แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก ญี่ปุ่น 2013 ฟูจิซังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแรงบันดาลใจทางศิลปะ (Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration)

2013 ฟูจิซังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแรงบันดาลใจทางศิลปะ (Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration)

ฟูจิซัง: ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแรงบันดาลใจทางศิลปะ

ฟูจิซัง (Fujisan) หรือภูเขาฟูจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 (2013 C.E.) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 37 ด้วยชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ฟูจิซัง: ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแรงบันดาลใจทางศิลปะ" (Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration) แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภูเขาไฟรูปกรวยสตราโตโวลคาโน (stratovolcano) อันสง่างาม มีความสูง 3,776 เมตร ซึ่งมักปกคลุมด้วยหิมะ เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ได้เป็นแรงบันดาลใจให้นักศิลปะและกวีมานานหลายศตวรรษ และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของการจาริกแสวงบุญอย่างต่อเนื่อง

คุณค่าโดดเด่นสากล

คุณค่าโดดเด่นสากล (Outstanding Universal Value) ของฟูจิซังได้รับการยอมรับในหลายมิติหลัก ได้แก่:

• ธรรมเนียมปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา: ฟูจิซังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัตถุแห่งการบูชามานานหลายศตวรรษ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาแนวปฏิบัติทางศาสนาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างศาสนาชินโต (Shintoism) และพระพุทธศาสนา (Buddhism) ผู้แสวงบุญได้เดินทางขึ้นและลงยอดเขาตามเส้นทางที่กำหนดไว้ และมีการสร้างศาลเจ้า (shrines) รวมถึงบ้านพักแรมโอชิ (Oshi lodging houses) ขึ้นบริเวณเชิงเขา ความเชื่อในการได้รับพลังทางจิตวิญญาณจากการจาริกแสวงบุญบนภูเขาแห่งนี้ได้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

• แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ: รูปทรงกรวยที่สง่างามและมักปกคลุมด้วยหิมะของภูเขาฟูจิ ได้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ บทกวี และวรรณกรรมจำนวนนับไม่ถ้วนมาตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 (พุทธศตวรรษที่ 17) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพพิมพ์แกะไม้แบบอุคิโยะเอะ (Ukiyo-e woodblock prints) ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) โดยศิลปินอย่าง คัตสึชิกะ โฮกุไซ (Katsushika Hokusai) กับชุด "สามสิบหกมุมมองของภูเขาฟูจิ" (Thirty-Six Views of Mount Fuji) และ อุทางาวะ ฮิโรชิเงะ (Utagawa Hiroshige) ได้ส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อศิลปะตะวันตกและตอกย้ำภาพลักษณ์ของฟูจิซังให้เป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลของประเทศญี่ปุ่น

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม

ประวัติศาสตร์ของฟูจิซังในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นหยั่งรากลึกในวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยมีหลักฐานการบูชาภูเขามาตั้งแต่สมัยโบราณ ความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของภูเขาไฟได้ก่อตัวขึ้นเป็นประเพณีการบูชาภูเขาฟูจิ (Fujisan mountain worship) ซึ่งมีการผสมผสานแนวคิดจากศาสนาชินโตและพระพุทธศาสนาเข้าด้วยกัน ในทางปฏิบัติ การจาริกแสวงบุญเพื่อขึ้นสู่ยอดเขานั้นเป็นส่วนสำคัญของธรรมเนียมนี้ โดยมีศาลเจ้าเซ็นเง็นจินจะ (Sengen-jinja shrines) กระจายอยู่ตามเส้นทางและรอบเชิงเขา เพื่อเป็นจุดหยุดพักและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

ในด้านสถาปัตยกรรม ส่วนประกอบ 25 แห่งของแหล่งมรดกโลกฟูจิซังสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ไม่ได้มีเพียงภูเขาฟูจิเท่านั้น แต่ยังรวมถึงศาลเจ้าและสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการจาริกแสวงบุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเง็นไทฉะ (Fujisan Hongū Sengen Taisha shrine) และศาลเจ้าเซ็นเง็นจินจะอื่นๆ รอบฐานและปากปล่องภูเขาไฟ รวมถึงบ้านพักแรมโอชิ ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้แสวงบุญ สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงการพัฒนาระบบการบูชาภูเขา

ภูมิทัศน์ธรรมชาติ เช่น ถ้ำลาวา (lava tree molds) ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า (Fuji Five Lakes) เช่น ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) น้ำพุศักดิ์สิทธิ์โอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai springs) และน้ำตกชิราอิโตะ โนะ ทากิ (Shiraito no Taki waterfall) ล้วนเป็นส่วนสำคัญของแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความเกี่ยวข้องกับการบูชาภูเขา การสร้างสรรค์ทางศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์เหล่านี้ก็มีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายความศักดิ์สิทธิ์และความงดงามของฟูจิซังไปทั่วโลก โดยเฉพาะผลงานของ คัตสึชิกะ โฮกุไซ และ อุทางาวะ ฮิโรชิเงะ ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) ได้เปลี่ยนฟูจิซังให้กลายเป็นสัญลักษณ์ระดับโลก

ไฮไลต์สำคัญ

แหล่งมรดกโลก "ฟูจิซัง: ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแรงบันดาลใจทางศิลปะ" ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 25 แห่งที่แสดงถึงคุณค่าโดดเด่นสากล ได้แก่:

• ภูเขาฟูจิ: ตัวภูเขาไฟเอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความศักดิ์สิทธิ์และการเป็นแรงบันดาลใจ

• ศาลเจ้าเซ็นเง็นจินจะ (Sengen-jinja shrines): รวมถึงศาลเจ้าหลักอย่าง ฟูจิซังฮงกูเซ็นเง็นไทฉะ (Fujisan Hongū Sengen Taisha shrine), ศาลเจ้าปากปล่องภูเขาไฟ (crater shrines) และศาลเจ้าเซ็นเง็นจินจะบริเวณเชิงเขา ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการประกอบพิธีกรรมและการจาริกแสวงบุญ

• บ้านพักแรมโอชิ (Oshi lodging houses): สถานที่ที่เคยเป็นที่พักสำหรับผู้แสวงบุญ แสดงถึงธรรมเนียมการจาริกแสวงบุญ

• เส้นทางจาริกแสวงบุญ (pilgrim routes): เส้นทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รอบภูเขา

• แหล่งน้ำธรรมชาติ:

  • ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า (Fuji Five Lakes): กลุ่มทะเลสาบที่เกิดจากกิจกรรมภูเขาไฟ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของทัศนียภาพและวัฒนธรรมการบูชา

  • น้ำพุศักดิ์สิทธิ์โอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai springs): แหล่งน้ำพุบริสุทธิ์ที่ถือเป็นศักดิ์สิทธิ์

  • น้ำตกชิราอิโตะ โนะ ทากิ (Shiraito no Taki waterfall): น้ำตกที่สวยงามและมีความสำคัญทางจิตวิญญาณ

• ถ้ำลาวา (lava tree molds): คุณลักษณะทางธรณีวิทยาที่เกิดจากภูเขาไฟ ซึ่งถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

• ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ (Miho-no-Matsubara Pine Tree Grove): ได้รับการยอมรับจากการเชื่อมโยงที่แยกจากกันไม่ได้กับภูเขาฟูจิ โดยเฉพาะในการเป็นแรงบันดาลใจทางศิลปะ

คู่มือและข้อบังคับสำหรับผู้เยี่ยมชม

ฟูจิซังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างยิ่ง แม้ว่ารายงานการวิจัยนี้จะไม่ได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับข้อบังคับสำหรับผู้เยี่ยมชมโดยเฉพาะ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้เยี่ยมชมที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์บนฟูจิซัง ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางปีนเขาและช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งมักจะเปิดให้เข้าถึงในช่วงฤดูร้อน โดยมีการเตรียมพร้อมด้านร่างกายและอุปกรณ์ที่จำเป็น การรักษาสิ่งแวดล้อมและความเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญ การเดินทางตามเส้นทางจาริกแสวงบุญและเยี่ยมชมศาลเจ้าต่างๆ รอบเชิงเขาเป็นวิธีที่ดีในการสัมผัสคุณค่าทางวัฒนธรรมของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้

บทสรุป

ฟูจิซังเป็นแหล่งมรดกโลกที่ทรงคุณค่า ไม่เพียงเพราะความงดงามทางธรรมชาติอันน่าเกรงขามในฐานะภูเขาไฟรูปกรวยสูง 3,776 เมตร แต่ยังรวมถึงบทบาทอันยาวนานในฐานะดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ การบูชาภูเขาที่ผสมผสานระหว่างศาสนาชินโตและพระพุทธศาสนา รวมถึงอิทธิพลต่อศิลปะญี่ปุ่นและศิลปะตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านภาพพิมพ์แกะไม้ของศิลปินเอกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) ได้ตอกย้ำคุณค่าโดดเด่นสากลของฟูจิซัง ทำให้ภูเขาแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของประเทศญี่ปุ่นและของโลก

.

------------------------