ปิง (Li Bing) ข้าราชการผู้ชาญฉลาดแห่งรัฐฉิน เขาและบุตรชายได้ริเริ่มโครงการอันทะเยอทะยานเพื่อควบคุมกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากของแม่น้ำหมินเจียง ซึ่งมักก่อให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ทำลายล้างที่ราบเฉิงตู การออกแบบของหลี่ปิงนั้นโดดเด่นด้วยการไม่สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำ ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปในยุคนั้น แต่กลับใช้หลักการของการไหลเวียนและการแบ่งน้ำตามธรรมชาติ โดยสร้างระบบคลองและเขื่อนเทียมที่สามารถปรับทิศทางน้ำและระบายตะกอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบนี้ได้ถูกขยายและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน และหมิง และที่น่าทึ่งที่สุดคือ มันยังคงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบมานานกว่า 2,250 ปี จนถึงทุกวันนี้ กลายเป็นหนึ่งในโครงการชลประทานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้งานอยู่ และเป็นสัญลักษณ์ของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
ภูเขาชิงเฉิง: ประวัติศาสตร์ของภูเขาชิงเฉิงนั้นหยั่งรากลึกในความศรัทธาและปรัชญา โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋าจีน ในปี ค.ศ. 142 หรือราว 1883 ปีที่แล้ว นักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ นามว่า จางหลิง (Zhang Ling) หรือที่รู้จักกันในชื่อ จางเต้าหลิง ได้ก่อตั้งหลักคำสอนของลัทธิเต๋าขึ้นที่นี่ ด้วยการเผยแพร่ "วิถีแห่งข้าวห้าทะนาน" ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของลัทธิเต๋า วัดเต๋าจำนวนมากได้ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ในช่วงราชวงศ์จิ้นและถัง ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตและการแพร่กระจายของปรัชญาเต๋า ภูเขาชิงเฉิงยังคงเป็นศูนย์กลางทางปัญญาและจิตวิญญาณที่สำคัญสำหรับลัทธิเต๋า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลัทธิเต๋ากลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง สถานที่แห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงภูเขาที่สวยงาม แต่เป็นสถานที่ที่พลังแห่งจิตวิญญาณได้ก่อกำเนิดและดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน เป็นประจักษ์พยานถึงการเดินทางของจิตใจและศรัทธาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ตำนานและความสำคัญ
ภูเขาชิงเฉิงและระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยนไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นขุมทรัพย์แห่งตำนาน ปรัชญา และความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อและภูมิปัญญาของชาวจีนมานานนับพันปี
ตำนานภูเขาชิงเฉิงและการกำเนิดลัทธิเต๋า: ภูเขาชิงเฉิงเป็นที่เคารพสักการะในฐานะหนึ่งในแหล่งกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ตำนานเล่าว่า ในปี ค.ศ. 142 ปรมาจารย์จางหลิง (Zhang Ling) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์สวรรค์ (Heavenly Master) ได้เดินทางมายังภูเขาแห่งนี้และก่อตั้งนิกายเต๋า "วิถีแห่งข้าวห้าทะนาน" (The Way of the Five Pecks of Rice) ขึ้น ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับลัทธิเต๋าในประเทศจีน เขาได้ฝึกฝนวิชาเต๋าและบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จ ณ ถ้ำเทียนซื่อ (Tianshi Cave) ซึ่งกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้แสวงบุญและผู้ศรัทธาต่างมาเยือนเพื่อรำลึกถึงจุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ของปรัชญานี้ ภูเขาชิงเฉิงจึงเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของลัทธิเต๋า เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติและจิตวิญญาณผสานเป็นหนึ่งเดียว มอบแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนที่แสวงหาความสงบและปัญญา
สถาปัตยกรรมเต๋า: วัดเต๋าจำนวน 11 แห่งที่กระจายอยู่บนภูเขาชิงเฉิงเป็นตัวอย่างอันงดงามของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของเสฉวนตะวันตก โดยเน้นความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ วัดเหล่านี้สร้างขึ้นด้วยการใช้ไม้และหินเป็นหลัก มีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสง่างาม สะท้อนถึงปรัชญาเต๋าที่เน้นความเรียบง่ายและการไหลเวียนของธรรมชาติ ตัวอาคารต่างๆ มักมีการประดับประดาด้วยลวดลายแกะสลักที่ละเอียดอ่อน depicting สัญลักษณ์และเรื่องราวของลัทธิเต๋า การเลือกตำแหน่งของวัดที่อยู่ท่ามกลางป่าไม้และหุบเขา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อในการแสวงหาความสงบและความสมดุลในธรรมชาติ (ไม่มีข้อมูลสัดส่วนความสูง/ความกว้างของสถาปัตยกรรมเฉพาะ)
ระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยน: ระบบนี้เป็นมากกว่าแค่โครงการวิศวกรรม แต่คือผลงานชิ้นเอกที่แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะของมนุษย์ในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ระบบนี้ไม่เพียงแต่ควบคุมน้ำท่วมและจ่ายน้ำเพื่อการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมานานกว่าสองพันปี แต่ยังเป็น "ความคลาสสิกของอารยธรรม" และ "ผลงานชิ้นเอกแห่งความสร้างสรรค์อันอัจฉริยะ" ที่มอบหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของการอนุรักษ์น้ำในสมัยโบราณ ความสำเร็จนี้มีพื้นฐานมาจากปรัชญา "การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ" แทนที่จะพยายามเอาชนะมัน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาเต๋าที่เน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ การออกแบบ "เขื่อนปากปลา" ที่แบ่งแม่น้ำ และ "เขื่อนทรายบิน" ที่ระบายตะกอน ล้วนเป็นนวัตกรรมที่ไม่เพียงแก้ไขปัญหา แต่ยังสร้างระบบนิเวศน์ที่ยั่งยืน ความสำคัญของตูเจียงเอี้ยนจึงอยู่ที่การเป็นแบบอย่างของการพัฒนาที่เคารพธรรมชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน
ไฮไลท์และจุดที่น่าสนใจ
ภูเขาชิงเฉิงและระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยนนำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความงามของธรรมชาติ ความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ และความอัจฉริยะทางวิศวกรรมโบราณ แต่ละจุดมีความเป็นมาและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ชวนให้ค้นหาและสำรวจ
ในภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng)
ภูเขาชิงเฉิงเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักคือภูเขาด้านหน้าและภูเขาด้านหลัง ซึ่งแต่ละส่วนก็มอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป
ภูเขาชิงเฉิงด้านหน้า (Front Mountain): ภูเขาชิงเฉิงด้านหน้าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเต๋าและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ผู้มาเยือนจะได้เดินขึ้นสู่ยอดเขาตามทางเดินที่ได้รับการดูแลอย่างดี ซึ่งนำไปสู่วัดเต๋าโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์อันเงียบสงบช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความสงบทางจิตใจ วัดวาอารามเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้าง แต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาและเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเต๋ามานานหลายศตวรรณ์ การเดินป่าบนภูเขาด้านหน้าเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของลัทธิเต๋าอย่างลึกซึ้งสถานที่สำคัญบนภูเขาด้านหน้า ได้แก่
พระราชวังเจี้ยนฟู (Jianfu Palace) ซึ่งเป็นวัดเต๋าแห่งแรกบนภูเขาชิงเฉิง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีบึงน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านหน้า และอาคารที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิม ให้ความรู้สึกสงบและน่าเลื่อมใส ถัดไปคือ
ถ้ำเทียนซื่อ (Tianshi Cave) สถานที่ซึ่งปรมาจารย์จางเต้าหลิง ผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋า เคยเผยแพร่คำสอนและบำเพ็ญเพียร ถ้ำแห่งนี้เปรียบเสมือนหัวใจของลัทธิเต๋าบนภูเขาชิงเฉิง และยังคงมีบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมด้วยพลัง ผู้ที่มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความลึกซึ้งของปรัชญาเต๋าที่ฝังรากอยู่ที่นี่
พระราชวังซ่างชิง (Shangqing Palace) ซึ่งเป็นวัดเต๋าที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บนยอดเขาชิงเฉิงที่ระดับความสูงกว่า 1,500 เมตร มอบทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาโดยรอบ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินจากมุมสูง ภายในวัดมีการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณที่สำคัญ
ภูเขาชิงเฉิงด้านหลัง (Back Mountain): สำหรับผู้ที่แสวงหาการผจญภัยและการสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ภูเขาชิงเฉิงด้านหลังคือคำตอบ พื้นที่นี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ธรรมชาติอันบริสุทธิ์และเงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวเบาบางกว่าด้านหน้า ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่า พักผ่อน และเพลิดเพลินกับความงามของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาด้านหลังเป็นส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์แพนด้ายักษ์เสฉวน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย ผู้เยี่ยมชมจะได้พบกับน้ำตกที่ไหลริน ลำธารคดเคี้ยว ทะเลสาบที่ใสสะอาด และถ้ำลึกลับที่ชวนให้สำรวจ เส้นทางเดินป่าที่นี่มีตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงระดับที่ท้าทาย เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับ โดยมีทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทำให้การมาเยือนแต่ละครั้งมอบประสบการณ์ที่สดใหม่เสมอ
- ฐานวิจัยการเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ (Giant Panda Breeding Research Base) ตั้งอยู่บนภูเขาชิงเฉิง สถานที่แห่งนี้เป็นบ้านอันอบอุ่นสำหรับแพนด้ายักษ์ที่ได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟู แพนด้าวัลเลย์เป็นศูนย์อนุรักษ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย การป้องกันโรค และการช่วยเหลือแพนด้าในป่า ซึ่งมอบโอกาสพิเศษให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์สัญลักษณ์ของจีนชนิดนี้อย่างใกล้ชิด ผู้มาเยือนสามารถสังเกตพฤติกรรมของแพนด้ายักษ์ในสภาพแวดล้อมที่จำลองมาจากธรรมชาติ หรือแม้แต่เข้าร่วมโครงการอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือในการดูแลแพนด้า การได้เห็นแพนด้ากินไผ่เล่นอย่างเพลิดเพลินหรือปีนป่ายต้นไม้อย่างน่ารัก เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากจะลืมเลือน และยังเป็นการสนับสนุนความพยายามในการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์นี้ด้วย
- ระบบชลประทาน (irrigation system) / มรดกโลก
การเดินทางสู่ภูเขาชิงเฉิงและเมืองตูเจียงเอี้ยน เปรียบเสมือนการเปิดหน้าต่างสู่ห้วงเวลาอันยาวนาน ที่ซึ่งตำนาน เทคโนโลยี และธรรมชาติถักทอเข้าด้วยกันอย่างแยกไม่ออก จากยอดเขาชิงเฉิงที่ปกคลุมด้วยหมอกและป่าไม้เขียวขจี อันเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า ที่ซึ่งปรัชญาแห่งความสงบและกลมกลืนกับธรรมชาติได้ถือกำเนิดขึ้น คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังงานแห่งจิตวิญญาณและความเงียบสงบที่หาได้ยากยิ่งในโลกสมัยใหม่ ทุกวัดวาอารามและทุกก้าวเดินบนเส้นทางอันคดเคี้ยวล้วนนำพาไปสู่ความเข้าใจอันลึกซึ้งยิ่งขึ้นในมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่
เบื้องล่างนั้น คือสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งของระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยน ที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามานานกว่าสองพันสองร้อยห้าสิบปี สิ่งก่อสร้างที่ปราศจากเขื่อนแห่งนี้ เป็นประจักษ์พยานถึงความอัจฉริยะของมนุษย์ในการใช้ปัญญาและความเข้าใจในธรรมชาติ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตผู้คนนับล้านอย่างยั่งยืน ระบบแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คลองและเขื่อนเทียม แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับแม่น้ำ สะท้อนถึงปรัชญา "มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ" อย่างแท้จริง
ภูเขาชิงเฉิงและตูเจียงเอี้ยนจึงไม่ใช่แค่แหล่งมรดกโลกที่ต้องไปเยือน แต่เป็นการเดินทางที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ความอัศจรรย์ใจในความสำเร็จของอารยธรรมโบราณ และความซาบซึ้งในความงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นความสงบเงียบของวิหารเต๋าที่ซ่อนตัวอยู่ ความยิ่งใหญ่ของวิศวกรรมชลประทาน หรือความเขียวขจีของป่าไม้ที่โอบล้อม ทุกองค์ประกอบล้วนมอบประสบการณ์อันล้ำค่าที่มิอาจลืมเลือน และชวนให้เราใคร่ครวญถึงความสัมพันธ์อันยั่งยืนระหว่างมนุษย์ โลก และเวลา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันสุดมหัศจรรย์สู่หัวใจแห่งมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งอดีตและปัจจุบันมาบรรจบกันอย่างงดงามตระการตา
.
-------------------------
ที่มา
-
รวบรวมข้อมูลและรูป
-------------------------
ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่
-------------------------
ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
-
-
-
.
-------------------------