iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
 เที่ยวจีน เมืองราชธานีโบราณ หนานจิง (Nanjing)

 

ประวัติเมืองหลวงโบราณ หนานจิง (Nanjing) มหานครแห่งราชวงศ์ นักปฏิรูป และความทรงจำทางประวัติศาสตร์

หนานจิง (Nanjing) หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า นานกิง (Nanking) เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน หนานจิงยังเป็นนครใหญ่อันดับสองในภาคตะวันออกของประเทศจีน รองจากช่างไห่ พื้นที่ด้านในของนครหนานจิงล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณคือ เขตนครหนานจิงเก่า มีพื้นที่ 55 ตารางกิโลเมตร ในขณะที่เขตนครหนานจิงชั้นนอก รวมถึงนครและพื้นที่โดยรอบครอบคลุมกว่า 60,000 ตารางกิโลเมตร จัดเป็นเขตนครหนานจิงใหม่ มีประชากรกว่า 30 ล้านคน นครหนานจิงตั้งอยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี มีสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน โดยเป็นนครที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของราชวงศ์จีนสมัยอาณาจักร ตลอดจนถึงสมัยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชุดต่าง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ถึง ค.ศ. 1949 และเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่สำคัญ การศึกษา การวิจัย การเมือง เศรษฐกิจ เครือข่ายการขนส่ง และการท่องเที่ยว หนานจิงยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นครนี้ยังเป็นหนึ่งในสิบห้านครย่อยในโครงสร้างการบริหารของเขตปกครองสาธารณรัฐประชาชนจีน

หนานจิงแปลว่านครหลวงใต้ เคยเป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์ จนได้รับสมญานามว่า เมืองหลวงสิบแผ่นดิน และยังเป็น 1 ใน 6 นครโบราณ อันได้แก่ ปักกิ่ง หนานจิง ซีอาน ลั่วหยาง หางโจว และไคเฟิง เป็นหนึ่งในนครที่สำคัญที่สุดของประเทศมานานกว่าพันปี เป็นหนึ่งในนครที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองแม้จะมีสงครามและภัยพิบัติ หนานจิง ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของง่อก๊ก (229–280) หนึ่งในสามรัฐสำคัญในยุคสามก๊ก เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จิ้นและแต่ละราชวงศ์ในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (ได้แก่ หลิวซ่ง ฉีใต้ เหลียง และเฉิน) ซึ่งปกครองจีนตอนใต้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 317–589; ในสมัยราชวงศ์ถังใต้ (937–75), หนึ่งในสิบอาณาจักร ตลอดจนในสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อครั้งแรกที่ประเทศจีนทั้งหมดถูกปกครองจากนครหนานจิงเป็นศูนย์กลาง (1368–1421) 

กำเนิดเมืองหนานจิงจาก “จี้เย่” สู่เมืองหลวงแห่งแคว้น เมืองหนานจิงตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง (Yangtze River) ทางตะวันออกของจีนในมณฑลเจียงซู (Jiangsu) ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศตั้งแต่สมัยโบราณ ชื่อแรกของหนานจิงในประวัติศาสตร์คือ “จี้เย่ (Jianye)” ในสมัย สามก๊ก (Three Kingdoms, ค.ศ. 220–280) เมืองนี้กลายเป็นเมืองหลวงของ อาณาจักรอู๋ (Wu Kingdom) ที่มีบทบาทสำคัญในการแบ่งอำนาจของจีนในยุคนั้น

หนานจิงในยุคห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร เมืองหลวงแห่งภาคใต้ หลังราชวงศ์ถังล่มสลาย หนานจิงเป็นเมืองศูนย์กลางของอาณาจักรในภาคใต้หลายแห่งในช่วง ห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร (ค.ศ. 907–960) เช่น อาณาจักรต้าอู่ (Wu) อาณาจักรหนานถัง (Southern Tang) ยุคนี้หนานจิงมีความรุ่งเรืองทางศิลปะและวรรณกรรม ถือเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมก่อนจะเข้าสู่ยุคทองอีกครั้งในราชวงศ์หมิง

ราชวงศ์หมิง หนานจิงในฐานะเมืองหลวงแห่งชาติ หลังจากราชวงศ์หยวนล่มสลาย จักรพรรดิหงหวู่ (Hongwu Emperor) ผู้ก่อตั้ง ราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ได้สถาปนาเมืองหลวงที่หนานจิงในปี ค.ศ. 1368 ช่วงแรกของราชวงศ์หมิง หนานจิงคือเมืองหลวงหลัก ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “อิ่งเทียน (Yingtian)” มีการสร้างพระราชวังจักรพรรดิ ระบบกำแพงเมืองขนาดใหญ่ และโครงสร้างการปกครอง ต่อมาในปี ค.ศ. 1421 จักรพรรดิหย่งเล่อ (Yongle Emperor) ย้ายเมืองหลวงไปยัง ปักกิ่ง แต่หนานจิงยังคงสถานะเป็น เมืองหลวงรอง และฐานที่มั่นของราชสำนักฝ่ายใต้

หนานจิงในยุคราชวงศ์ชิงศูนย์กลางการค้าทางใต้ ในยุค ราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty, ค.ศ. 1644–1912) หนานจิงแม้ไม่ใช่เมืองหลวงแต่ยังคงเป็นเมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมทางใต้ เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษา ศิลปกรรม และการคมนาคมที่เชื่อมระหว่างจีนตะวันออกและภาคใต้ ผ่านทางแม่น้ำแยงซีเกียงและคลองใหญ่ (Grand Canal) 

หนานจิงในยุคสมัยใหม่เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐจีน หลังราชวงศ์ชิงล่มสลายในปี ค.ศ. 1912 หนานจิงได้รับเลือกเป็นเมืองหลวงของ สาธารณรัฐจีน (Republic of China) ภายใต้การนำของ ดร. ซุนยัดเซน (Sun Yat-sen) และต่อมาในยุคของ เจียงไคเช็ค (Chiang Kai-shek) หนานจิงเป็นศูนย์กลางของการปฏิรูปประเทศ และยังคงใช้เป็นเมืองหลวงของรัฐบาลจีนจนถึงปี ค.ศ. 1949

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมการสังหารหมู่ที่หนานจิง ในปี ค.ศ. 1937 ระหว่างสงครามจีน–ญี่ปุ่น หนานจิงถูกกองทัพญี่ปุ่นยึดครอง และเกิด “เหตุการณ์สังหารหมู่ที่หนานจิง (Nanjing Massacre)” ซึ่งมีประชาชนเสียชีวิตนับแสนคน เหตุการณ์นี้สร้างบาดแผลทางจิตใจแก่ประชาชนจีน และทำให้เมืองหนานจิงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวดจากสงคราม หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง หนานจิงยังคงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลคณะชาติต่อไป ก่อนที่รัฐบาลสาธารณรัฐจีน จะลี้ภัยหนีไปเกาะไต้หวันในช่วงสงครามกลางเมืองจีน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะสงครามกลางเมืองได้สถาปนาเป็น สาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี ค.ศ. 1949 รัฐบาลใหม่จึงได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังปักกิ่งดังเดิม

หนานจิงในยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ค.ศ. 1949 เมืองหลวงของประเทศถูกย้ายไปยังปักกิ่ง แต่หนานจิงยังคงมีบทบาทสำคัญทางการปกครอง โดยเป็นเมืองเอกของมณฑลเจียงซู ในยุคปัจจุบัน หนานจิงคือศูนย์กลางด้าน การศึกษา (มหาวิทยาลัยหนานจิง) วัฒนธรรม วิศวกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หนานจิงในยุคปัจจุบันเมืองหนานจิงยังคงรักษามรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า สุสานซุนยัดเซน (Sun Yat-sen Mausoleum) กำแพงเมืองโบราณที่ยาวที่สุดของจีน พิพิธภัณฑ์สังหารหมู่หนานจิง วัดเจี๋ยงเทียน (Jiming Temple) และ ทะเลสาบเสวียนหวู (Xuanwu Lake) เป็นเมืองที่สะท้อนการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง การทหาร และวัฒนธรรมจีนจากยุคจักรวรรดิ สู่ยุคสมัยใหม่

หนานจิง คือหนึ่งในเมืองหลวงเก่าแก่ที่มีบทบาทหลากหลาย ทั้งในฐานะเมืองหลวงของราชวงศ์โบราณ เมืองแห่งการปฏิรูปประชาธิปไตย และสถานที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจของสงคราม เมืองนี้จึงเป็นมากกว่าศูนย์กลางการปกครอง แต่ยังเป็น หัวใจแห่งความทรงจำของชาวจีนทั้งประเทศ 

การเดินทางมายังหนานจิง คือการสัมผัสทั้งความรุ่งโรจน์ ความเศร้า และความหวังของชาติ

จนสมัยการปฏิวัติซินไฮ่ล้มล้างจักรพรรดิจีน ราชวงศ์ชิงหรือแมนจู หนานจิงจึงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐจีน เป็นเมืองหลวงครั้งสุดท้ายระหว่างปี ค.ศ. 1927 ถึง ค.ศ. 1949 ภายใต้การบริหารของพรรคก๊กมินตั๋งมีรัฐบาลคือรัฐบาลชาตินิยมแห่งสาธารณรัฐจีน (จีนคณะชาติ) ซึ่งมีผู้นำขณะนั้น คือ จอมทัพเจียงไคเช็ค ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นครหนานจิงได้รับความโหดร้ายอย่างรุนแรงในความขัดแย้งของสงครามและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ การสังหารหมู่นานกิง

 

บรรพบุรุษชาวหนานจิงจำนวนมากอพยพมาจากปักกิ่งตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง จึงมีส่วนทำให้ภาษาหนานจิงมีสำเนียงคล้ายภาษาจีนกลางที่ฟังเข้าใจได้ทั่วไป จนทำให้ปัจจุบันหนานจิงเป็นหนึ่งในนครที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุดในประเทศจีน

.

-------------------------

ที่มา

รวบรวมข้อมูลและรูป

www.iok2u.com

-------------------------

ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่

เที่ยวจีน (Travel China)

เที่ยวรอบโลก (World Travel)

-------------------------

 

 

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward