2016 อาเออร์ซาน อุทยานธรณีโลก (Arxan UNESCO Global Geopark)

ที่ตั้ง
อุทยานธรณีโลกอาเออร์ซาน (Arxan UNESCO Global Geopark) มรดกธรณีภูเขาไฟแห่งมองโกเลียในสู่การท่องเที่ยวเชิงธรณีอย่างยั่งยืน
อุทยานธรณีโลกอาเออร์ซาน (Arxan UNESCO Global Geopark) ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia Autonomous Region) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรณีโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO Global Geopark) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2560 และเพิ่งผ่านการประเมินสถานะเพื่อรับรองซ้ำ (revalidation process) ในเดือนพฤษภาคม 2568 ทำให้สถานะอุทยานธรณีโลกยังคงอยู่จนถึงปี 2571 (อ้างอิง: globalgeopark.org, unesco.org) อุทยานธรณีแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากความหนาแน่นของธรณีสัณฐานภูเขาไฟ (volcanic landforms) ที่หลากหลาย ทะเลสาบและน้ำพุธรรมชาติ (natural springs) จำนวนมาก รวมถึงลักษณะทางธรณีวิทยาที่โดดเด่น เช่น ลาวาหลังเต่า (turtleback lava) (อ้างอิง: aesly.com, xinhuanet.com, chinadaily.com.cn) การเดินทางสู่ดินแดนแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการเปิดหน้าต่างบานใหญ่สู่โลกธรณีวิทยาอันน่าทึ่ง ซึ่งเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์โลก (Earth Science education) และส่งเสริมการอนุรักษ์ธรณี (geoconservation) อย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงธรณี (Geo-tourism) ในอุทยานแห่งนี้ไม่เพียงนำเสนอทัศนียภาพอันงดงาม แต่ยังกระตุ้นให้ผู้มาเยือนเข้าใจถึงกระบวนการทางธรณีวิทยาที่หล่อหลอมโลกของเรา และตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องมรดกทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์นี้
บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา (Geographical & Geological Context)
ภูมิประเทศ (Topography)
อุทยานธรณีโลกอาเออร์ซานตั้งอยู่ในเขตซิงอัน (Xing'an League) ของมองโกเลียใน สาธารณรัฐประชาชนจีน ภูมิประเทศส่วนใหญ่โดดเด่นด้วยธรณีสัณฐานภูเขาไฟ (volcanic landforms) ที่ซับซ้อน มีลักษณะเป็นภูเขาไฟรูปกรวย (cinder cones), ที่ราบสูงลาวา (lava plateaus) และหุบเหวที่เกิดจากการไหลของลาวา (lava flow valleys) นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (crater lakes) และน้ำพุธรรมชาติ (natural springs) กระจายตัวอยู่ทั่วไป ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่มีความหลากหลายและมีเอกลักษณ์
ธรณีวิทยาและกระบวนการก่อตัว (Geology and Formation Process)
ธรณีวิทยาของอุทยานธรณีอาเออร์ซานส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินภูเขาไฟ (volcanic rocks) ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต (ancient volcanic eruptions) พื้นที่นี้เป็นแหล่งรวมธรณีสัณฐานภูเขาไฟที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมของภูเขาไฟที่ยาวนานและซับซ้อนในภูมิภาคนี้ กระบวนการก่อตัวของอุทยานธรณีแห่งนี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (plate tectonics) และกิจกรรมของภูเขาไฟที่เกิดขึ้นหลายยุคสมัย การปะทุของภูเขาไฟในอดีตได้พ่นลาวา (lava) และเถ้าภูเขาไฟ (volcanic ash) ออกมาสะสมทับถมกัน ก่อให้เกิดโครงสร้างภูเขาไฟและที่ราบสูงลาวาที่เห็นในปัจจุบัน
หนึ่งในลักษณะเด่นคือการก่อตัวของ ลาวาหลังเต่า (turtleback lava) ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของหินภูเขาไฟที่เกิดจากการแข็งตัวของลาวาที่มีความหนืดสูง (viscous lava) เมื่อลาวาไหลช้าๆ และสัมผัสกับอากาศเย็นภายนอก พื้นผิวของลาวาจะแข็งตัวเป็นเปลือกหนาและแตกร้าวเป็นชิ้นส่วนคล้ายกระดองเต่า ส่วนลาวาที่อยู่ด้านล่างยังคงเคลื่อนที่ดันเปลือกแข็งขึ้นมา ทำให้เกิดรอยแตกและลักษณะโค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ (อ้างอิง: aesly.com, xinhuanet.com) นอกจากนี้ การยุบตัวของปากปล่องภูเขาไฟ (caldera collapse) หลังจากการปะทุครั้งใหญ่ได้ก่อให้เกิดแอ่งขนาดใหญ่ที่ภายหลังสะสมน้ำกลายเป็น ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (volcanic crater lakes) และความร้อนใต้พิภพ (geothermal heat) ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของภูเขาไฟยังเป็นแหล่งกำเนิดของ น้ำพุร้อนธรรมชาติ (natural hot springs) ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ (mineral-rich hot springs) อีกด้วย (ไม่มีข้อมูลยืนยันเฉพาะในรายงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการเกิดน้ำพุร้อน แต่เป็นความรู้ทางธรณีวิทยาที่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟ)
ธรณีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ (Key Geosites)
เนื่องจากรายงานวิจัยไม่ได้ระบุชื่อธรณีแหล่งท่องเที่ยวที่เฉพาะเจาะจง จึงขออธิบายโดยใช้ชื่อที่อ้างอิงจากลักษณะธรณีวิทยาที่โดดเด่นซึ่งกล่าวถึงในรายงาน ดังนี้:
1. ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (Volcanic Crater Lakes)
อุทยานธรณีอาเออร์ซานมีชื่อเสียงจากความหนาแน่นของทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของภูมิประเทศภูเขาไฟ ทะเลสาบเหล่านี้ก่อตัวขึ้นในแอ่งปากปล่องภูเขาไฟ (volcanic craters) หรือแอ่งยุบตัวขนาดใหญ่ (calderas) ที่เกิดขึ้นหลังจากการปะทุของภูเขาไฟ เมื่อเวลาผ่านไป น้ำฝนและน้ำใต้ดิน (groundwater) ได้สะสมตัวอยู่ในแอ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นทะเลสาบที่มีรูปทรงกลมหรือวงรีอย่างชัดเจน บางแห่งมีขนาดใหญ่และลึก แสดงถึงพลังทำลายล้างและการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ ทะเลสาบเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาในการศึกษาประวัติศาสตร์การปะทุของภูเขาไฟในภูมิภาค แต่ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและศึกษาพืชพรรณและสัตว์ป่าที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมเฉพาะนี้
2. ธารลาวาหลังเต่า (Turtleback Lava Flows)
หนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาชมได้ยากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอุทยานธรณีแห่งนี้คือ ลาวาหลังเต่า (turtleback lava) เป็นลักษณะของลาวาที่แข็งตัวแล้วมีรูปร่างคล้ายกระดองเต่า ซึ่งเกิดจากกระบวนการที่ซับซ้อนของการไหลของลาวาที่มีความหนืดสูง (viscous lava) ใต้พื้นผิวที่แข็งตัวแล้ว เมื่อลาวาเหลวที่อยู่ด้านล่างยังคงไหลและดันเปลือกแข็งด้านบนขึ้นมา ทำให้เปลือกหินภูเขาไฟด้านบนเกิดการแตกร้าวและโค้งงอคล้ายผิวหนังเต่า การก่อตัวของลาวาหลังเต่านี้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงลักษณะเฉพาะของการปะทุและคุณสมบัติของลาวาในอดีต (อ้างอิง: aesly.com, xinhuanet.com)
3. น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Natural Hot Springs)
อุทยานธรณีอาเออร์ซานยังขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของ น้ำพุธรรมชาติ (natural springs) โดยเฉพาะน้ำพุร้อน (hot springs) ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟใต้พื้นผิว (subsurface volcanic activity) น้ำใต้ดินที่ไหลผ่านรอยแตกของหิน (rock fractures) จะถูกทำให้ร้อนขึ้นโดยความร้อนใต้พิภพ (geothermal heat) และผุดขึ้นสู่ผิวดินในรูปของน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิและองค์ประกอบทางเคมีของแร่ธาตุ (mineral content) ที่แตกต่างกัน น้ำพุร้อนเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (wellness tourism) ที่สำคัญ แต่ยังเป็นหน้าต่างสู่กระบวนการธรณีวิทยาที่ยังคงดำเนินอยู่ใต้พื้นผิวโลก (ไม่มีข้อมูลยืนยันเฉพาะในรายงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการเกิดน้ำพุร้อน แต่เป็นความรู้ทางธรณีวิทยาที่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟ)
ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)
ความสัมพันธ์ระหว่าง หิน-ดิน-น้ำ-ป่า-มนุษย์ (Rock-Soil-Water-Forest-Human Relationship)
ธรณีวิทยาภูเขาไฟของอาเออร์ซานมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อระบบนิเวศ (ecosystem) และวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้:
-
หิน (Rock): หินภูเขาไฟหลากหลายชนิดเป็นรากฐานของภูมิประเทศและกำหนดลักษณะของดิน
-
ดิน (Soil): ดินที่เกิดจากการสลายตัวของหินภูเขาไฟ (volcanic soil) มักจะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ (mineral-rich) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชพรรณท้องถิ่น (ไม่มีข้อมูลยืนยันที่เฉพาะเจาะจงในรายงาน)
-
น้ำ (Water): ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟและน้ำพุธรรมชาติเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์ น้ำพุร้อนยังมีคุณสมบัติทางแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (ไม่มีข้อมูลยืนยันที่เฉพาะเจาะจงในรายงาน)
-
ป่า (Forest): ภูมิประเทศภูเขาไฟและสภาพอากาศในมองโกเลียในเอื้อต่อการเกิดป่าไม้บางประเภท เช่น ป่าสน (coniferous forests) หรือป่าเบญจพรรณ (mixed forests) ที่ปรับตัวได้ดีกับสภาพดินภูเขาไฟและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง (ไม่มีข้อมูลยืนยันที่เฉพาะเจาะจงในรายงาน)
-
มนุษย์ (Human): ผู้คนในท้องถิ่น โดยเฉพาะชาวมองโกล ได้พัฒนาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ผูกพันกับสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยา การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แหล่งน้ำพุร้อน หรือพื้นที่ป่าไม้ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ (ไม่มีข้อมูลยืนยันที่เฉพาะเจาะจงในรายงาน) การอนุรักษ์ธรณีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องทั้งภูมิทัศน์ทางธรรมชาติและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น
อุทยานธรณีโลกอาเออร์ซานเป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่นำเสนอเรื่องราวอันน่าทึ่งของการเปลี่ยนแปลงของโลกผ่านธรณีสัณฐานภูเขาไฟ ทะเลสาบ และน้ำพุธรรมชาติ การได้สัมผัสกับลาวาหลังเต่าอันเป็นเอกลักษณ์ และเรียนรู้ถึงกระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ ไม่เพียงเติมเต็มประสบการณ์การเดินทาง แต่ยังปลูกฝังความตระหนักในการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติอันล้ำค่านี้ การท่องเที่ยวเชิงธรณีอย่างรับผิดชอบในอาเออร์ซานจึงเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์โลก และการปกป้องโลกของเราให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นหลัง
เอกสารอ้างอิง (References)
.
------------------------
ที่มา
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
------------------------
เที่ยวอุทยานธรณีโลก (Global Geoparks)
------------------------
