เที่ยวจีน เหอหนาน ลั่วหยาง เมืองโบราณหลั่วอี้ (Luoyi Ancient City)

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/w1ob7jrk4Pehnm8A9

เมืองโบราณหลั่วอี้ ลั่วหยาง มหานครแห่งกาลเวลาที่ยังคงสะกดทุกสายตา

การเดินทางสู่เมืองโบราณหลั่วอี้ ณ ใจกลางเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ไม่ใช่เพียงการเยือนสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือการดำดิ่งสู่ห้วงประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของอาณาจักรจีนโบราณ ที่ซึ่งอารยธรรมนับพันปีได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นบนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ทันทีที่ย่างเท้าเข้าสู่กำแพงเมืองเก่าแก่ เราจะถูกโอบล้อมด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าอัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างประณีต งดงามราวกับหลุดเข้าไปในฉากของภาพยนตร์จีนย้อนยุค ทุกมุมถนน ทุกตรอกซอกซอย ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวและวิญญาณของผู้คนที่เคยใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ บอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่ ความรุ่งเรือง และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่ผ่านมา

ลั่วหยางในอดีตคือ "ลั่วอี้" นครหลวงโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจของ 13 ราชวงศ์จีน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการกำเนิดและพัฒนาอารยธรรมจีนอันเก่าแก่กว่า 3,000 ปี การเดินทอดน่องไปตามทางเท้าหินโบราณที่ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงสดใสในยามค่ำคืน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอดีตที่อบอวลไปทั่ว ราวกับว่ากำแพงเมืองเหล่านี้ยังคงกระซิบเล่าตำนานวีรบุรุษและจักรพรรดิผู้เกรียงไกรที่เคยปกครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ความวิจิตรของหลังคาจีนที่ซ้อนลดหลั่นเป็นชั้นๆ เสาไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง และลานกว้างที่เคยเป็นที่ประชุมของปราชญ์และกวี ล้วนเชิญชวนให้จินตนาการถึงชีวิตอันหลากหลายในยุคโบราณ

เสน่ห์ของหลั่วอี้ ไม่ได้มีเพียงแค่โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว ร้านค้าโบราณที่จำหน่ายงานฝีมือท้องถิ่น ร้านน้ำชาหอมกรุ่น และแผงขายอาหารข้างทางที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนให้ลิ้มลอง ล้วนสร้างประสบการณ์ที่ครบครันสำหรับการเดินทาง ประหนึ่งว่าเรากำลังเดินทางผ่านอุโมงค์แห่งกาลเวลาที่เชื่อมโยงความเก่าแก่เข้ากับความคึกคักของวิถีชีวิตในปัจจุบัน การได้เห็นผู้คนแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูอันงดงามเดินเล่นอยู่ทั่วบริเวณ ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายจีนโบราณที่โลดแล่นมีชีวิตจริง

ยามราตรีมาเยือน คือช่วงเวลาที่เมืองโบราณหลั่วอี้ เผยโฉมความงดงามที่แท้จริง แสงไฟหลากสีสันส่องสว่างประดับประดาอาคารบ้านเรือน เจดีย์ และประตูเมือง สะท้อนบนผิวน้ำในคลองเล็กๆ ที่ไหลริน ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มราวกับอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน การแสดงแสงสีเสียงที่บอกเล่าตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ถัง ยิ่งเพิ่มความตระการตาและมนต์ขลังให้กับการมาเยือน ดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำนี้ การเดินทางมายังหลั่วอี้กู่เฉิง จึงไม่ใช่แค่การชมเมืองเก่า แต่เป็นการผจญภัยทางวัฒนธรรมที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน

ที่ตั้งและภูมิศาสตร์

เมืองโบราณหลั่วอี้ ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีที่อยู่ ณ บริเวณทิศเหนือของสี่แยกถนน Jiudu East Road และถนน Liulin Street หรืออาจระบุได้ว่าคือ 2 Liulin South Road, Laocheng District ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองลั่วหยาง

เมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิงแห่งลั่วหยางเป็นศูนย์รวมของประวัติศาสตร์อันยาวนานและซับซ้อนของจีน ด้วยรากฐานที่มีมานานกว่า 3,000 ถึง 5,000 ปี ทำให้ลั่วหยางได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอารยธรรมจีนที่เก่าแก่ที่สุด ชื่อ "ลั่วอี้" เป็นชื่อโบราณของลั่วหยาง ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จีนถึง 13 ราชวงศ์ ทำให้มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ฝากฝังไว้มากมายในทุกซอกมุมของเมือง

จุดที่น่าสนใจและไฮไลท์

เจดีย์เหวินเฟิง (Wenfeng Pagoda)

เจดีย์เหวินเฟิงเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นหัวใจสำคัญของเมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิง เจดีย์อิฐและหินแห่งนี้มีความสูงประมาณ 30 เมตร มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและสง่างาม เดิมทีสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยราชวงศ์ชิง เจดีย์เหวินเฟิงมีชื่อเสียงในด้านความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าเหวินชาง (Wenchang) และเทพเจ้าขุยซิง (Kuixing) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งวรรณกรรมและประสบความสำเร็จในการสอบจอหงวนในสมัยโบราณ ทำให้เจดีย์แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนในอดีตมักมาสักการะเพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาและการสอบ

การเดินชมรอบๆ เจดีย์เหวินเฟิงในยามค่ำคืนเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจยิ่งนัก แสงไฟที่ส่องสว่างขึ้นขับเน้นให้เห็นรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตาของเจดีย์ โดดเด่นอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้และอาคารโบราณอื่นๆ บรรยากาศรอบเจดีย์เต็มไปด้วยความสงบและมนต์ขลัง ชวนให้รำลึกถึงอดีตกาลอันรุ่งโรจน์ของลั่วหยางในฐานะศูนย์กลางแห่งปัญญาและวัฒนธรรม การได้ยืนอยู่เบื้องหน้าเจดีย์แห่งนี้ ทำให้รู้สึกถึงพลังแห่งความศรัทธาและประวัติศาสตร์ที่ส่งผ่านกาลเวลามาสู่ปัจจุบัน

อาคารโบราณที่ได้รับการฟื้นฟู (Restored Ancient Buildings)

เมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิงโดดเด่นด้วยการฟื้นฟูอาคารโบราณจำนวนมากอย่างพิถีพิถัน เพื่อคืนชีวิตชีวาให้กับรูปแบบสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของลั่วหยาง อาคารเหล่านี้รวมถึง วัดขงจื๊อแห่งมณฑลเหอหนาน (Henan Provincial Confucian Temple) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการศึกษาปรัชญาขงจื๊อในอดีต และ พระราชวัง Tuoling ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่บอกเล่าเรื่องราวของราชสำนักจีนโบราณ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่หลงเหลือของกำแพงเมืองโบราณในสมัยราชวงศ์จินและหยวน ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ในแต่ละยุคสมัย

สถาปัตยกรรมของอาคารที่ได้รับการบูรณะเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความงดงามและรายละเอียดอันประณีตของศิลปะจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นชายคาที่โค้งงอน ประตูไม้แกะสลักอย่างวิจิตร หรือลานภายในที่จัดแต่งอย่างเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสงบ การเดินชมอาคารเหล่านี้เปรียบเสมือนการเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ซึ่งทุกก้อนอิฐและทุกแผ่นกระเบื้องเล่าเรื่องราวของยุคสมัยอันยาวนาน นับเป็นโอกาสอันล้ำค่าที่จะได้สัมผัสและชื่นชมกับมรดกทางสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม

ถนนสไตล์หมิง-ชิง และบรรยากาศยามค่ำคืน (Ming-Qing Style Streets and Night Atmosphere)

ถนนภายในเมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิงได้รับการออกแบบและฟื้นฟูให้มีสไตล์คล้ายคลึงกับถนนในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปะและวัฒนธรรมจีนรุ่งเรืองอย่างยิ่ง ถนนคนเดินยาว 1.2 กิโลเมตรแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านรวงอันเป็นเอกลักษณ์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารว่าง ร้านบูติกเก๋ไก๋ และร้านกาแฟสุดชิค ซึ่งผสมผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความมีชีวิตชีวาของตลาดสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ในเวลากลางวัน ถนนเหล่านี้เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายที่มาจับจ่ายใช้สอยและสัมผัสบรรยากาศ

แต่เมื่อยามค่ำคืนมาเยือน ถนนเหล่านี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นดินแดนแห่งมนต์ขลัง แสงไฟสีแดงส้มจากโคมไฟจีนโบราณนับพันดวงส่องสว่างไปทั่วทุกมุมถนน สะท้อนประกายบนผิวทางเดินหิน และขับเน้นให้เห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมยามค่ำคืน กลิ่นหอมของอาหารท้องถิ่นลอยอบอวลไปในอากาศ เสียงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงขับกล่อม และผู้คนจำนวนมากที่แต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูอันงดงามเดินเล่นถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา การเดินเล่นในยามค่ำคืนจึงเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของหลั่วอี้กู่เฉิง

ประตูเมืองและกำแพงเมือง (City Walls and Gates)

เมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิงได้รับการฟื้นฟูกำแพงเมืองและประตูเมืองขึ้นใหม่หลายแห่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศทางประวัติศาสตร์และสะท้อนความยิ่งใหญ่ของลั่วหยางในฐานะเมืองหลวงในอดีต ประตูเมืองที่สำคัญ ได้แก่ ประตูเหวินชาง (Wenchang Gate) ซึ่งมีความสูงประมาณ 12 เมตร และมีการแสดงโปรเจคชั่นแสงสีเสียงในยามค่ำคืนที่บอกเล่าเรื่องราวขบวนเสด็จของจักรพรรดิถังเสวียนจง (Emperor Xuanzong) อันน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีประตูติ่งติ่ง (Dingding Gate) และประตูอันฮุย (Anhui Gate) ซึ่งล้วนแต่มีสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่งและงดงาม แสดงถึงความสามารถทางวิศวกรรมของชาวจีนโบราณ

การเดินเลียบกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะใหม่นี้ทำให้เราได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต จินตนาการถึงความสำคัญของกำแพงเหล่านี้ที่เคยปกป้องผู้คนในเมืองจากภัยคุกคามต่างๆ ในยามค่ำคืน แสงไฟที่ประดับประดาประตูเมืองและกำแพงจะส่องสว่างอย่างงดงาม ทำให้โครงสร้างโบราณเหล่านี้ดูมีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว การได้ชมการแสดงแสงสีเสียงที่ประตูเหวินชาง ถือเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับประวัติศาสตร์อันยาวนานได้อย่างลงตัว สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้อย่างไม่รู้ลืม

การแต่งกายฮั่นฝูและการแสดงวัฒนธรรม (Hanfu Experience and Cultural Performances)

หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าสนใจที่สุดในเมืองโบราณหลั่วอี้กู่เฉิงคือการได้สัมผัสวัฒนธรรมจีนโบราณอย่างใกล้ชิดผ่านการแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝู ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของชาวฮั่นในอดีต มีร้านค้าหลายแห่งที่ให้บริการเช่าชุดฮั่นฝูอันวิจิตรสวยงามหลากหลายแบบ ให้ผู้มาเยือนได้เลือกสวมใส่และถ่ายรูปในบรรยากาศเมืองเก่า ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์จีน การแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูช่วยเพิ่มอรรถรสในการสำรวจเมือง ทำให้ภาพถ่ายดูมีชีวิตชีวาและเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น

นอกจากการได้สวมใส่ชุดโบราณแล้ว เมืองโบราณหลั่วอี้ยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมและประเพณีพื้นเมืองต่างๆ อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน จะมีการแสดงดนตรีจีนโบราณ การเต้นรำพื้นเมือง และการแสดงแสงสีเสียงที่บอกเล่าตำนานและเรื่องราวจากราชวงศ์ถังที่ยิ่งใหญ่ การแสดงเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีนให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสและชื่นชม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การมาเยือนหลั่วอี้เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์อันล้ำค่า

โดยทั่วไปแล้ว การเข้าชมเมืองโบราณหลั่วอี้นั้น "ฟรี" อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการเข้าชมการแสดงวัฒนธรรมบางอย่าง หรือการเข้าชมวัดและหอคอยภายในเมือง ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมแยกต่างหากตั้งแต่ 20-50 หยวน นอกจากนี้ ในช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือสำหรับการแสดงแสงสีเสียงในยามค่ำคืน อาจมีค่าเข้าชมเฉพาะส่วน

เมืองโบราณหลั่วอี้ ลั่วหยาง ไม่ได้เป็นเพียงซากปรักหักพังของอดีต แต่เป็นมหานครแห่งกาลเวลาที่ยังคงมีลมหายใจ เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งอารยธรรมจีนโบราณที่ยังคงเปล่งประกายอย่างเจิดจรัส การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้คือการผจญภัยอันน่าอัศจรรย์สู่รากเหง้าของประวัติศาสตร์ ที่ซึ่งทุกก้าวเดินคือการค้นพบเรื่องราว ตำนาน และความงดงามที่น่าทึ่งของแผ่นดินมังกร

จากกำแพงเมืองที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างประณีต สู่เจดีย์เหวินเฟิงที่ตั้งตระหง่านท้าทายกาลเวลา ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในยามค่ำคืน และการแสดงวัฒนธรรมที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับความมีชีวิตชีวาได้อย่างลงตัว ลั่วอี้กู่เฉิงคือบทพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของบรรพชนชาวจีน ที่ได้สร้างสรรค์และสืบทอดมรดกอันล้ำค่ามาสู่คนรุ่นหลัง ไม่ว่าจะเป็นความลึกซึ้งทางปรัชญา ความวิจิตรของสถาปัตยกรรม หรือความงดงามของศิลปะ

การได้สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนที่แสงไฟหลากสีสันส่องสว่างโคมไฟโบราณ สะท้อนบนผิวน้ำในคลองเล็กๆ ดุจภาพวาดที่เคลื่อนไหว การได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศ และการได้เห็นผู้คนแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูเดินเล่นไปมา ล้วนสร้างความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนได้ ลั่วอี้กู่เฉิงจึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกทัศน์ ให้เราได้เห็น ได้สัมผัส และได้ซาบซึ้งกับความมหัศจรรย์ของอารยธรรมจีนอย่างแท้จริง เป็นการเดินทางที่เติมเต็มทั้งความรู้ ความประทับใจ และความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยความเคารพต่อประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้