วัดอัมพวัน สิงห์บุรี

Google Map https://maps.app.goo.gl/pgRaPqw9aMSDR6ZS7
วัดอัมพวัน: อรุณรุ่งแห่งธรรม สู่การเดินทางภายในใจ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ริมเจ้าพระยา ที่พักใจของผู้แสวงหา ความสงบที่ถักทอด้วยศรัทธาและกาลเวลา
ในมิติแห่งศรัทธาอันล้ำลึกและธรรมชาติอันสงบงาม ณ ดินแดนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ไหลรินผ่านกาลเวลา จังหวัดสิงห์บุรี มีอัญมณีทางจิตวิญญาณแห่งหนึ่งที่เปล่งประกายเจิดจรัส นั่นคือ "วัดอัมพวัน" วัดที่มิได้เป็นเพียงศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นประดุจขุมทรัพย์แห่งปัญญา เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้ที่ปรารถนาความสงบภายใน เป็นสถานที่ซึ่งการเดินทางสู่โลกภายในเริ่มต้นขึ้น และเป็นมรดกธรรมอันยิ่งใหญ่ที่พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม อดีตเจ้าอาวาสผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและวิสัยทัศน์ ได้บุกเบิกและสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง วัดอัมพวันแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงเชื้อเชิญให้เราได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามและความร่มรื่นของแมกไม้นานาพรรณ แต่ยังเปิดประตูสู่การเรียนรู้และปฏิบัติธรรมในแนวทางของสติปัฏฐาน 4 ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น เงียบสงบ และรายล้อมด้วยกลิ่นอายแห่งธรรมะ วัดอัมพวันจึงเป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว เป็นการเดินทางอันลึกซึ้งที่จะเติมเต็มจิตใจและนำพาทุกท่านไปสู่ความตระหนักรู้ในตนเองอย่างแท้จริง เป็นเสมือนโอเอซิสแห่งความสงบที่รอคอยการมาเยือนของทุกดวงจิตที่แสวงหาหนทางแห่งความพ้นทุกข์และความสุขที่ยั่งยืน การเดินทางมายังวัดอัมพวันจึงไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนผ่านจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง แต่คือการก้าวเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการสำรวจจิตวิญญาณ การเชื่อมโยงตนเองกับความจริงอันประเสริฐ และการค้นพบคุณค่าอันแท้จริงของชีวิตในท่ามกลางความสงบเงียบอันศักดิ์สิทธิ์ริมสายน้ำเจ้าพระยา
จินตนาการถึงยามรุ่งอรุณที่แสงแรกของวันทอประกายเหนือผิวน้ำเจ้าพระยา สาดส่องต้องยอดเจดีย์และอุโบสถเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่าน เสียงระฆังวัดกังวานแผ่วเบา สลับกับเสียงสวดมนต์และบทเจริญภาวนาที่ดังมาจากสำนักปฏิบัติธรรม บรรยากาศเช่นนี้คือสิ่งที่ผู้มาเยือนวัดอัมพวันจะได้สัมผัสอย่างไม่ผิดเพี้ยน เป็นความสงบที่สัมผัสได้ด้วยทุกอณูของร่างกายและจิตใจ วัดอัมพวันไม่ได้เป็นเพียงศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนในปัจจุบัน แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมโยงเราไปสู่อดีตกาลอันรุ่งเรือง ที่ซึ่งภูมิปัญญาและศรัทธาได้ถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ก่อเกิดเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ยังคงส่งผลต่อจิตวิญญาณของผู้คนในยุคสมัยนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความสำคัญของวัดแห่งนี้จึงไม่ได้อยู่ที่อาคารสิ่งปลูกสร้างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระแสธารแห่งธรรมะที่ไหลเวียนอยู่ภายใน เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนให้ผู้คนใฝ่หาความดีงาม และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้เข้าถึงความสงบที่แท้จริง
รายละเอียดสถานที่ตั้ง
วัดอัมพวัน ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ณ เลขที่ 53 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี 16160 ด้วยทำเลที่ตั้งอันโดดเด่นริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้วัดแห่งนี้โอบล้อมด้วยบรรยากาศที่บริสุทธิ์ สงบ และร่มรื่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจจากความวุ่นวายภายนอก การได้นั่งมองสายน้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอื่อย ๆ ในช่วงเช้าตรู่ที่หมอกจาง ๆ ลอยอ้อยอิ่ง หรือยามเย็นที่แสงตะวันลับขอบฟ้าทอประกายสีทองอร่ามลงบนผิวน้ำ ถือเป็นประสบการณ์ที่ช่วยชำระล้างจิตใจได้อย่างน่าอัศจรรย์และสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน อากาศที่บริสุทธิ์และเสียงธรรมชาติที่แผ่วเบาจากแม่น้ำและแมกไม้รอบวัด ช่วยเสริมสร้างให้การปฏิบัติธรรมและการพักผ่อนหย่อนใจเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าท่านจะเดินทางมาจากทิศทางใด การมาถึงวัดอัมพวันจะนำพาความรู้สึกสงบและความเป็นส่วนตัวที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน
วัดอัมพวัน เปิดทำการต้อนรับสาธุชนและผู้แสวงบุญทุกท่าน โดยมีเวลาทำการโดยทั่วไปสำหรับเข้าชมพื้นที่ภายในวัดและทำบุญตามปกติ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 16.30 น. ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท่านสามารถเดินชมความงดงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด เยี่ยมชมบริเวณต่าง ๆ และทำกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเข้ากราบสักการะสรีระสังขารของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม อันเป็นที่เคารพยิ่ง วัดได้อำนวยความสะดวกโดยเปิดให้เข้ากราบได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. จนถึง 21.00 น. ของทุกวัน ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มาเยือนและซึมซับพระธรรมคำสอน แม้ในยามค่ำคืนอันเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้น การได้มาปฏิบัติธรรมในช่วงเย็นหรือค่ำคืน จะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ด้วยความเงียบสงบที่ล้อมรอบ มีเพียงแสงจันทร์และแสงไฟอ่อน ๆ ส่องนำทาง ยิ่งส่งเสริมให้การเจริญสติภาวนามีความลึกซึ้งและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
ภายในวัดอัมพวันยังมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญอันเป็นที่ระลึกถึงและเชิดชูเกียรติของหลวงพ่อจรัญ นั่นคือ "พระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์" ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานอันวิจิตรตระการตาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชน พระเจดีย์แห่งนี้ไม่เพียงเป็นที่ประดิษฐานพระสรีระสังขารของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม อันเป็นที่เคารพสักการะยิ่ง ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเข้ามากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ยังเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในพระพุทธศาสนา การได้มาเยือนพระเจดีย์แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการได้เข้าใกล้พระรัตนตรัยอันบริสุทธิ์ และได้น้อมรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อจรัญที่ได้ฝากไว้แก่โลก เป็นเครื่องเตือนใจให้เราดำรงตนอยู่ในความดีงาม และเจริญรอยตามคำสอนของพระพุทธองค์และครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรม
ปัจจุบัน วัดอัมพวันได้รับการดูแลและบริหารจัดการโดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูปลัดสิทธิวรวัฒน์ (กุญช์วิสิฏฐ์ ยโสธโร) ผู้ซึ่งสานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อจรัญ ในการธำรงไว้ซึ่งความเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และปฏิบัติธรรมให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนาตลอดไป ด้วยการบริหารจัดการที่ดี การจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ และการดูแลรักษาสิ่งปลูกสร้างภายในวัดให้คงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้วัดอัมพวันยังคงเป็นที่พึ่งทางใจและเป็นแหล่งศึกษาธรรมะที่สำคัญของประเทศ
คำแนะนำในการเตรียมตัว
การเดินทางสู่ดินแดนแห่งธรรมะอย่างวัดอัมพวัน ไม่ได้เป็นเพียงการมาเยือนสถานที่แห่งหนึ่ง แต่เป็นการเตรียมพร้อมทั้งกายและใจเพื่อเปิดรับประสบการณ์อันล้ำค่าที่รออยู่เบื้องหน้า เพื่อให้การเดินทางของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น เปี่ยมด้วยความสงบ และได้รับอานิสงส์อย่างเต็มเปี่ยม ควรพิจารณาคำแนะนำอย่างละเอียดดังต่อไปนี้:
การแต่งกายที่สุภาพและเหมาะสม: ด้วยความเป็นพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรม การแต่งกายที่สุภาพจึงเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่ พระรัตนตรัย และผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น ๆ ควรเลือกเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแขนยาว หรือเสื้อที่มีแขนคลุมไหล่ กางเกงขายาว หรือกระโปรงยาวคลุมเข่าและเลยข้อเท้าลงไป หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดรูป เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้นที่เปิดเผยจนเกินไป สีที่สุภาพอย่างสีขาว สีโทนอ่อน หรือสีเอิร์ธโทน เป็นที่นิยมและเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการเข้าวัด เนื่องจากช่วยเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสงบและสำรวม สวมรองเท้าที่สามารถถอดและสวมได้ง่าย เพราะอาจจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าบางอาคาร เช่น อุโบสถ หรือวิหาร
การเตรียมใจให้พร้อมรับความสงบ: วัดอัมพวันเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่เน้นการเจริญสติ การมาเยือนด้วยจิตใจที่สงบ เปิดกว้าง และพร้อมที่จะเรียนรู้ ย่อมจะได้รับประโยชน์สูงสุด ควรลดความกังวลและความคิดฟุ้งซ่านจากโลกภายนอกลงชั่วคราว และเปิดพื้นที่ให้กับความสงบภายใน การมาเยือนด้วยจิตใจที่ผ่องใส ปรารถนาที่จะศึกษาธรรมะและแสวงหาความสงบ จะช่วยให้ท่านเข้าถึงแก่นแท้ของวัดแห่งนี้ได้อย่างลึกซึ้ง พยายามฝึกฝนการมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ตั้งแต่การก้าวเดิน การมองเห็น การได้ยิน เพื่อให้ทุกย่างก้าวและการกระทำเป็นการปฏิบัติธรรม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม: หากท่านต้องการสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบอย่างแท้จริง การมาเยือนในช่วงเช้าตรู่ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามา หรือช่วงบ่ายแก่ ๆ ใกล้เวลาวัดปิด ที่มีผู้คนไม่พลุกพล่านนัก จะช่วยให้ท่านได้ซึมซับความสงบและพลังแห่งธรรมะได้อย่างเต็มที่ ท่านอาจได้ยินเสียงนก เสียงลมพัด และสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์อย่างเต็มปอด ซึ่งเอื้อต่อการทำสมาธิและการเจริญสติ อย่างไรก็ตาม วัดเปิดให้เข้ากราบสักการะสรีระสังขารหลวงพ่อจรัญได้จนถึง 21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาทำความเคารพในยามค่ำคืนที่สงบเงียบ แสงไฟที่ส่องสว่างองค์พระเจดีย์ในยามค่ำคืนก็สร้างความงดงามและขรึมขลังที่แตกต่างออกไป
วัดอัมพวัน มิได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางทางศาสนา หากแต่เป็นการเดินทางอันแสนมหัศจรรย์สู่จิตใจ เป็นสถานที่ที่ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ธรรมานุภาพอันยิ่งใหญ่ และความสงบงามแห่งธรรมชาติ ได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ จากอดีตกาลอันรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่ามากมายเป็นพยาน สู่ปัจจุบันที่ยังคงเป็นศูนย์กลางแห่งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวทางของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ผู้เป็นดวงประทีปแห่งปัญญาที่ส่องนำทางให้แก่ผู้คนนับไม่ถ้วน วัดแห่งนี้ยืนหยัดเป็นพยานของศรัทธาที่ไม่เคยจางหาย เป็นที่พึ่งทางใจและเป็นแหล่งพลังงานทางจิตวิญญาณให้แก่ผู้คนนับล้านที่แสวงหาความสงบและความจริงของชีวิต
การได้มาเยือนวัดอัมพวัน คือการได้ก้าวเข้าสู่มิติแห่งความสงบอย่างแท้จริง การได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันขณะ ผ่านการเจริญสติที่หลวงพ่อจรัญได้วางรากฐานไว้ และการได้สัมผัสถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในตนเองอันน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้แสวงบุญ ผู้ปฏิบัติธรรม หรือเพียงผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายเพื่อมาพักผ่อนจิตใจในบรรยากาศที่ร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ วัดอัมพวันแห่งนี้พร้อมต้อนรับทุกท่านด้วยอ้อมกอดแห่งธรรมะและบรรยากาศอันสงบเงียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งช่วยปลอบประโลมจิตใจและเติมพลังชีวิตให้กลับคืนมาอีกครั้ง
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ความงดงามทางศิลปะและสถาปัตยกรรม และมรดกธรรมอันล้ำค่าที่ยังคงส่งต่อและเบ่งบานอยู่ในปัจจุบัน วัดอัมพวันจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือนและสัมผัสด้วยตนเองสักครั้งในชีวิต เพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางภายในใจที่เปี่ยมล้นด้วยความอัศจรรย์ แรงบันดาลใจ และความเข้าใจในชีวิตอย่างลึกซึ้ง พลังแห่งความดีงามและความสงบสุขที่แผ่ซ่านอยู่ในทุกอณูของวัดอัมพวัน จะเป็นเสมือนแสงนำทางให้ทุกท่านได้พบกับความสุขที่ยั่งยืน และความสงบที่แท้จริงในจิตใจ การเดินทางครั้งนี้จะมิใช่แค่การเยี่ยมชมสถานที่ แต่เป็นการเดินทางที่ประทับอยู่ในความทรงจำและเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านไปตลอดกาล
.
------------------------
ที่มาข้อมูล
-
รวบรวมรูปภาพ
------------------------
เที่ยวสิงห์บุรี (Travel Sing Buri)
------------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
20251013 วัดอัมพวา พรหมบุรี สิงห์บุรี
https://photos.app.goo.gl/ixeaZrt4wWPZxUMS6
------------------------





