iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
 
เที่ยวจีน เมืองราชธานีโบราณ ลั่วหยาง (Luoyang)

 


ลั่วหยาง (Luoyang) ต้นกำเนิดอารยธรรมและศูนย์กลางพุทธศิลป์แห่งแดนมังกร

ความสำคัญ เมืองหลวงแรกของจีน สมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล) และราชวงศ์สำคัญ เช่น ฮั่นตะวันออก และสุย จุดเริ่มต้นของ พุทธศิลป์จีน หลังการเผยแผ่พุทธศาสนาเข้าสู่จีนผ่านเส้นทางสายไหม ศูนย์กลางของ ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes) หนึ่งในสามสุดยอดถ้ำพุทธศิลป์ของจีน ประวัติเมืองหลวงโบราณ ลั่วหยาง (Luoyang) หนึ่งในต้นกำเนิดอารยธรรมจีน และศูนย์กลางแห่งพุทธศิลป์

กำเนิดเมืองลั่วหยางเมืองหลวงแห่งแรกของจีน ลั่วหยางตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศจีน บนที่ราบแม่น้ำฮวงโห (Yellow River Plain) ระหว่างแม่น้ำหลัว (Luo River) กับแม่น้ำอี้ (Yi River) ด้วยทำเลที่มีภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ เป็นจุดบรรจบระหว่างแหล่งอารยธรรมโบราณ ทำให้พื้นที่นี้มีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่สมัย ยุคหินใหม่ (Neolithic Era) ตามตำนานโบราณ ลั่วหยางถือเป็นสถานที่ก่อกำเนิดของวัฒนธรรมจีนและจักรพรรดิองค์แรกๆ เช่น จักรพรรดิเหลือง (Huangdi) และ จักรพรรดิเหยา (Yao)

ลั่วหยางในฐานะเมืองหลวงยุคโบราณ ราชวงศ์เซี่ย (Xia Dynasty) ซึ่งเป็นราชวงศ์แรกสุดของจีน (ประมาณ 2,070–1,600 ปีก่อนคริสตกาล) เชื่อว่ามีการปกครองอยู่ใกล้บริเวณลั่วหยาง ในยุค ราชวงศ์ซาง (Shang Dynasty) (1,600–1,046 ปีก่อนคริสตกาล) เมืองนี้มีความสำคัญทางศาสนาและพิธีกรรม ราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty) ต่อมาได้ตั้งเมืองหลวงใกล้ลั่วหยางที่ชื่อ ลั่วอี้ (Luoyi) ซึ่งเป็นฐานอำนาจช่วง ยุคโจวตะวันออก (Eastern Zhou, 770–256 ปีก่อนคริสตกาล) หมายเหตุ: ยุคโจวตะวันออกแบ่งเป็นสองช่วงย่อย ยุคชุนชิว (Spring and Autumn Period) ยุคจ้านกว๋อ (Warring States Period) เมืองลั่วหยางในยุคนี้เป็นศูนย์กลางของ ขงจื๊อ (Confucius) และนักปราชญ์สำคัญอีกมากมาย

ยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ความรุ่งเรืองสูงสุด หลังราชวงศ์ฉินล่มสลาย ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) ได้สถาปนาเมืองหลวงใหม่ที่ลั่วหยาง ในช่วง ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (Eastern Han Dynasty, ค.ศ. 25–220) ลั่วหยางในยุคนี้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญระดับโลก มีประชากรนับล้าน และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม สิ่งสำคัญคือ การนำ พุทธศาสนา เข้ามาสู่จีนจากเอเชียกลาง ผ่านเส้นทางสายไหมในยุคนี้เอง และ วัดไป๋หม่า (White Horse Temple) ซึ่งเป็นวัดพุทธแห่งแรกของจีน ถูกสร้างขึ้นในลั่วหยางราวปี ค.ศ. 68

ยุคสามก๊กและราชวงศ์จินศูนย์กลางความวุ่นวาย หลังการล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น ลั่วหยางกลายเป็นเวทีหลักในช่วง สามก๊ก (Three Kingdoms, ค.ศ. 220–280) โดยเฉพาะรัฐเว่ย (Wei Kingdom) ใช้ลั่วหยางเป็นเมืองหลวง ในยุคต่อมา ราชวงศ์จินตะวันตก (Western Jin, ค.ศ. 265–316) ตั้งลั่วหยางเป็นเมืองหลวงอีกครั้ง แต่เมืองถูกทำลายหนักจากสงครามกลางเมืองและการรุกรานของชนเผ่าทางเหนือ เช่น กองทัพห้าชนเผ่า (Five Barbarians)

ยุคราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถังการฟื้นคืนชีวิต ราชวงศ์สุย (Sui Dynasty, ค.ศ. 581–618) ได้บูรณะและใช้ลั่วหยางเป็นเมืองหลวงรอง เพื่อเสริมบทบาทในการควบคุมประเทศที่กว้างใหญ่ ลั่วหยางในยุคสุยถูกออกแบบใหม่อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผังเมืองกว้างใหญ่ ถนนตัดตรงสอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยและคติจักรวาลวิทยา ต่อมาในช่วงต้น ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty, ค.ศ. 618–907) ลั่วหยางกลายเป็นเมืองหลวงรองและเป็นเมืองการค้า ศิลปะ และวัฒนธรรมสำคัญ ควบคู่กับฉางอัน (ซีอาน)

ความเสื่อมถอยและบทบาทหลังยุคถัง หลังการล่มสลายของราชวงศ์ถัง ลั่วหยางประสบกับความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องในช่วงยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร (Five Dynasties and Ten Kingdoms, ค.ศ. 907–960) เมืองเริ่มเสื่อมบทบาทลงในยุค ราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) เนื่องจากเมืองหลวงย้ายไปทางตะวันออกที่ไคเฟิงและหางโจว

ลั่วหยางในยุคปัจจุบัน ปัจจุบันลั่วหยางเป็นเมืองระดับจังหวัดในมณฑลเหอหนาน (Henan Province) และได้รับการขนานนามว่าเป็น "หนึ่งในสี่เมืองหลวงโบราณของจีน" (ร่วมกับซีอาน, ปักกิ่ง, และหนานจิง) เมืองนี้ยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เช่น

ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes) แหล่งมรดกโลกยูเนสโก อันเต็มไปด้วยพระพุทธรูปหินแกะสลักกว่า 100,000 องค์

วัดไป๋หม่า (White Horse Temple) วัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีนแหล่งต้นกำเนิดพุทธศาสนาในจีน

เมืองโบราณลั่วหยางเก่า และสถานที่ทางวัฒนธรรมสำคัญอื่นๆ เดินเล่นชมบรรยากาศยามเย็นที่ โบราณสถานเมืองลั่วหยางเก่า (Old Luoyang Town)

ลั่วหยาง คือ หนึ่งในหัวใจแห่งอารยธรรมจีนที่แท้จริง เป็นเวทีแห่งการก่อร่างสร้างรัฐ การเผยแผ่วัฒนธรรม และการหล่อหลอมจิตวิญญาณของประชาชาติจีนมายาวนานนับพันปี การมาเยือนลั่วหยางจึงเปรียบเสมือนการ เดินทางย้อนเวลากลับสู่รากเหง้าแห่งโลกตะวันออก ที่ยังคงมีชีวิตชีวาในปัจจุบัน

เตรียมกล้อง เตรียมใจ แล้วออกเดินทางตามรอยเส้นทางอารยธรรมที่งดงามไร้กาลเวลาเถอะ !

.

-------------------------

ที่มา

รวบรวมข้อมูลและรูป

www.iok2u.com

-------------------------

ดูเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่

เที่ยวจีน (Travel China)

เที่ยวรอบโลก (World Travel)

-------------------------

 

 

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward