iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

Lertsin 053 บทสุดท้ายของ "37 ปี ที่อยู่กับหิน"    

  

Lertsin 053 บทสุดท้ายของ "37 ปี ที่อยู่กับหิน"

เมื่อเกษียณมาใหม่ๆ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมศึกษา ชักชวนให้เขียนบทความลงในนิตยสาร "ใกล้เมรุ" ที่เขาคิดจะทำขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งรวบรวมผลงานของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชีวิต ได้เล่าประสบการณ์การทำงานให้อนุชนคนรุ่นหลังฟัง ก่อนที่ตัวเองจะไปเฝ้ามองความสำเร็จของลูกหลานอยู่บนทางช้างเผือก เห็นว่าน่าสนใจจึงได้เริ่มเขียนโดยอาศัยความทรงจำเมื่อครั้งอดีตอย่างเดียว ไม่มีเอกสารอ้างอิงและภาพประกอบเรื่องแต่อย่างใด เขียนตุนไว้ได้ไม่กี่ตอน เขาบอกยกเลิกโครงการทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้น

ต้นปี พ.ศ. 2563 โรคโควิด 19 ได้เข้ามาแพร่ระบาดในเมืองไทย โปรแกรมท่องเที่ยวต่างๆ โดนระงับหมด เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น เพื่อนในไลน์กลุ่ม great science ซึ่งสมาชิกเป็นน้องใหม่ ของ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมื่อ 50 ปีก่อน ได้ชวนให้เขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่ได้พบเห็นในขณะสำรวจธรณีวิทยาอยู่ในป่าในเขา คงไม่ต้องแปลกใจหรอกที่ นิสิตวิทยาศาสตร์ จะเป็นชาว "มูเตลู" เพราะเรื่องแบบนี้ อยู่ใต้จิตสำนึกของคนไทยค่อนประเทศ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องสั้นชุด " 37 ปี ที่อยู่กับหิน"

37 ปี ที่ทำงานใน กรมทรัพยากรธรณี ได้ตระเวณไปสำรวจธรณีวิทยา ครบทั้ง 76 จังหวัด และ 2 เขตปกครองพิเศษ ได้พบเห็นความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรณีบนผืนแผ่นดินไทย เรามีแร่ธาตุมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค แร่ดีบุก เคยทำรายได้ให้ประเทศมากมายมหาศาล แม้ว่าปัจจุบันการทำเหมืองแร่ดีบุกได้จบลงไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าแร่ดีบุกได้หมดไปจากเมืองไทย แหล่งดีบุกขนาดใหญ่ยังรอการค้นพบ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมและคนในประเทศเห็นความสำคัญ

สภาพธรณีวิทยาปิโตรเลียม บ่งชี้ว่า น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ สามารถพบได้ทั้งบนบกและอ่าวไทย แม้จะเป็นแหล่งขนาดเล็กเทียบไม่ได้กับที่พบในตะวันออกกลาง และผลิตได้เพียง  30% ของความต้องการใช้ภายในประเทศ แต่ก็ช่วยประหยัดเงินที่เราต้องซื้อจากต่างประเทศได้ไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมาย

แหล่งแร่ทองคำ มีการค้นพบและผลิตโดยชาวบ้านท้องถิ่นมานานแสนนาน เช่น แหล่งทองคำบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งทองคำเขาโต๊ะโม๊ะ อำเภอสุคีริน จังหวัดยะลา แหล่งทองคำกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ปัจจุบันเรามี เหมืองทองคำ ขนาดใหญ่อยู่ที่รอยต่อ 3 จังหวัด พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก สภาพธรณีวิทยาแหล่งแร่แอบกระซิบบอกมาว่า แหล่งแร่ทองคำขนาดใหญ่สมบัติล้ำค่าใต้ดิน รอให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นพบ

ประเทศไทย ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างยิ่ง มีภูมิประเทศที่สวยงามที่ชักจูงให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชื่นชม มีภูมิอากาศที่ไม่สุดโต่งจนเกินไป ที่สำคัญมีภัยธรรมชาติมีน้อยมาก พายุโซนร้อนที่รุนแรง ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกปีละไม่น้อยกว่า 20 ลูก แต่หลุดเข้าไทยเพียงไม่เกิน 3 ลูก แค่นี้เราก็รู้สึกย่ำแย่ ลองนึกถึงประเทศที่ต้องเผชิญกับพายุตลอดเวลา เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด

โลกเปรียบเสมือนไข่ต้ม เปลือกไข่ คือ แผ่นเปลือกโลก ไข่ขาว คือ เนื้อโลก ส่วนไข่แดง คือแก่นโลก เพิ่มเติม คือ แก่นโลกแบ่งเป็น 2 ชั้น แก่นโลกชั้นนอกมีลักษณะเป็นของหนืดเทียบได้กับไข่แดงที่ต้มแบบยางมะตูม ส่วนแก่นโลกชั้นในเป็นก้อนกลมของโลหะเหล็กผสมนิกเกิล เมื่อโลกหมุนรอบตัวเอง แก่นโลกเลยทำตัวเหมือนไดนาโม ก่อให้เกิดไฟฟ้า และสนามแม่เหล็กห่อหุ้มโลกไว้ แผ่นเปลือกโลกไม่ได้มีแผ่นเดียว มีเล็กบ้างใหญ่บ้าง เหมือนไข่ต้มโดนทุบเตรียมปอกเปลือก แผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา บริเวณที่เป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก จะเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด บ่อยมาก

นักธรณีวิทยาเชื่อว่า ประเทศไทยเกิดจากการชนกันของ 2 แผ่นเปลือกโลกขนาดเล็ก ด้านตะวันตก เรียกว่า จุลทวีปฉาน-ไทย ด้านตะวันออก เรียกว่า จุลทวีปอินโดจีน การชนกันเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 220 ล้านปีมาแล้ว จึงมีภูเขาไฟที่ดับแล้วโผล่ให้เห็นตั้งแต่เหนือจรดใต้ มีหลักฐานของแผ่นดินไหวขนาดใหญในอดีตหลายแห่ง ปัจจุบันประเทศไทยเคลื่อนตัวออกห่างจากรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก จึงไม่มีภูเขาไฟที่พ่นเถ้าถ่านให้เห็น ไม่มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ มีเพียงแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงปานกลางเท่านั้น

"เมืองไทยใหญ่อุดมดินดีสมเป็นนาสวน" บทกลอนที่เราท่องจำกันมานานแสนนาน แต่ก็สะท้อนความเป็นจริงอย่างมาก บรรพบุรุษไทยได้เลือกสรรพื้นที่นี้ให้พวกเราได้อยู่อาศัยทำมาหากินอย่างมีความสุขเสมอมา เพื่อปลูกฝังให้คนไทยรักชาติ หวงแหนแผ่นดนเกิดของตัวเอง จึงได้เปรียบเทียบรูปลักษณ์ของแผ่นดินไทยดัง เช่น "ขวานทอง" เพื่อไว้ต่อสู้กับศัตรูแผ่นดิน

ปัจจุบัน สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก การล่าอาณานิคมโดยการใช้อาวุธมาไล่รบราฆ่าฟันมีน้อยลง แต่จะใช้อิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจมากลืนกินประเทศ ถ้าเรายังจะใช้ขวานทองไปสู้รบปรบมือเพื่อปกป้องดินแดนคงไม่ไหวแน่ อยากให้พวกเราเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ สำหรับผม มองเมืองไทย ดังเช่น ดอกไม้ ที่ น่ารัก น่าทะนุถนอม น่าหวงแหน ขอเชิญชวนพวกเรามาร่วมกันปกป้อง "ดอกสยาม" ให้เจริญรุ่งเรืองตราบชั่วนิรันดร์

เรื่องสั้นชุด "37 ปี ที่อยู่กับหิน" มีจุดเริ่มต้นที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โรคโควิด 19 จะถูกลดระดับจากโรคติดต่อร้ายแรงลงมาเป็นโรคติดต่อที่เฝ้าระวัง ผมถือโอกาสนี้ขอจบเรื่องสั้นชุด "37 ปีที่อยู่กับหิน" เช่นกัน

เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์

22 กันยายน 2565

 

 

ที่มา

https://www.facebook.com/เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์

รวบรวมข้อมูลและภาพ

www.iok2u.com

-------------------------------------------------

Lertsin บทความ เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ (Lertsin Raksaskulwong) รวมข้อมูล

-------------------------------------------------


 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward