2010 เกาะเชจู อุทยานธรณีโลก (JEJU ISLAND UNESCO GLOBAL GEOPARK)
อุทยานธรณีโลกยูเนสโก เกาะเชจู (Jeju Island UNESCO Global Geopark) มรดกธรณีแห่งภูเขาไฟในเกาหลีใต้
เกาะเชจู (Jeju Island) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานธรณีโลกยูเนสโก (UNESCO Global Geopark) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 และได้รับการรับรองสถานะอีกครั้งในปี พ.ศ. 2558 เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีความโดดเด่นด้วยภูมิประเทศภูเขาไฟที่เป็นเอกลักษณ์และทรัพยากรทางธรณีวิทยาอันทรงคุณค่า การเดินทางสู่เกาะเชจูไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นการผจญภัยทางธรณีวิทยาที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของโลก ส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์ธรณี (Geoconservation) และการศึกษาธรณีศาสตร์ (Earth Science education) ผ่านการสัมผัสกับภูมิทัศน์ที่ก่อกำเนิดมาหลายล้านปี
ความสำคัญของเกาะเชจูในฐานะอุทยานธรณีโลกไม่ได้จำกัดอยู่เพียงความงามตามธรรมชาติ แต่ยังรวมถึงบทบาทในการเป็น "มงกุฎสามยอด" (Triple Crown) แห่งยูเนสโก โดยเกาะเชจูเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนถึงสามสถานะ ได้แก่ อุทยานธรณีโลก (Global Geopark), แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ (World Natural Heritage Site) ในปี พ.ศ. 2550 และเขตสงวนชีวมณฑล (Biosphere Reserve) ในปี พ.ศ. 2545 ซึ่งตอกย้ำถึงคุณค่าทางธรณีวิทยา นิเวศวิทยา และวัฒนธรรมอันโดดเด่นในระดับโลก (unesco.org, unesco.org).
บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา
ภูมิประเทศ (Topography)
เกาะเชจูเป็นเกาะภูเขาไฟรูปไข่ที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและมีเนินเขาสูงชันเฉพาะบริเวณภูเขาฮัลลาซาน (Mount Hallasan) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ที่ระดับความสูง 1,950 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาไฟแบบโล่ (Shield Volcano) ในยุคควอเทอร์นารี (Quaternary Period) ที่มีความลาดชันไม่มากนัก มีชายฝั่งที่สวยงามและหลากหลาย ทั้งหาดทรายขาว แนวโขดหินภูเขาไฟ และหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเล
ธรณีวิทยา (Geology) และกระบวนการก่อกำเนิด (Formation Process)
เกาะเชจูก่อกำเนิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 2 ล้านปีจนถึงยุคประวัติศาสตร์ ลักษณะทางธรณีวิทยาที่สำคัญคือการมีหินบะซอลต์ (Basalt) และลาวา (Lava) เป็นองค์ประกอบหลัก หินบะซอลต์ที่มีรูพรุนสูงช่วยให้น้ำฝนซึมซาบลงสู่ใต้ดินได้ง่าย กลายเป็นแหล่งน้ำบาดาลหลักของเกาะ
กิจกรรมภูเขาไฟในช่วงแรกเริ่มของการก่อกำเนิดเกาะเชจูเกิดจากการปะทุแบบไฮโดรแมกมาติก (Hydromagmatic eruption) ซึ่งเป็นการปะทุของแมกมาที่สัมผัสกับน้ำทะเลตื้น ทำให้เกิดโครงสร้างภูเขาไฟที่เรียกว่า “หินกรวดภูเขาไฟรูปวงแหวน” (Tuff Ring) และ “กรวยภูเขาไฟแบบกรวย” (Tuff Cone) ที่พบได้ตามแนวชายฝั่ง เช่น วงแหวนหินภูเขาไฟซูวอลบง (Suwolbong tuff ring) และยอดเขาซองซานอิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong tuff cone)
ภูเขาฮัลลาซาน (Mount Hallasan) ซึ่งเป็นภูเขาไฟแบบโล่ มีปากปล่องภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยทะเลสาบ (Crater Lake) ชื่อ “แพ็กนกทัม” (Baengnokdam) ตั้งอยู่บนยอดเขา หินลาวาชนิดต่างๆ ตั้งแต่บะซอลต์ไปจนถึงแทรกีต์ (Trachyte) กระจายตัวอยู่ทั่วเกาะ โดยมีกรวยภูเขาไฟเล็กๆ ประมาณ 360 แห่ง หรือที่เรียกว่า "โอรึม" (Oreums) กระจายอยู่ทั่วภูมิประเทศของเกาะเชจู และมีถ้ำลาวา (Lava Tube Cave) ขนาดใหญ่มากมายหลายแห่งที่เกิดจากการไหลของลาวา (unesco.org, wikipedia.org).
แหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญ (Key Geosites)
อุทยานธรณีโลกเกาะเชจูมีแหล่งธรณีวิทยาที่โดดเด่นหลายแห่งที่แสดงถึงความหลากหลายของภูเขาไฟและกระบวนการทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ ดังนี้
ภูเขาฮัลลาซาน (Mount Hallasan) ภูเขาฮัลลาซานเป็นภูเขาไฟแบบโล่ (Shield Volcano) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเชจู และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ มีความสูงถึง 1,950 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ปากปล่องภูเขาไฟบนยอดเขาที่เรียกว่า "แพ็กนกทัม" (Baengnokdam) มีทะเลสาบขนาดเล็กที่สวยงาม ภูเขาแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุของลาวาบะซอลต์ที่มีความหนืดต่ำ ซึ่งไหลแผ่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดรูปทรงคล้ายโล่ที่ลาดชันน้อย ภูมิประเทศรอบภูเขาฮัลลาซานประกอบด้วยหินภูเขาไฟหลายชนิด เช่น หินบะซอลต์และแทรกีต์ รวมถึงรูปทรงภูเขาไฟขนาดเล็กที่เรียกว่า "โอรึม" (Oreums) ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วไป (unesco.org).
วงแหวนหินภูเขาไฟซูวอลบง (Suwolbong Tuff Ring) วงแหวนหินภูเขาไฟซูวอลบงเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูเขาไฟที่ก่อตัวจากกิจกรรมไฮโดรโวลแคนิก (Hydrovolcanic activity) ซึ่งเป็นการปะทุของแมกมาที่สัมผัสกับน้ำทะเลตื้น ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและทับถมของเถ้าภูเขาไฟและชิ้นส่วนหินภูเขาไฟ ก่อตัวเป็นโครงสร้างวงแหวนขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือพื้นผิวทะเล โครงสร้างชั้นหินที่เผยให้เห็นตามหน้าผาชายฝั่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการปะทุที่ซับซ้อนและร่องรอยของฟอสซิลพืชต่างๆ ทำให้เป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยาที่มีคุณค่ายิ่ง (unesco.org, investkorea.org).
ถ้ำมันจังกุล (Manjanggul Cave) ถ้ำมันจังกุลเป็นส่วนหนึ่งของระบบถ้ำลาวาคยอมูนโอรึม (Geomunoreum Lava Tube System) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบถ้ำลาวาที่งดงามที่สุดในโลก ถ้ำนี้มีความยาว 7.4 กิโลเมตร มีความกว้างถึง 23 เมตร และสูง 30 เมตร ภายในถ้ำแสดงให้เห็นถึงร่องรอยการไหลของลาวาที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ รวมถึงการก่อตัวของหินงอกหินย้อย (Speleothems) ที่มีสีสันสวยงาม ซึ่งเกิดจากการสะสมตัวของแร่คาร์บอเนตบนผนังถ้ำลาวา ถ้ำมันจังกุลเป็นถ้ำลาวาเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ (unesco.org, visitjeju.net).
ยอดเขาซองซานอิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong Tuff Cone) ยอดเขาซองซานอิลชุลบงเป็นกรวยภูเขาไฟที่สวยงามและโดดเด่น ตั้งตระหง่านอยู่กลางมหาสมุทร มีลักษณะคล้ายป้อมปราการที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟใต้น้ำประเภทเซอร์ทซีย์ (Surtseyan-type eruption) เมื่อประมาณ 120,000 ถึง 40,000 ปีก่อน การกัดเซาะของคลื่นทะเลได้เผยให้เห็นโครงสร้างตะกอนภายในของกรวยภูเขาไฟ รวมถึงชั้นหินที่สะสมตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจประวัติศาสตร์การปะทุของภูเขาไฟในช่วงแรกเริ่มของเกาะเชจู (unesco.org, wikipedia.org).
ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)
ความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่า และมนุษย์บนเกาะเชจูเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของระบบนิเวศที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน
หินและดิน (Rock & Soil): ภูเขาไฟและหินบะซอลต์ที่พบได้ทั่วเกาะเชจูเป็นรากฐานของดินที่มีลักษณะเฉพาะ ดินภูเขาไฟที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและมีรูพรุนสูงส่งผลต่อชนิดของพืชพรรณที่เจริญเติบโตบนเกาะ ความสามารถในการอุ้มน้ำของดินยังส่งผลต่อการไหลเวียนของน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเกาะ
น้ำ (Water): ด้วยลักษณะของหินบะซอลต์ที่มีรูพรุนสูง น้ำฝนส่วนใหญ่จะซึมซาบลงสู่ใต้ดิน กลายเป็นแหล่งน้ำบาดาลธรรมชาติที่สะอาดและอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดหลักสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรของชาวเกาะ นอกจากนี้ น้ำยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดระบบถ้ำลาวาและน้ำตกที่สวยงาม เช่น น้ำตกชอนจียอน (Cheonjiyeon Falls) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกัดเซาะของน้ำที่ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง
ป่า (Forest): เกาะเชจูมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยเฉพาะป่าไม้ ตั้งแต่ป่าสนอัลไพน์ (Alpine Coniferous Forest) บริเวณภูเขาฮัลลาซาน ไปจนถึงป่าดิบชื้นเขตอบอุ่น (Warm Temperate Evergreen Lucidophyll Forest) ในระดับความสูงที่ต่ำลง ป่าเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิด รวมถึงพืชเฉพาะถิ่นของเกาหลี 134 ชนิด โดย 90 ชนิดพบได้เฉพาะบนเกาะเชจูเท่านั้น นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เต่าตนุ (Green Sea Turtle), นกช้อนหอยหน้าดำ (Black-faced Spoonbill) และสิงโตทะเลสเตลเลอร์ (Steller Sea Lion) (unesco.org).
มนุษย์ (Human): ชาวเกาะเชจูได้พัฒนาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด ความเชื่อและประเพณีท้องถิ่นสะท้อนถึงการเคารพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าภูเขา (Mountain Gods) ที่สถิตอยู่ในภูเขาฮัลลาซาน นอกจากนี้ เกาะเชจูยังมีวัฒนธรรมการเกษตรที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพดินภูเขาไฟและน้ำบาดาล รวมถึงการทำประมงที่ยั่งยืน การมีสถานะเป็นเขตสงวนชีวมณฑลยังส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างมีความรับผิดชอบ (visitjeju.net).
อุทยานธรณีโลกยูเนสโกเกาะเชจู เป็นเพชรเม็ดงามแห่งภูมิศาสตร์ธรรมชาติ ที่ไม่เพียงมอบทัศนียภาพอันงดงามตระการตา แต่ยังเป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางธรณีวิทยาอันซับซ้อนที่หล่อหลอมโลกของเรา การผสมผสานระหว่างภูมิทัศน์ภูเขาไฟที่หลากหลาย ความอุดมสมบูรณ์ของชีวภาพ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่กลมกลืน ทำให้เกาะเชจูเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงธรณี (Geo-tourism) และนักศึกษาธรณีศาสตร์
การเดินทางมาเยือนเกาะเชจูจึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการเดินทางเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการอนุรักษ์โลกของเรา การปฏิบัติตามหลักจริยธรรมทางธรณีวิทยาและการมีส่วนร่วมในการปกป้องมรดกทางธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยให้เกาะเชจูยังคงเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นหลังต่อไป
เอกสารอ้างอิง (References)
-
UNESCO. (n.d.). Jeju Island UNESCO Global Geopark. Retrieved from https://www.unesco.org/en/iggp/jeju-island-unesco-global-geopark
-
UNESCO. (n.d.). Jeju Volcanic Island and Lava Tubes - UNESCO World Heritage Centre. Retrieved from https://whc.unesco.org/en/list/1264/
-
UNESCO. (n.d.). Jeju Island Biosphere Reserve, Republic of Korea. Retrieved from https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/jeju-island
-
Jeju Geopark. (n.d.). Jeju Global Geopark. Retrieved from http://geopark.jeju.go.kr/english/
.
-------------------------
ที่มา
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
-------------------------

แผนที่แสดงตำแหน่งที่ตั้ง UNESCO Global Geopark ในประเทศเกาหลีใต้
