google map https://maps.app.goo.gl/8zaSX53wh4ChEqPRA
วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ซีอาน: ร่องรอยอารยธรรมที่ทอดยาวสู่สรวงสวรรค์
การเดินทางสู่ซีอาน เมืองหลวงโบราณที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังของประเทศจีน คือ การก้าวเข้าสู่ห้วงเวลาที่ประวัติศาสตร์และตำนานหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และ ณ ใจกลางแห่งอารยธรรมอันยิ่งใหญ่นี้เอง ที่ "วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่" (Giant Wild Goose Pagoda) ตระหง่านอยู่ ดุจประภาคารแห่งศรัทธาที่ยืนหยัดท้าทายกาลเวลามานับพันปี เป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยอันหาญกล้าของพระภิกษุเสวียนจ้าง หรือที่เรารู้จักกันในนาม "พระถังซัมจั๋ง" ผู้จาริกแสวงบุญไปไกลถึงอินเดีย เพื่อนำพระไตรปิฎกอันล้ำค่ากลับมาสู่แผ่นดินจีน
ทันทีที่สายตาแรกสัมผัสกับโครงสร้างอันโอ่อ่าของเจดีย์อิฐทรงสี่เหลี่ยมนี้ หัวใจก็พลันรู้สึกถึงความอัศจรรย์ใจในความสามารถของบรรพบุรุษที่สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมอันวิจิตรบรรจงเช่นนี้ขึ้นมาได้ในยุคสมัยอันห่างไกล เจดีย์แห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งก่อสร้าง แต่เป็นพยานผู้เงียบงันที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ต่างๆ การรุ่งเรืองและล่มสลายของอาณาจักร และการเติบโตของเมืองซีอานจากฉางอานอันรุ่งโรจน์ในยุคราชวงศ์ถัง สู่มหานครที่ทันสมัยในปัจจุบัน ความยิ่งใหญ่ที่แผ่ซ่านออกมาจากทุกอณูของวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ เชื้อเชิญให้นักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาสัมผัสและดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง
จินตนาการถึงภาพของพระภิกษุเสวียนจ้างผู้กลับมาจากการเดินทางอันยาวนานและเต็มไปด้วยภยันตราย โดยมีขบวนอูฐบรรทุกพระคัมภีร์จำนวนมหาศาลมุ่งหน้าเข้าสู่ฉางอานโบราณ และการสร้างเจดีย์แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาและแปลพระคัมภีร์เหล่านั้น ความมุ่งมั่นและศรัทธาอันแรงกล้าได้กลายเป็นรากฐานของพุทธศาสนาในจีน และวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ก็คือศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้และการเผยแผ่ธรรมะในยุคนั้น การได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการเดินทางย้อนเวลาไปสู่จุดกำเนิดของอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ ที่ซึ่งปัญญาและความศรัทธาได้ถูกหล่อหลอมรวมกัน
แสงตะวันยามเช้าที่สาดส่องกระทบอิฐสีแดงเก่าแก่ของเจดีย์ หรือแสงไฟระยิบระยับยามค่ำคืนที่ขับเน้นให้เจดีย์ดูสง่างามเหนือกว่าความมืดมิด ล้วนสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจและเชิญชวนให้เราได้ใคร่ครวญถึงความหมายของกาลเวลาและมรดกที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง สัมผัสถึงลมหายใจของประวัติศาสตร์ที่พัดผ่านจากยุคราชวงศ์ถัง สู่ยุคสมัยปัจจุบัน และตระหนักถึงคุณค่าอันหาที่เปรียบมิได้ของสถานที่แห่งนี้ที่ได้รับการจารึกให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญระดับสากล และเชิญชวนให้นักผจญภัยและผู้แสวงหาความรู้ทุกคนเข้ามาค้นพบความมหัศจรรย์ด้วยตาตนเอง
สถานที่ตั้งและภูมิศาสตร์
วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,100 ปี และเคยเป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ของจีน ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดต้าฉือเอิน (Da Ci'en Temple) ซึ่งเป็นวัดพุทธสำคัญอีกแห่งหนึ่งของซีอาน ตำแหน่งที่ตั้งของเจดีย์ห่านป่าใหญ่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอยู่ในเส้นทางสายไหมโบราณ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าและวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองซีอานประมาณ 4 กิโลเมตร ทำให้เป็นสถานที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกส่วนของเมือง
สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ของซีอานเป็นที่ราบกว้างใหญ่ที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาฉินหลิงทางตอนใต้ ทำให้มีภูมิทัศน์ที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ตัวเจดีย์เองตั้งอยู่ในเขตเมืองที่มีชีวิตชีวา แต่ภายในบริเวณวัดกลับให้ความรู้สึกสงบและร่มรื่น สภาพอากาศในซีอานจัดอยู่ในเขตอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป มีสี่ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อยู่ที่ประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิอาจสูงถึง 30-35 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส และฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิจะลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และอาจมีหิมะตก การวางแผนการเดินทางให้สอดคล้องกับสภาพอากาศจะช่วยให้การเยี่ยมชมวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่เป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
ประวัติศาสตร์
เรื่องราวของวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 652 (พ.ศ. 1195) ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิถังเกาจงแห่งราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองถึงขีดสุดในประเทศจีน เจดีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์อันสูงส่ง นั่นคือเพื่อเป็นที่ประดิษฐานและเก็บรักษาพระคัมภีร์ พระพุทธรูป และพระธาตุต่างๆ ที่พระภิกษุเสวียนจ้าง (พระถังซัมจั๋ง) ได้อุตสาหะเดินทางจาริกไปแสวงบุญยังชมพูทวีป (อินเดีย) เป็นระยะเวลากว่า 17 ปี ผ่านเส้นทางสายไหมอันยาวไกลและอันตราย และนำกลับมายังฉางอาน เมืองหลวงในขณะนั้น
เจดีย์ดั้งเดิมมีทั้งหมดห้าชั้น สร้างด้วยดินอัดผสมหิน ซึ่งภายหลังได้พังทลายลงไปบางส่วน ในปี ค.ศ. 704 (พ.ศ. 1247) เจดีย์ได้รับการสร้างขึ้นใหม่และปรับปรุงในรัชสมัยของจักรพรรดินีบูเช็กเทียน (อู่เจ๋อเทียน) ผู้ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง โดยได้เพิ่มจำนวนชั้นเป็นสิบชั้น แต่ต่อมาก็ถูกลดทอนลงมา ในช่วงราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) ได้มีการปรับปรุงส่วนหน้าของเจดีย์ด้วยอิฐ เพื่อเสริมความแข็งแรงและรูปลักษณ์ให้สง่างามยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1556 (พ.ศ. 2099) ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้เจดีย์ลดลงเหลือเพียงเจ็ดชั้นดังที่เห็นในปัจจุบัน และมีความสูง 64.517 เมตร
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยพิทักษ์โบราณวัตถุที่สำคัญระดับชาติ และจุดสูงสุดของการยอมรับคือเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ได้ถูกจารึกชื่อเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "เส้นทางสายไหม: เครือข่ายเส้นทางระเบียงฉางอาน-เทียนซาน" การขึ้นทะเบียนนี้ไม่เพียงยกย่องความงามทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทอันสำคัญของเจดีย์แห่งนี้ในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและศาสนาระหว่างภูมิภาคต่างๆ ตลอดเส้นทางสายไหมอันยิ่งใหญ่ในอดีต
ตำนานและความสำคัญ
วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรมอันโอ่อ่า แต่ยังอุดมไปด้วยตำนานและความสำคัญทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในจิตวิญญาณของชาวจีน ตำนานที่มาของชื่อ "เจดีย์ห่านป่าใหญ่" นั้นเล่าขานกันว่า ในยุคที่พระภิกษุเสวียนจ้างเดินทางกลับจากอินเดียและเริ่มแปลพระคัมภีร์ที่วัดต้าฉือเอินนั้น ครั้งหนึ่งคณะสงฆ์ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารมังสวิรัติอย่างหนัก จนคิดจะหันไปบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อยังชีพ แต่แล้วก็มีห่านป่าตัวหนึ่งตกลงมาจากฟ้าตายลงต่อหน้าพวกเขา เชื่อกันว่าเป็นพุทธานุภาพหรือการดลใจจากเบื้องบน เหตุการณ์นี้ทำให้พระภิกษุเหล่านั้นกลับมาตั้งมั่นในพระวินัยและปฏิญาณว่าจะบริโภคอาหารมังสวิรัติเท่านั้น เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์นี้จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ "เจดีย์ห่านป่าใหญ่" ซึ่งสะท้อนถึงปาฏิหาริย์แห่งศรัทธาและการยึดมั่นในพระธรรม
ในเชิงสถาปัตยกรรม วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่เป็นเจดีย์พุทธทรงสี่เหลี่ยมแบบศาลาที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดที่ยังคงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันจากสมัยราชวงศ์ถัง โครงสร้างหลักเป็นอิฐสีเทาอมแดง มีความสูงรวมฐานอยู่ที่ประมาณ 64.517 เมตร โดยมีฐานเจดีย์สูงประมาณ 4.2 เมตร แต่ละชั้นของเจดีย์เปิดโล่ง มีเสาสี่เหลี่ยม ลูกกรง ซุ้มประตู และโครงสร้างไม้ค้ำยันแบบตู้กง (dougong) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ที่เลียนแบบโครงสร้างไม้จริง แสดงให้เห็นถึงทักษะการก่อสร้างอันซับซ้อนและวิจิตรบรรจงของช่างฝีมือในยุคราชวงศ์ถัง แม้จะผ่านกาลเวลามานานหลายศตวรรษ เจดีย์ก็ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่งและสง่างามไว้อย่างน่าอัศจรรย์ สะท้อนถึงความเชื่อทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้งและความเป็นเลิศทางวิศวกรรม
ความสำคัญทางวัฒนธรรมของเจดีย์แห่งนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเป็นเพียงสถานที่เก็บพระคัมภีร์ มันเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนพุทธศาสนาขององค์จักรพรรดิ และการผสมผสานแนวปฏิบัติทางศาสนาเข้ากับกรอบวัฒนธรรมของรัฐ ถือเป็นสะพานเชื่อมสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างจีนและอินเดียตามเส้นทางสายไหม การแกะสลักและจารึกบนผนังเจดีย์ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อทางพุทธศาสนา และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางศาสนาและชีวิตประจำวันในยุคนั้น ภายในเจดีย์ยังเก็บรักษาศิลาจารึกทางประวัติศาสตร์หลายแผ่น รวมถึงพระคัมภีร์และบันทึกประวัติศาสตร์พุทธศาสนาบนเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเอกสารอันล้ำค่าที่ช่วยให้เราเข้าใจการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในอดีต การยืนตระหง่านของเจดีย์ห่านป่าใหญ่ จึงมิใช่แค่การประดับประดาภูมิทัศน์ แต่เป็นการประกาศถึงมรดกทางปัญญาและจิตวิญญาณอันยืนยงของชาติจีน
จุดเด่นและสถานที่น่าสนใจ
วัดต้าฉือเอิน (Da Ci'en Temple)
วัดต้าฉือเอินเป็นหมู่วัดพุทธขนาดใหญ่ที่โอบล้อมวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ไว้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 648 (พ.ศ. 1191) โดยจักรพรรดิถังเกาจงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมารดาคือจักรพรรดินีจางซุน วัดแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่งในยุคราชวงศ์ถัง และเป็นที่ประทับของพระภิกษุเสวียนจ้างผู้ซึ่งใช้เวลาอันมีค่าในการแปลพระคัมภีร์จำนวนมหาศาลจากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาจีนภายในบริเวณวัดนี้เอง
การเดินสำรวจภายในวัดต้าฉือเอินจะนำพาคุณไปสู่ความสงบทางจิตใจ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังคงอบอวลอยู่ตามระเบียงทางเดินและโถงอาคารต่างๆ สถาปัตยกรรมแบบถังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสดงให้เห็นถึงความงามสง่าและความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้น วัดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่บอกเล่าเรื่องราวของพุทธศาสนาในจีน และการอุทิศตนของพระสงฆ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้พระธรรมเผยแผ่ไปทั่วแผ่นดิน
ภายในเจดีย์
การพิชิตยอดวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ด้วยการปีนบันไดชันแคบขึ้นไปทีละชั้น คือการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่าอย่างยิ่ง ทุกย่างก้าวที่ขึ้นไปนั้นเปรียบเสมือนการย้อนเวลาสู่ยุคอดีต เมื่อขึ้นไปถึงยอดเจดีย์ คุณจะได้รับรางวัลเป็นทัศนียภาพอันตระการตาของเมืองซีอานที่แผ่กว้างสุดลูกหูลูกตา ทั้งอาคารสมัยใหม่ที่ตั้งตระหง่านคู่กับร่องรอยแห่งอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ภายในเจดีย์ยังเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุอันล้ำค่ามากมาย รวมถึงจารึกพุทธศาสนาต้นฉบับในภาษาสันสกฤตที่พระภิกษุเสวียนจ้างนำกลับมาจากอินเดีย พระพุทธรูปพระศากยมุนีที่งดงาม พระคัมภีร์เปลือกไม้ที่พระเสวียนจ้างเคยใช้ศึกษา รวมถึงพระธาตุที่สำคัญ และอิฐสี่เหลี่ยมลายดอกบัวสมัยราชวงศ์ถังที่ประณีตงดงาม กระดิ่งลมที่แขวนอยู่ตามมุมต่างๆ ของเจดีย์ก็ส่งเสียงกังวานยามต้องลม สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังและศักดิ์สิทธิ์ การได้สัมผัสกับสิ่งของเหล่านี้ด้วยตาตนเอง ถือเป็นการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และศรัทธาที่ลึกซึ้งของยุคสมัยนั้น
หอพระใหญ่ (Great Hall of Buddha)
ภายในบริเวณวัดต้าฉือเอิน คุณจะพบกับหอพระใหญ่ ซึ่งเป็นอาคารหลักที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ หอแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนมาสักการะบูชา และเป็นศูนย์กลางของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ สถาปัตยกรรมของหอพระใหญ่เป็นแบบจีนโบราณที่วิจิตรตระการตา ด้วยหลังคามุงกระเบื้องเคลือบสีเหลืองทองและผนังแกะสลักอย่างประณีต แสดงถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง
การได้เข้าไปยืนอยู่ภายในหอพระใหญ่ จะสัมผัสได้ถึงความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ พลังแห่งศรัทธาที่ส่งผ่านมาจากผู้คนนับร้อยนับพันที่เคยมาเยือนสถานที่แห่งนี้ แสงไฟสลัวๆ ที่ส่องกระทบองค์พระพุทธรูปสร้างบรรยากาศที่น่าเลื่อมใสยิ่งขึ้น ผนังภายในตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติและตำนานต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา
หอระฆังและหอกลอง (Bell Tower and Drum Tower)
ภายในหมู่วัดต้าฉือเอิน ยังมีหอระฆังและหอกลองตั้งอยู่คู่กัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของวัดพุทธในจีนโบราณ หอระฆังมีระฆังขนาดใหญ่ที่ใช้ตีบอกเวลาในช่วงเช้าตรู่เพื่อปลุกพระภิกษุและประชาชนให้ตื่นขึ้นมาทำบุญและปฏิบัติธรรม ส่วนหอกลองมีกลองขนาดใหญ่ที่ใช้ตีในช่วงเย็นเพื่อบอกเวลาสิ้นสุดของวันและเป็นสัญญาณเตือนภัยในยามจำเป็น
หอทั้งสองนี้ไม่เพียงแต่มีหน้าที่ใช้สอย แต่ยังเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ การได้ยินเสียงระฆังและกลองที่ดังกังวานไปทั่วบริเวณวัด เป็นประสบการณ์ที่ช่วยย้อนบรรยากาศไปสู่ยุคอดีต สร้างความรู้สึกสงบและขลัง หอระฆังและหอกลองยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพความงามของสถาปัตยกรรมจีนโบราณ และเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรมของพุทธศาสนาในอดีตได้เป็นอย่างดี
หอพระเสวียนจ้างซันจ้าง (Hall of Xuanzang Sanzang)
เพื่อรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของพระภิกษุเสวียนจ้าง (พระถังซัมจั๋ง) ผู้เป็นตำนานแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงมีการสร้างหอพระเสวียนจ้างซันจ้างขึ้นภายในบริเวณวัด หอแห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวชีวิต การเดินทางอันแสนยาวนาน และผลงานการแปลพระคัมภีร์ของท่าน
ภายในหอมีรูปปั้นของพระเสวียนจ้างที่ประดิษฐานอย่างสง่างาม พร้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังและจารึกที่บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของท่านตามเส้นทางสายไหม การข้ามทะเลทราย ภูเขา และการเผชิญหน้ากับอันตรายนานัปการ เพื่อนำพระธรรมกลับมาสู่แผ่นดินจีน การได้ชมเรื่องราวเหล่านี้ทำให้ผู้เยี่ยมชมเกิดความรู้สึกอัศจรรย์ใจในความมุ่งมั่นและศรัทธาอันแรงกล้าของพระภิกษุรูปนี้ ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางศาสนาและวัฒนธรรมของจีนไปตลอดกาล
ป่าเจดีย์ (Pagoda Forest)
ไม่ไกลจากวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ จะพบกับ "ป่าเจดีย์" ซึ่งเป็นสุสานของพระอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลายรูปที่เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสหรือมีบทบาทสำคัญในการบริหารวัดต้าฉือเอินแห่งนี้ แต่ละเจดีย์หินมีขนาดเล็กและมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป สะท้อนถึงยุคสมัยและสถานะของพระภิกษุที่ฝังอยู่ภายใน
ภายในป่าเจดีย์ยังมีการจัดแสดงศิลาจารึกจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนมีอายุย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ชิง ศิลาจารึกเหล่านี้บันทึกประวัติ คำสอน และคุณงามความดีของพระภิกษุผู้ล่วงลับ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในวัด ทำให้ป่าเจดีย์เป็นเหมือนห้องสมุดกลางแจ้งที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์และปัญญาของพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินสำรวจและใคร่ครวญถึงวัฏสงสารและมรดกที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้
จัตุรัสทางใต้และน้ำพุดนตรี (South Square and Musical Fountain)
ด้านหน้าทางทิศใต้ของวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ มีจัตุรัสขนาดใหญ่ที่งดงามและทันสมัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "น้ำพุดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ทุกเย็น เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า จัตุรัสแห่งนี้จะกลายเป็นเวทีแห่งแสง สี เสียง และน้ำพุที่เต้นระบำตามจังหวะดนตรีอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ การแสดงน้ำพุที่ประสานกันอย่างลงตัวกับแสงไฟหลากสีและบทเพลงอันไพเราะ สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
การได้มานั่งชมการแสดงน้ำพุดนตรี โดยมีฉากหลังเป็นวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟยามค่ำคืน เป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานความเก่าแก่ของอารยธรรมเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว เป็นภาพที่งดงามและยากจะลืมเลือน เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังจากเดินสำรวจวัดมาทั้งวัน และเป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
สวนเจดีย์ (Pagoda Garden)
บริเวณรอบวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ยังมี "สวนเจดีย์" ที่ได้รับการดูแลอย่างสวยงาม เป็นโอเอซิสแห่งความสงบและร่มรื่นท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง สวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบตามสไตล์จีนดั้งเดิม มีศาลาไม้แกะสลักที่ประณีต ต้นบอนไซที่จัดแต่งอย่างสวยงาม และศิลาจารึกที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ
การเดินเล่นในสวนเจดีย์เป็นวิธีที่ดีในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับความงามตามธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบจีน สัมผัสถึงความสงบเงียบและพลังงานทางจิตวิญญาณที่แผ่ซ่านไปทั่ว สวนแห่งนี้ไม่เพียงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงปรัชญาความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในวัฒนธรรมจีน การออกแบบภูมิทัศน์ที่ประณีตงดงามทำให้สวนเจดีย์เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเยี่ยมชม
เมืองต้าถังฟู่หรง (Grand Tang Dynasty Ever Bright City)
ในบริเวณใกล้เคียงกับวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ จะพบกับ "เมืองต้าถังฟู่หรง" หรือ "Grand Tang Dynasty Ever Bright City" ซึ่งเป็นย่านวัฒนธรรมและการค้าที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อจำลองบรรยากาศความรุ่งโรจน์ของฉางอานในยุคราชวงศ์ถัง ย่านนี้จะสว่างไสวเป็นพิเศษในยามค่ำคืน ด้วยแสงไฟนีออนและโคมไฟจีนโบราณที่ประดับประดาไปทั่ว สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลและชวนให้รำลึกถึงความงดงามของอดีต
การเดินเล่นในเมืองต้าถังฟู่หรงยามค่ำคืน เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ คุณจะได้พบกับร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นตามท้องถนน นักแสดงที่แต่งกายด้วยชุดย้อนยุคจะสร้างสีสันและความบันเทิง เป็นการเดินทางสู่โลกของราชวงศ์ถังที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความรุ่งโรจน์ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารเย็น เลือกซื้อของที่ระลึก และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
แผ่นศิลาจารึกและจารึกการประดิษฐ์อักษร (Calligraphy Stone Tablets and Steles)
ภายในวัดต้าฉือเอินและบริเวณรอบๆ เจดีย์ห่านป่าใหญ่ คุณจะได้พบกับแผ่นศิลาจารึกและเสาหินจารึกจำนวนมาก ซึ่งเป็นงานศิลปะการประดิษฐ์อักษรจีนอันวิจิตรงดงาม ศิลาจารึกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการบันทึกข้อความสำคัญ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงทักษะและความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์อักษรของนักปราชญ์และพระภิกษุในอดีต
จารึกหลายแผ่นบอกเล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา บันทึกประวัติศาสตร์การสร้างเจดีย์ บทกวี และคติธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลอันล้ำค่าสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน การได้พิจารณาตัวอักษรจีนโบราณที่สลักลงบนแผ่นหินด้วยความประณีตบรรจง ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของภาษาและศิลปะการประดิษฐ์อักษรที่ชาวจีนให้ความเคารพยกย่อง เป็นการเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาและสุนทรียภาพของผู้คนในอดีต
รูปปั้นพระเสวียนจ้าง (Statue of Xuanzang)
ที่ด้านหน้าวัดต้าฉือเอิน หรือบริเวณจัตุรัสทางใต้ของวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ คุณจะพบกับรูปปั้นขนาดใหญ่ของพระภิกษุเสวียนจ้าง หรือที่รู้จักกันในนามพระถังซัมจั๋ง รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และยกย่องคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของท่าน ผู้ซึ่งได้อุทิศชีวิตเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและนำพระคัมภีร์กลับมาสู่แผ่นดินจีน
รูปปั้นแสดงภาพพระเสวียนจ้างในท่าทางที่สงบและเปี่ยมด้วยปัญญา เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่น ศรัทธา และความกล้าหาญ การได้มาเยือนรูปปั้นนี้ทำให้เราได้รำลึกถึงเรื่องราวการเดินทางอันยาวนานและเต็มไปด้วยอุปสรรคของท่าน ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนนับไม่ถ้วนตลอดหลายศตวรรษ รูปปั้นนี้ยังเป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกถึงวีรบุรุษแห่งพระพุทธศาสนา
ถนนช้อปปิ้งสไตล์ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty shopping street)
ใกล้กับวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ มีถนนช้อปปิ้งที่ได้รับการออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมและบรรยากาศแบบราชวงศ์ถัง ถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก อาหารพื้นเมือง และสินค้าแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคโบราณ การเดินเล่นบนถนนสายนี้เป็นการผสมผสานประสบการณ์การช้อปปิ้งเข้ากับการได้สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของซีอาน
ถนนช้อปปิ้งสไตล์ราชวงศ์ถังไม่ได้เป็นเพียงแหล่งซื้อของ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีการจัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน การแสดงดนตรี และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่สร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน คุณสามารถหาซื้อของฝากที่มีเอกลักษณ์ เช่น เครื่องประดับ เครื่องลายคราม ผ้าไหม หรือแม้แต่ลองชิมอาหารว่างพื้นเมืองที่หาได้ยาก เป็นการปิดท้ายการเดินทางที่วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย
การเตรียมตัวและคำแนะนำ
การเยี่ยมชมวัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในซีอานเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่า แต่การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
เวลาเปิดทำการและราคาตั๋ว: โดยทั่วไป วัดจะเปิดทำการระหว่าง 8:30 น. ถึง 17:00 น. หรืออาจถึง 17:30 น. ในบางฤดู ควรตรวจสอบเวลาทำการที่แน่นอนก่อนเดินทาง ราคาตั๋วสำหรับเข้าชมหมู่วัดต้าฉือเอินอยู่ที่ประมาณ 50 หยวน และหากต้องการปีนขึ้นไปบนเจดีย์จะต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่มอีกประมาณ 30 หยวน
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม: ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเยือนซีอาน เนื่องจากสภาพอากาศดี อุณหภูมิอยู่ในช่วงที่สบาย ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป หากต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชนจำนวนมาก ควรไปถึงตั้งแต่ช่วงเช้า (ประมาณ 8:30-9:00 น.) หรือช่วงบ่ายแก่ๆ (ประมาณ 16:00-16:30 น.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาจมีโอกาสได้เห็นพระภิกษุสวดมนต์ในวัดอีกด้วย แนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับการเยี่ยมชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง และควรจัดสรรเวลาเพิ่มเติมสำหรับการชมการแสดงน้ำพุดนตรีในตอนเย็น
วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ในซีอาน ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแผ่นดินจีน แต่เป็นดั่งสมุดบันทึกที่เปิดเผยเรื่องราวแห่งศรัทธา ความมุ่งมั่น และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลานับพันปี การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้คือการผจญภัยสู่ห้วงอดีตอันรุ่งโรจน์ สัมผัสถึงพลังงานแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงอบอวลอยู่ในทุกอิฐทุกก้อนของเจดีย์ และตื่นตาตื่นใจกับความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ยืนหยัดท้าทายกาลเวลา
จากตำนานห่านป่าสู่การจาริกแสวงบุญของพระภิกษุเสวียนจ้าง จากศูนย์กลางการแปลพระคัมภีร์ในราชวงศ์ถัง สู่มรดกโลกที่ได้รับการยกย่อง วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่คือสัญลักษณ์แห่งความอัศจรรย์ใจในความสามารถของมนุษย์ และเป็นพยานถึงการเดินทางของพระพุทธศาสนาในดินแดนตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามจากยอดเจดีย์ ความสงบภายในวัดต้าฉือเอิน หรือแสงสีเสียงของน้ำพุดนตรียามค่ำคืน ทุกองค์ประกอบล้วนร้อยเรียงเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม เชิญชวนให้หัวใจของผู้มาเยือนเปี่ยมล้นไปด้วยความชื่นชมและศรัทธาในมนต์เสน่ห์แห่งซีอาน เมืองหลวงโบราณที่ยังคงเปล่งประกายความยิ่งใหญ่จวบจนปัจจุบัน.
.
-------------------------
ที่มา
-
รวบรวมข้อมูลและรูป
-------------------------
ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่
รวมเรื่องราวการท่องเที่ยว iok2u
-----------------------
ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่

ใ
20251104 เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Giant Wild Goose Pagoda ) ชีอาน
https://photos.app.goo.gl/SeToKCPWV2kTBF3p8
.
---------------------
