iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

Lertsin 052 สึนามิไทย เจ็บแล้วต้องรู้จัก (เพิ่มเติม) ประสบการณ์สึนามิในมุมของผู้ ประสบภัยโดยตรง

    

  

Lertsin 052 สึนามิไทย เจ็บแล้วต้องรู้จัก (4)

พี่วิชัย ภู่เจริญ นักธรณีวิทยารุ่นพี่ ได้มาเติมเต็มประสบการณ์สึนามิในมุมของผู้ ประสบภัยโดยตรง จึงขออนุญาตเอามาโพสต์ไว้ด้วย

ขอบคุณเลิศสิน ที่บันทึกเหตุการณ์สึนามิ 2547 ในมิติธรณีพิบัติภัยไว้ครับ ในฐานะคนตะกั่วป่าที่รับรู้เหตุการณ์แต่แรกเริ่ม และได้รับความเสียหายโดยตรง ก็ขอเล่าเพิ่มอีกคนครับ....

20 ธค.47 บิ๊ก ขผวก.กฟผ.โทร.หาผม "ไอ้หนวด 25-26 ธค. มีห้องว่างมั๊ย กูจะหลบไปนอนรีสอร์ตมึง จะเอาบัญชีเลื่อนขั้นพนักงานระดับสูงว่ะ" "ได้เลยเพื่อน บังกะโลหลังเดิมนะ" ผมตอบ หลังเดิมเป็น Beachfront bungalow ริมหาดเลย "กูก็จะลงไป 23 นี้ ไปเตรียมงาน Gala dinner ให้แขกวัน Christmas' Eve " ผมบอกส่งท้าย ตอนนั้นผมทำรีสอร์ตเล็กๆ ที่หาดบางสัก ซึ่งอยู่ระหว่าง เขาหลักกับบ้านน้ำเค็ม เป็นบังกะโล 39 หลัง ในที่ดิน 19 ไร่เศษ เปิดบริการเมื่อปี 2545 แขกเป็น ฝรั่งเยอรมัน สแกนดิเนเวีย ฝรั่งเศส อังกฤษ เกือบ 100% ช่วง Peak period ปี 47 ยอดจอง ล่วงหน้าผ่านบริษัท Tour operators กว่า 90% แขกที่จอง 24 ธค.และ 31 ธค.เป็น compulsory booking ต้องซื้อ gala dinner ด้วย

...23 ธค.47 ท่านบิ๊กโทรมาแต่เช้า "เฮ้ยไอ้หนวดกูติดงานสำคัญไปไม่ได้แล้วว่ะ โทษทีว่ะ" "ไม่เป็นไรเพื่อน งั้นกูไม่ไปด้วยจะอยู่งานวิดยา 08 ปีที่แล้ว ไม่ได้มาเพื่อนมันต่อว่า" ครับ ผมเป็นกรรมการรุ่นด้วยปี 47 จัดวันที่ 25 ธค. ริมสระน้ำ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ส่วนงานกาล่าดินเนอร์ ที่รีสอร์ต หลานผมทำหน้าที่ Master of ceremony แทนครับ

งานวิทยา 08 ปีนั้นสนุกมาก มากันเกือบ 100 คน ...

เช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธค. 47 ผมงัวเงียตื่นมานั่งพักดูทีวี ก็ราวๆ 9 โมง เสียงโทรดังขึ้น "โกโหย่ง เขาหลักเกิดอะไรไม่รู้ คลื่นซัดโรงแรมพังระเนระนาดทั้งของทั้งรถมากองบนถนนเพชรเกษมหมดแล้ว เล็กไปภูเก็ตแต่เช้ามืดนี่กลับมาถึง เขาหลักลากูน่า รถไปต่อไม่ได้" เล็ก ยรรยง ลูกพี่ลูกน้องผม เจ้าของ โรงแรมเขาหลักลากูน่าและเขาหลักบันดารี ตรง หาดนางทอง เขาหลัก ระล่ำระลักบอกผม เมื่อกี้ทีวีออกข่าวเกิดแผ่นดินไหวแถว ชายฝั่งเกาะสุมาตราขนาด 8.5 M แต่ไม่มีเตือนภัยใดๆจากกรมอุตุฯ ผมนึกถึงสึนามิทันที "เล็ก พอบอกได้ไหม คลื่นสูงขนาดไหน" "ถามชาวบ้านว่ายอดคลื่นสูงถึงยอดพร้าวครับ" เล็กตอบ พอผมจะซักข้อมูลต่อ โทร. ก็เงียบไป ชิบหายแล้ว ผมนึกในใจโทรไปที่บางสักบีชรีสอร์ตก็ติดต่อไม่ได้ อย่างนี้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ระบบสื่อสารล่มแล้ว เอาไงดีวะ...มี 2 คนที่ผมต้องโทรบอกแล้ว 1 ไอ้ต้อ รองอธิบดีกรม อุตุฯ ซึ่งมีหน้าที่ออกข่าวนี้โดยตรง แต่เหตุการณ์นี้ต้องการ action ด่วน ไอ้ต้อคงซักนาน แล้วขั้นตอนระบบราชการของมันอีก อย่าเลย เพื่อนคนนี้ดีกว่าตรงไลน์ โชคดีโทรไปท่านรับเลย พอเล่าให้ฟัง ท่าทีแรกยังลังเล คลื่นลมหอบมั๊ง แต่พอผมยืนยันว่า ยอดคลื่นถึงยอดพร้าว ซัดเอารถยนต์ที่จอดในโรงแรมขึ้นมาบนถนนเพชรเกษมข้ามไปปะทะตึกแถวอีกฝั่งหนึ่ง พังแอ้งแม้งกองอยู่ข้างเชิงเขา อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ก็สร้างประวัติศาสตร์ไว้ให้จดจำ The best decision-making of his life ท่านโทรหาปลัดกระทรวงทันที เพื่อรายงานเหตุการณ์และขออนุญาตออกแถลงการณ์ "ว่าไงคะอธิบดี" คุณนายปลัดรับโทรครับ "อ้อ ท่านปลัดไปจ๊อกกิ้งนะคะไว้ท่านกลับมาจะบอกให้นะค่ะ" แป๊วไปหนึ่งรายละ แล้ว ท่านอธิบดี ก็ทำในสิ่งที่เรียกว่า ความกล้า เพราะรู้ดีว่า สถานการณ์นี้เป็นความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก ครับท่านยกหูโทรถึง รมว.ทส. ขณะนั้น โชคดีอีกครั้ง ท่านรับสาย "มีอะไรครับ ผมอยู่ขอนแก่น" โอ้ย โล่งอก ผมอุทานแทน แล้วข่าวคลื่นยักษ์หลังแผ่นดินไหวใหญ่ ก็ถูกถ่ายทอดคร่าวๆ ถึงหู รมว.ทส. ต้องชมว่า นักการเมืองท่านนี้หัวไว สั่งการทันทีให้กรมทรัพย์ฯ ออกข่าวด่วนทางทีวี (ไม่แน่ใจว่า รวมการเฉพาะกิจหรือเปล่า) น่าจะเวลาหลังเที่ยงวันเล็กน้อย พอข่าวกระพือไปถึงหูนายกฯ และ ครม. Emergency rescue operation ก็เกิดขึ้นทันทีในคืนนั้น....

แน่นอนว่าพอข่าวสึนามิกวาดเรียบชายฝั่งอันดามัน ในเช้า 26 ธค. ผมขนลุกเลย กูรอดตายเพราะไอ้บิ๊กแท้ๆ ถ้ามันไป กูต้องไปนอนห้องพักริมทะเลกับมันด้วย ...

28 ธค. 47 ผมลงไป ตะกั่วป่า เข้าไปดูรีสอร์ต ซอยทับตะวันทางเข้าที่แยกจากเพชรเกษม 1.5 กม. ยังเต็มไปด้วยซากสิ่งของทั้งจากอาคารบ้านเรือนและต้นไม้ ที่รีสอร์ตบังกะโลพังหมดทุกหลัง แต่อาคารล๊อบบี้ยังอยู่ เพียงแต่ห้องชั้นล่างล๊อบบี้และครัวพังหมด ห้องทำงานผมอยู่ใต้ถุนล๊อบบี้ มีคราบขี้โคลนที่แสดงระดับน้ำบนผนังห้อง คราบนี้บังเอิญพาดผ่านกึ่งกลางนาฬิกาดิจิทัลทรงกลมที่แขวนอยู่ และเข็มหยุดอยู่ที่ 10:15 น.พอดี !!!

รีสอร์ตผมมีฝรั่งตาย 5 คน 3 คน พบศพบนชายหาดไกลจากรีสอร์ต แสดงว่าเดินเล่นไปไกลจากที่พัก อีก 2 คนพบศพในดงไม้ด้านหลังรีสอร์ต แสดงว่าขณะเกิดคลื่นยักษ์ 2 คนนี้ยังอยู่ในห้องพัก แขกที่เหลือรอดตายหมดรวมทั้งพนักงานเกือบ 20 คน แต่ได้รับบาดเจ็บหลายคน ที่คนตายน้อยเพราะเช้านั้น น้องชายผมนัดช่างไปซ่อมงานอะไรสักอย่างที่รีสอร์ต พาลูกชายวัย 6 ขวบไปด้วย ล๊อบบี้รีสอร์ตผมออกแบบเป็นอาคารครึ่งวงกลมสูงสองชั้น ชั้นบนสูงจากพื้นเกือบ 4 ม. ตัวอาคารถอยร่นเข้ามา ห่างจากหาดเกือบ 200 ม. เนื่องจากเป็นพื้นที่กัดเซาะชายฝั่ง จึงสร้างกำแพงคอนกรีตเตี้ยๆ ด้านหน้าหาด ลึกเข้ามาเป็นคูน้ำ ถัดมาเป็นสนามซ้อมพัทต์กอล์ฟ ถัดมาจึงเป็นสระว่ายน้ำที่ยกระดับสูงจากพื้นราว 1.5 ม.มี Pool deck ยกระดับตรงขอบสระเป็นลานกว้างนอนอาบแดด ขณะอยู่บนล๊อบบี้ น้องชายผมสังเกตุเห็นหน้าหาดจู่ๆน้ำทะเลถอยร่นไปไกลหลายร้อยเมตร เห็นปลาดิ้นกระแด่วๆ มันเคยดูทีวีสารคดีสึนามิที่ญี่ปุ่น พอมองไปอีกทีเห็นคลื่นแตกฟองตลอดแนวขอบฟ้า มันคิดว่าใช่แล้ว จึงตะโกนสั่งพนักงานห้องอาหารและที่หน้าฟร้อน ให้รีบไปต้อนแขกที่เอกเขนกตามเปลหน้าหาด pool deck และห้องพัก ให้ขึ้นมาอยู่บนล๊อบบี้ พวกที่เห็นคลื่นแตกฟองในทะเลก็เชื่อฟังวิ่งขึ้นล๊อบบี้ทัน อีกราว 10 นาทีคลื่นระลอกแรกก็มาถึง หาดบางสักลาดชันต่ำน้ำตื้น ไม่มีกองหินหรือปะการังขวางทาง ระลอกแรกก็ซัดเอาวินาศสันตะโรไปส่วนหนึ่ง เขื่อนหน้าหาดและขอบสระว่ายน้ำช่วยทอนกำลังคลื่นไปส่วนหนึ่ งจึงซัดอาคารล๊อบบี้ไม่พัง คนเปียกปอนแต่ไม่เป็นไร แขกในบังกะโลและพนักงานแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดห้องพักแขกต่างถูกคลื่นซัดออกมานอกห้อง ดีว่ามีต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมเก็บไว้เยอะ และบังกะโลทำด้วยวัสดุเบา พอโดนคลื่นผนังห้องหลุดทั่วแผงหลังคามุงหญ้าคาพังลงมา คนไม่เป็นไร ต่างเกาะต้นไม้ไว้ น้องสาวผม หัวหน้าห้องครัว คืน 25 ไม่ได้นอน ขณะคลื่นมายังหลับอยู่ ลูกน้องไปปลุกคลื่นก็ซัดถึงแล้ว ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ถูกคลื่นพาออกไปจากรีสอร์ต ยังมีสติคว้ากอหญ้าที่ลอยอยู่ได้ น้ำพาไปติดอยู่ชายป่าหลังรีสอร์ต กินน้ำโคลนไปหลายอึก คนนี้ต้องเข้า รพ. ล้างปอด

..เย็นวันนั้น พนักงานพาแขกที่รอดชีวิตร่วม 50 คนไปพักชั่วคราวที่ สำนักงานโรงแต่งแร่ ในเมือง แขกบาดเจ็บก็นำส่ง รพ. ตะกั่วป่า ดีว่าที่ สนง. มีเครื่องนอนหมอนผ้าห่มสำรองของรีสอร์ตอยู่มากพอให้แขกใช้ได้ แขกหลายคนเหลือแต่ตัวเสื้อผ้าชุดเดียว ชุลมุนวุ่นวายกันมาก แต่สุดท้ายก็พออยู่กันสบาย ดีกว่าที่ เขาหลัก บางเนียง เยอะในเรื่องที่พักชั่วคราว และอาหารการกิน มื้อเย็นวันสึนามิ ก็ทำเมนูปลาโฉมงามตัวใหญ่ที่เก็บได้หน้าหาดมาให้แขกกินกัน ..

รถเบ้นซ์ 500 SEL หนัก ร่วม 2 ตันจอดอยู่หน้า ล๊อบบี้หายไป รุ่งขึ้นเจอจมทรายอยู่บนหาดหน้ารีสอร์ต ยังงงว่ามันไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ในเมื่อมีอาคารล๊อบบี้ขวางอยู่ เข้าใจว่าคลื่นระลอกแรกอุ้มมันลอยออกไปนอกรีสอร์ตด้านหลัง พอน้ำลดก็ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น พอคลื่นระลอกสองมา คราวนี้ใหญ่กว่าเดิม ก็อุ้มมันลอยขึ้นเพราะน้ำยังเข้าในรถไม่ได้ พอน้ำถอยกลับ ก็พารถออกไปด้วยซึ่งคงจะเบี่ยงทิศเฉียงทางไปออกที่ดินแปลงข้างๆที่เป็นที่โล่งไม่มีสิ่งกีดขวาง ก็เลยลอยออกทะเลไป สักพักคลื่นระลอก3 มา พารถเข้าฝั่งมาติดหาดอยู่ตรงจุดที่พบ เพราะน้ำคงเข้าในรถได้มากแล้ว...อีกราวหนึ่งอาทิตย์ถัดมาแขกที่บาดเจ็บก็เดินทางเข้า กท. บินกลับบ้านกันหมด... 2 ปีถัดมา แขกรอดตายกลุ่มนี้หลายคนร่วมกันซื้อนาฬิกาสวิส 1 เรือน บินมาพักเขาหลักและมอบนาฬิกาให้น้องชายผมที่ช่วยชีวิตพวกเขา จบแค่นี้ก่อนครับ ค่อยว่าต่อเรื่อง palaeo tsunami และ recurrence period

เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์

22 กันยายน 2565

 

 

ที่มา

https://www.facebook.com/เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์

รวบรวมข้อมูลและภาพ

www.iok2u.com

-------------------------------------------------

Lertsin บทความ เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ (Lertsin Raksaskulwong) รวมข้อมูล

-------------------------------------------------


 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward