iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา

วัดม้าขาว (White Horse Temple) ลั่วหยาง เหอหนาน

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/FMsNHEjELgTBtjd18

มหัศจรรย์บ้านใต้ดินส่านโจว หมู่บ้านโบราณใต้ขอบฟ้า ซานเหมินเสีย แหล่งกำเนิดอารยธรรมลับแห่งผืนดินจีน

ลองจินตนาการถึงโลกที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่บนพื้นดิน แต่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ผืนพสุธา ราวกับอารยธรรมลี้ลับที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันรังสรรค์ขึ้น ณ ใจกลางของมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ท้าทายทุกความเข้าใจเรื่องที่อยู่อาศัยของเรา ที่นั่นคือ "บ้านใต้ดินส่านโจว" หรือที่รู้จักกันในชื่อ Shanzhou Dikengyuan และได้รับฉายาอันน่าหลงใหลว่า "หมู่บ้านโบราณใต้ขอบฟ้า" นี่ไม่ใช่แค่หมู่บ้าน แต่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลากว่า 4,000 ปี เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของการปรับตัวและดำรงชีวิตอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้ สายตาของเราอาจจะมองเห็นเพียงผืนดินราบเรียบกว้างใหญ่ มีต้นไม้ขึ้นแซมอยู่ประปราย แทบไม่น่าเชื่อว่าภายใต้พื้นผิวอันเงียบสงบนั้น กลับซ่อนเร้นโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความลับของยุคสมัยอันเก่าแก่ บ้านเรือนกว่าหมื่นหลังถูกขุดเจาะลงไปในชั้นดินเหลืองอันอุดมสมบูรณ์ ก่อเกิดเป็นลานบ้านกลางแจ้งใต้พิภพที่รับแสงตะวันจากเบื้องบน และถ้ำที่อยู่อาศัยที่รายล้อมอยู่โดยรอบ แต่ละหลังคือพยานแห่งการเอาชีวิตรอดและศิลปะการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาด เป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจในธรรมชาติอย่างลึกซึ้งของผู้คนในอดีต

การผจญภัยในบ้านใต้ดินส่านโจวนั้น เป็นมากกว่าการท่องเที่ยวชมสถานที่โบราณ แต่เป็นการเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่มนุษย์ยังคงพึ่งพาและเรียนรู้จากโลกธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ความรู้สึกอัศจรรย์ใจจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้สัมผัสกับความเย็นสบายในฤดูร้อนและความอบอุ่นในฤดูหนาวภายในบ้านถ้ำเหล่านี้ ราวกับได้พบกับ "เครื่องปรับอากาศตามธรรมชาติ" ที่ธรรมชาติมอบให้ เสน่ห์ของที่นี่ไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่อลังการแบบสิ่งก่อสร้างเหนือพื้นดิน แต่เป็นความงดงามที่แฝงเร้น ความเรียบง่ายที่ซับซ้อน และความรู้สึกเชื่อมโยงกับบรรพบุรุษที่สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมาด้วยสองมือ

ที่ตั้งและภูมิศาสตร์

บ้านใต้ดินส่านโจว หรือ Shanzhou Dikengyuan ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเป่ยหยิน เมืองจางปิ้ง เขตซานโจว เมืองซานเหมินเสีย มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน พิกัดทางภูมิศาสตร์ของที่นี่เป็นบริเวณที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยตั้งอยู่บนรอยต่อของสามมณฑลได้แก่ เหอหนาน ซานซี และส่านซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมจีนโบราณหลายแห่ง ทำให้พื้นที่นี้มีเรื่องราวและมรดกตกทอดมากมาย

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองซานเหมินเสียไปทางทิศใต้ประมาณ 11 กิโลเมตร ลักษณะทางภูมิประเทศโดยรอบเป็นที่ราบสูงดินเหลือง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Loess Plateau ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินชนิดพิเศษนี้ ดินเหลืองเป็นวัสดุที่ง่ายต่อการขุดเจาะและมีความคงตัวสูง จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการสร้างบ้านใต้ดินในลักษณะนี้มาหลายพันปี สภาพแวดล้อมที่ราบสูงทำให้การก่อสร้างและการใช้ชีวิตใต้ดินมีข้อได้เปรียบหลายประการ ทั้งการป้องกันลมหนาวและพายุทราย

ในส่วนของสภาพภูมิอากาศ บ้านใต้ดินส่านโจวตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบทวีปชื้น ซึ่งมีสี่ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ลักษณะเฉพาะของบ้านใต้ดินคือความสามารถในการปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้คงที่อย่างน่าอัศจรรย์ ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศภายนอกอาจหนาวจัด อุณหภูมิภายในบ้านจะคงอยู่ที่สูงกว่า 10 องศาเซลเซียส สร้างความอบอุ่นและความสบายให้กับผู้อยู่อาศัย ในทางกลับกัน ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศภายนอกร้อนอบอ้าว อุณหภูมิภายในบ้านจะรักษาระดับอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส ทำให้รู้สึกเย็นสบายอย่างเป็นธรรมชาติ ปรากฏการณ์นี้เองที่ทำให้บ้านใต้ดินแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า "เครื่องปรับอากาศตามธรรมชาติ" หรือ "ที่อยู่อาศัยอุณหภูมิคงที่" สะท้อนถึงภูมิปัญญาอันล้ำลึกในการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เรื่องราวของบ้านใต้ดินส่านโจว ถักทอขึ้นจากผืนดินและกาลเวลาที่ยาวนานกว่า 4,000 ปี ย้อนกลับไปในยุคแรกเริ่มของอารยธรรมจีน เมื่อผู้คนในพื้นที่ราบสูงดินเหลืองเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติรอบตัวอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างที่พักพิงที่แข็งแรงและปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและสภาพอากาศที่รุนแรง การขุดเจาะลงไปในผืนดินเพื่อสร้างถ้ำที่อยู่อาศัยนั้นเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และบ้านใต้ดินส่านโจวก็เป็นหนึ่งในรูปแบบที่อยู่อาศัยโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุด

ในช่วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา รูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านใต้ดินได้พัฒนาและปรับปรุงให้เข้ากับความต้องการและการดำรงชีวิตของผู้คน แม้ว่าจะมีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีและวัสดุก่อสร้างที่ทันสมัยเข้ามาในยุคหลัง แต่หลักการพื้นฐานของการสร้างบ้านใต้ดินก็ยังคงอยู่ แสดงให้เห็นถึงความทนทานและประสิทธิภาพที่ไร้กาลเวลาของภูมิปัญญานี้ บ้านใต้ดินเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของบ้านใต้ดินส่านโจวได้รับการยอมรับในระดับประเทศ เมื่อเทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างบ้านใต้ดินแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นหนึ่งใน "มรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติที่จับต้องไม่ได้ของจีน" (National Intangible Cultural Heritage) ในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) การรับรองนี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของบ้านใต้ดินเท่านั้น แต่ยังช่วยในการอนุรักษ์และส่งเสริมให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และเห็นคุณค่าของมรดกอันล้ำค่านี้ ปัจจุบัน บ้านใต้ดินส่านโจวได้ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเริ่มเปิดให้สาธารณชนเข้าชมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่จับต้องได้ของ "ฟอสซิลที่มีชีวิตในประวัติศาสตร์บ้านที่อยู่อาศัย" แห่งนี้

ตำนานและความสำคัญ

บ้านใต้ดินส่านโจว ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงสร้างทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเต็มไปด้วยตำนานและความสำคัญทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงปรัชญาและวิถีชีวิตของผู้คนในอดีต ตำนานเล่าขานถึงบรรพบุรุษผู้บุกเบิกที่มองเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในผืนดินเหลืองอันกว้างใหญ่ พวกเขาเรียนรู้ที่จะ "โอบกอด" แผ่นดิน ด้วยการขุดเจาะลึกลงไปเพื่อสร้างบ้านเรือนที่ให้ความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหลือเชื่อ ตำนานเหล่านี้มักจะเน้นย้ำถึงความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ การยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม แทนที่จะต่อสู้หรือเปลี่ยนแปลงมัน

ความสำคัญของบ้านใต้ดินแห่งนี้ถูกอธิบายผ่านสุภาษิตโบราณที่สืบทอดกันมาว่า "มองเห็นต้นไม้แต่ไม่เห็นหมู่บ้าน เข้าไปในหมู่บ้านแต่ไม่เห็นบ้านพัก เข้าสู่บ้านพักแล้วยังไม่เห็นประตู ได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นคน" วลีอันลึกซึ้งนี้มิได้เป็นเพียงคำบรรยายเชิงเปรียบเทียบ แต่เป็นการสะท้อนสภาพความเป็นจริงของหมู่บ้านใต้ดินได้อย่างแม่นยำที่สุด ผู้มาเยือนจะประหลาดใจที่สามารถเดินผ่านป่าต้นไม้และพื้นที่เพาะปลูก โดยไม่ทันสังเกตว่ามีชุมชนขนาดใหญ่อยู่ใต้เท้าของตนเอง เมื่อเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้าน ก็จะพบว่าบ้านแต่ละหลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน มีเพียงทางเข้าออกที่มองเห็นได้จากพื้นผิวเท่านั้น และแม้จะเข้าไปในลานบ้านใต้ดินแล้ว ประตูทางเข้าสู่ถ้ำที่อยู่อาศัยก็มักจะถูกออกแบบให้กลมกลืนกับผนังดิน ทำให้มองเห็นได้ยากยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะในการออกแบบเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ในด้านสถาปัตยกรรม บ้านใต้ดินเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่หาได้ยากยิ่งของ "บ้านพักใต้ดินเดี่ยว" ที่ไม่เหมือนใครในโลก การก่อสร้างเริ่มต้นด้วยการขุดหลุมขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าลงไปในพื้นดิน โดยมีความลึกประมาณ 6 ถึง 8 เมตร (บางแหล่งระบุถึง 10-12 เมตรสำหรับด้านกว้างของหลุม) ผนังทั้งสี่ด้านของหลุมจะถูกเจาะเป็นถ้ำรูปโค้ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นห้องพักอาศัย ห้องครัว ห้องเก็บของ และส่วนอื่นๆ ของบ้าน ลานบ้านที่อยู่ตรงกลางจะทำหน้าที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์จากเบื้องบน เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมประจำวันและเป็นพื้นที่สำหรับการพบปะสังสรรค์ภายในครอบครัว การจัดวางโครงสร้างคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสและการจัดตำแหน่งต่างๆ ยังเชื่อว่าคำนึงถึงหลักฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่องการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมเพื่อความเป็นสิริมงคล

ความสำคัญทางวัฒนธรรมอีกประการคือ บ้านใต้ดินนี้เป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาในการปรับตัวของผู้คนในอดีต พวกเขาสร้างบ้านที่สามารถกันลม กันเสียง และทนทานต่อแผ่นดินไหวได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศและสภาพอากาศเฉพาะตัวนี้ นอกจากนี้ ความสามารถในการรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้คงที่—อบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน—ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทางกายภาพของดิน บ้านใต้ดินส่านโจวไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งก่อสร้าง แต่เป็น "ซากฟอสซิลที่มีชีวิตในประวัติศาสตร์ที่อยู่อาศัยของมนุษย์" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความเฉลียวฉลาด ความอดทน และความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างมนุษย์กับแผ่นดินแม่มานานนับพันปี

จุดเด่นและสถานที่น่าสนใจ

บ้านใต้ดินโบราณนับหมื่นแห่ง

พื้นที่โดยรอบบ้านใต้ดินส่านโจวและในเขตซานเหมินเสียทั้งหมดนั้น เป็นแหล่งรวมของบ้านใต้ดินโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่พัฒนามาจากวัฒนธรรมถ้ำจำนวนมหาศาลกว่า 10,000 หลัง แต่ละหลังคือหน้าต่างสู่ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป ความกว้างใหญ่ของชุมชนใต้ดินนี้เป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการได้ จนกว่าจะได้มาเห็นด้วยตาตนเอง การเดินสำรวจไปตามทางเดินใต้ดินที่เชื่อมต่อบ้านเรือนเหล่านี้ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังค้นพบอาณาจักรที่ถูกซ่อนเร้น ความเงียบสงบที่แผ่ซ่านอยู่ใต้พื้นดิน ตัดขาดจากความวุ่นวายภายนอก ทำให้เราได้สัมผัสถึงความลึกลับและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้

บ้านใต้ดินแต่ละหลังมีเรื่องราวของตัวเอง ตั้งแต่ถ้ำที่ยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมไว้ ไปจนถึงถ้ำที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นที่พัก ร้านอาหาร หรือพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แสดงถึงวิวัฒนาการและการใช้งานที่หลากหลายตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา การได้เห็นความหลากหลายของบ้านถ้ำเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจถึงความเฉลียวฉลาดของผู้คนที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างไร้ที่ติ ยิ่งไปกว่านั้น การได้ลองจินตนาการถึงชีวิตประจำวันที่ดำเนินอยู่ใต้ดิน การทำอาหาร การพักผ่อน การรวมญาติภายในลานบ้านใต้พิภพเหล่านี้ ก็ยิ่งทำให้เราตระหนักถึงความพิเศษของวัฒนธรรมการอยู่อาศัยที่นี่

สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาธรรมชาติ

สถาปัตยกรรมของบ้านใต้ดินส่านโจวนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง การออกแบบที่คล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า และการจัดวางที่คำนึงถึงตำราฮวงจุ้ย แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งทางความคิดและปรัชญาของผู้สร้าง ที่ไม่ได้คำนึงถึงเพียงประโยชน์ใช้สอย แต่ยังรวมถึงความเชื่อและหลักการในการดำรงชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติและพลังงานรอบตัว การขุดหลุมลึกลงไปในพื้นดินประมาณ 6-8 เมตร และการเจาะถ้ำเข้าไปในผนังทั้งสี่ด้าน ถือเป็นเทคนิคที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สร้างสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่แข็งแรงทนทานต่อทุกสภาวะ

ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของสถาปัตยกรรมนี้คือความสามารถในการเป็น "เครื่องปรับอากาศธรรมชาติ" โดยที่อุณหภูมิภายในบ้านจะสูงกว่า 10 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว และคงอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน ความคงที่ของอุณหภูมินี้เกิดจากมวลของดินที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนและความเย็นได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ กำแพงดินที่หนายังช่วยกันลม กันเสียง และแม้กระทั่งทนทานต่อแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งจากผู้คนที่ไร้ซึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ พวกเขาสร้างบ้านที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานของการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความปลอดภัย ความสบาย และความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

เทศกาลโคมไฟตรุษจีนอันตระการตา

ในแต่ละปี ช่วงเทศกาลตรุษจีน บ้านใต้ดินส่านโจวจะพลิกโฉมจากหมู่บ้านใต้ดินอันเงียบสงบให้กลายเป็นงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาด้วยการจัดงานโคมไฟครั้งยิ่งใหญ่ โคมไฟนับพันดวงถูกประดับประดาไปทั่วทั้งบริเวณบ้านใต้ดิน ส่องแสงเรืองรองสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวาให้กับฤดูหนาวที่อาจจะมืดมิดและหนาวเย็น การเดินเล่นท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับใต้พิภพนี้ เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากจะลืมเลือน ราวกับก้าวเข้าสู่โลกแฟนตาซีที่หลุดออกมาจากนิทานปรัมปรา แสงโคมไฟที่สะท้อนกับผนังดินเหลือง สร้างเงาและลวดลายที่สวยงาม แปลงโฉมบ้านถ้ำโบราณให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

เทศกาลโคมไฟนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่จีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา การได้ชมการแสดงพื้นบ้าน การชิมอาหารว่างท้องถิ่นภายใต้แสงโคมไฟยามค่ำคืน จะทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความอบอุ่นของผู้คน และความงดงามของประเพณีที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

กิจกรรมและการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น

บ้านใต้ดินส่านโจวไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ให้ชมความงามทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง กิจกรรมที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งคือการได้ "พักในบ้านถ้ำใต้ดิน" บางหลังที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นที่พัก การได้ใช้เวลาหนึ่งคืนหรือหลายคืนภายในบ้านถ้ำ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการพักในโรงแรมทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ความเงียบสงบ ความเย็นสบายที่คงที่ และความรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ที่อยู่รอบตัว เป็นประสบการณ์ที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำ

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลอง "อาหารว่างพื้นบ้าน" ที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แท้จริง รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จะบอกเล่าเรื่องราวของผืนดินและวิถีชีวิตของผู้คนได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น การได้ "ชมประเพณีพื้นบ้านทางตะวันตกของมณฑลเหอหนาน" ซึ่งอาจรวมถึงการแสดงดนตรี การเต้นรำ หรือพิธีกรรมต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้สมบูรณ์ การได้เห็นผู้คนในท้องถิ่นใช้ชีวิต ทำงาน และรักษาประเพณีของตนเองไว้ ทำให้เราเข้าใจถึงจิตวิญญาณของหมู่บ้านโบราณใต้ขอบฟ้าแห่งนี้ได้ดียิ่งขึ้น

การยอมรับระดับประเทศและนานาชาติ

ความโดดเด่นและความสำคัญของบ้านใต้ดินส่านโจวได้รับการยอมรับในระดับสูง โดยในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติเป็น "หมู่บ้านพักผ่อนที่สวยที่สุดในประเทศจีน" ซึ่งเป็นการการันตีถึงความงดงามทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าบ้านใต้ดินแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและน่าประทับใจ

ต่อเนื่องมาในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) บ้านใต้ดินส่านโจวยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น "สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4A" ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรองจาก 5A ในการจัดหมวดหมู่สถานที่ท่องเที่ยวของจีน การจัดอันดับนี้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานที่สูงในด้านการบริหารจัดการ สิ่งอำนวยความสะดวก และคุณภาพการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว การได้รับรางวัลและการยอมรับเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความนิยมให้กับบ้านใต้ดินส่านโจวเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสำคัญในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอีกด้วย

บ้านใต้ดินส่านโจว หรือ Shanzhou Dikengyuan คือบทกวีแห่งผืนดินและกาลเวลาที่จารึกเรื่องราวของมนุษย์ผู้ชาญฉลาดผู้รู้จักโอบกอดธรรมชาติอย่างแท้จริง การเดินทางสู่ "หมู่บ้านโบราณใต้ขอบฟ้า" แห่งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในประเทศจีน หากแต่เป็นการก้าวเข้าสู่มิติเวลาที่ย้อนกลับไปกว่า 4,000 ปี สัมผัสถึงภูมิปัญญาอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศิลปะการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและกลมกลืนกับโลก

ตั้งแต่การรับรู้ถึงความเย็นสบายในฤดูร้อนและความอบอุ่นในฤดูหนาวภายในบ้านถ้ำ ไปจนถึงการสำรวจทางเดินใต้ดินอันคดเคี้ยว และการได้เห็นลานบ้านกลางแจ้งที่รับแสงตะวันจากเบื้องบน ทุกย่างก้าวคือการค้นพบความมหัศจรรย์ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ สุภาษิตที่ว่า "มองเห็นต้นไม้แต่ไม่เห็นหมู่บ้าน เข้าไปในหมู่บ้านแต่ไม่เห็นบ้านพัก เข้าสู่บ้านพักแล้วยังไม่เห็นประตู ได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นคน" ได้เผยให้เห็นถึงความลึกลับและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ที่ซึ่งชีวิตดำเนินอยู่ภายใต้ผืนดินอย่างสงบเงียบและเปี่ยมด้วยความหมาย

บ้านใต้ดินส่านโจวเป็นมากกว่าสถาปัตยกรรม แต่เป็น "ฟอสซิลที่มีชีวิต" ที่บอกเล่าเรื่องราวของความอดทน ความเฉลียวฉลาด และการปรับตัว เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ การได้มาเยือนที่นี่ทำให้เราตระหนักว่า ความงดงามที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ที่มองเห็นได้จากภายนอก แต่อยู่ที่ความลึกซึ้ง ความจริงใจ และความกลมกลืนกับธรรมชาติที่เราอาจมองข้ามไป บ้านใต้ดินแห่งนี้เชื้อเชิญให้เราเปิดใจ ผจญภัย และชื่นชมในความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนพสุธา พร้อมนำพาความทรงจำอันล้ำค่าและความเข้าใจใหม่ๆ กลับไปพร้อมกับเราอย่างแน่นอน

-------------------------

ที่มา

รวบรวมข้อมูลและรูป

www.iok2u.com

-------------------------

ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่

เที่ยวจีน (Travel China)

เที่ยวรอบโลก (World Travel)

รวมเรื่องราวการท่องเที่ยว iok2u

-----------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่

.

.

xxx

yyy

.

---------------------

 

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward