เที่ยวนนทบุรี ปากเกร็ด วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/qt2jvNCaon7PaV6M6
ผจญภัยในแดนธรรม: เปิดประตูสู่ปัญญา ณ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง นนทบุรี อัญมณีแห่งความสงบที่รอการค้นพบ
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ที่สุดแห่งการค้นพบปัญญา สงบกลางใจเมือง สัมผัสธรรมะล้ำค่า นำพาสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ หากหัวใจของคุณกำลังโหยหาการเดินทางอันล้ำลึก เพื่อแสวงหาสันติสุขภายในและปัญญาที่แท้จริง ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกยุคปัจจุบัน การผจญภัยสู่ "วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง" แห่งนนทบุรี คือคำตอบที่คุณตามหา วัดแห่งนี้ไม่ใช่เพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทั่วไป แต่ยังเป็นดุจโอเอซิสแห่งความสงบทางจิตวิญญาณ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พระธรรมที่ทันสมัย และเป็นประภาคารส่องทางให้ผู้คนได้สัมผัสแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา
เมื่อเท้าก้าวเข้าสู่บริเวณวัด คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไป ความสงบร่มรื่นจากแมกไม้เขียวขจีที่โอบล้อม ช่วยชะล้างความเหนื่อยล้าจากภายนอกออกไป ปล่อยให้จิตใจได้พักผ่อนและเปิดรับพลังแห่งความเมตตาและปัญญาที่แผ่ซ่านอยู่ทั่วทุกอณูของสถานที่แห่งนี้ วัดชลประทานรังสฤษดิ์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ที่โดดเด่นด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการประยุกต์หลักธรรมให้เข้ากับยุคสมัย โดยไม่ทิ้งซึ่งแก่นแท้อันบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา พร้อมเป็นแหล่งพึ่งพิงทางใจ เป็นสถานบ่มเพาะปัญญา และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณสำหรับพุทธศาสนิกชนและนักเดินทางผู้แสวงหาความจริงทุกคน ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางภายในที่จะนำพาคุณไปสู่การค้นพบตัวเองและความหมายของชีวิตในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
รายละเอียดที่ตั้ง
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง ตั้งอยู่ท่ามกลางทำเลที่สะดวกสบายและเข้าถึงง่ายในจังหวัดนนทบุรี ณ เลขที่ 78/8 หมู่ 1 ถนนติวานนท์ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 11120 ประเทศไทย ตำแหน่งที่ตั้งของวัดนั้นโดดเด่นอยู่ริมถนนติวานนท์ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดนนทบุรีและอำเภอปากเกร็ด ทำให้การเดินทางมายังวัดเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าคุณจะมาจากส่วนใดของกรุงเทพมหานครหรือพื้นที่ใกล้เคียงก็ตาม
ความสะดวกสบายในการเดินทางทำให้วัดแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงเพียงชั่วครู่ เพื่อมาสัมผัสความสงบและเรียนรู้พระธรรมอันล้ำค่า วัดตั้งอยู่ในบริเวณที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ทำให้การค้นหาเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับผู้มาเยือนครั้งแรก ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งรายล้อมไปด้วยความเจริญของชุมชนเมือง แต่ยังคงรักษาบรรยากาศอันร่มรื่นและสงบเงียบไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้วัดชลประทานรังสฤษดิ์เป็นเสมือนโอเอซิสแห่งจิตวิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองนนทบุรี ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกท่านที่ปรารถนาจะเข้ามาแสวงหาความสุขและความสงบภายใน
ประวัติและความสำคัญ
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการพุทธศาสนาไทย ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2502 โดย หม่อมหลวงชูชาติ กำภู อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการมีศาสนสถานเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน การก่อสร้างวัดแห่งนี้มีขึ้นเพื่อทดแทนวัดเชิงท่าและวัดหน้าโบสถ์ ซึ่งที่ดินถูกเวนคืนเพื่อใช้ในการสร้างท่าเรือของกรมชลประทาน การถือกำเนิดของวัดชลประทานรังสฤษดิ์จึงเป็นผลผลิตจากการจัดสรรพื้นที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ พร้อมกับการธำรงไว้ซึ่งแก่นแท้ทางศาสนาและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
จุดเปลี่ยนสำคัญและบทบาทอันโดดเด่นของวัดแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ได้รับอาราธนาให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกในปีพุทธศักราช 2503 พระเดชพระคุณปัญญานันทภิกขุเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะพระนักปฏิรูปผู้กล้าหาญและนักเทศน์ผู้ทรงภูมิปัญญา ท่านได้ริเริ่มแนวทางการเผยแผ่พระธรรมในรูปแบบที่แปลกใหม่และทันสมัย ซึ่งแตกต่างจากการเทศนาแบบดั้งเดิมที่พระสงฆ์นั่งเทศน์บนธรรมาสน์โดยมีคัมภีร์ใบลานประกอบ ท่านได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการยืนเทศน์หน้ามหาชน โดยใช้ภาษาง่ายๆ เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ร่วมสมัยที่เข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้หลักธรรมอันลึกซึ้งกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น วิธีการเทศนาที่เปี่ยมด้วยพลังและสร้างแรงบันดาลใจนี้ ได้กลายเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นของวัดชลประทานรังสฤษดิ์ โดยมีการจัดเทศนาธรรมทุกวันอาทิตย์ ซึ่งดึงดูดพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจจำนวนมากให้หลั่งไหลเข้ามาศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์วิถีชีวิตชาวพุทธยุคใหม่ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สงบร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งความรู้และปัญญา เป็นแหล่งเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาที่มุ่งเน้นการปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนา จากความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ไปสู่การยึดมั่นในหลักการทางพุทธธรรม จากการมุ่งเน้นเชิงพาณิชย์ไปสู่การใช้ชีวิตตามวิถีพุทธที่แท้จริง ซึ่งเน้นความเรียบง่าย ประหยัด และมีเหตุผล วัดแห่งนี้จึงเป็นเสมือนศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ช่วยให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าใจหลักธรรมอย่างลึกซึ้งและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ วัดยังได้ก่อตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้นในปีพุทธศักราช 2512 เพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะเยาวชนให้เรียนรู้และซึมซับหลักธรรมตั้งแต่เยาว์วัย และยังคงมุ่งมั่นในการจัดการเรียนการสอนพระธรรมและบาลีศึกษาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของวัดในฐานะสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนาที่มุ่งสร้างเสริมปัญญาและคุณธรรมให้แก่สังคมไทยอย่างยั่งยืน วัดชลประทานรังสฤษดิ์จึงมิได้เป็นเพียงศาสนสถาน แต่เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ การปฏิบัติ และการปฏิรูปทางพระพุทธศาสนา ที่ยังคงแผ่ขยายอิทธิพลแห่งความดีงามและความสงบสุขไปสู่จิตใจของผู้คนอย่างไม่หยุดยั้ง
คำแนะนำสำหรับการเตรียมตัว
การเดินทางสู่ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับความสงบร่มรื่นและซึมซับพระธรรมอันล้ำค่า เพื่อให้การมาเยือนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยคุณค่าสูงสุด ควรมีการเตรียมตัวล่วงหน้าดังนี้:
1. การเดินทางมายังวัด: วัดชลประทานรังสฤษดิ์ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะสมกับความสะดวกของคุณ:
- รถประจำทาง: มีรถประจำทางหลายสายที่ผ่านบริเวณใกล้เคียงวัด อาทิ สาย 2-16 (104), 2-24E (505 ทางด่วน), 2-5 (32), 505 (ปอ.) (ปรับอากาศ), และ T.113 คุณสามารถลงที่ป้าย "วัดชลประทานรังสฤษดิ์" ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 3 นาทีถึงวัด
- รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู: หากคุณเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถลงที่สถานี "Mrt กรมชลประทาน" ซึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 6 นาทีโดยการเดินเท้า เป็นอีกทางเลือกที่รวดเร็วและสะดวกสบาย
- เรือด่วนเจ้าพระยา: สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางทางน้ำ สามารถใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเขียวและธงเหลือง) โดยลงที่ "ท่าเรือวัดกลางเกร็ด" จากนั้นใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 27 นาที หรือต่อรถสาธารณะระยะสั้นเพื่อมายังวัด จุดจอดรถสาธารณะที่ใกล้ที่สุดคือ "วัดชลประทานรังสฤษดิ์" (เดิน 3 นาที) และ "Mrt กรมชลประทาน" (เดิน 6 นาที)
2. เวลาทำการ: วัดเปิดให้เข้าชมและปฏิบัติธรรมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 16:30 น. การมาเยือนในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงบ่ายแก่ๆ อาจช่วยให้คุณสัมผัสบรรยากาศอันสงบเงียบได้อย่างเต็มที่ และหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีผู้คนหนาแน่น
3. บรรยากาศและการเตรียมใจ: วัดแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางและร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำสมาธิและการฟื้นฟูจิตใจ การเดินเล่นในบริเวณวัดภายใต้ร่มเงาไม้ จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลาในการใคร่ครวญและทำสมาธิได้อย่างแท้จริง เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการมาสัมผัสความสงบภายในและเปิดรับธรรมะอันล้ำค่าที่รอการค้นพบ
4. กิจกรรมพิเศษ:
- ลานไผ่อันเป็นเอกลักษณ์: วัดมีลานไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาและฟังเทศนาธรรมจากเจ้าอาวาสทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากคุณต้องการเข้าร่วมกิจกรรมทางธรรมที่สำคัญและฟังโอวาทธรรมอันทรงคุณค่าจากพระวิปัสสนาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ควรวางแผนการเดินทางให้ตรงกับวันดังกล่าว
- พิธีศพอย่างเรียบง่าย: วัดชลประทานรังสฤษดิ์เน้นการจัดพิธีศพอย่างเรียบง่าย โดยให้ความสำคัญกับการบรรยายธรรมะมากกว่าการจัดเลี้ยงรื่นเริง ความบันเทิง หรือการประดับประดาด้วยพวงหรีดจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการปฏิรูปพิธีกรรมให้กลับสู่แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ผู้มาเยือนอาจได้เรียนรู้ถึงแนวคิดนี้ผ่านการสังเกตการณ์หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง (หากมีการจัดขึ้น)
5. สุขอนามัยและความปลอดภัย: ทางวัดให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้มาเยือน โดยมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงการทำความสะอาดพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ การจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่างทางสังคม ผู้มาเยือนควรให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยของตนเองและส่วนรวม
6. ระยะเวลาที่แนะนำในการเยี่ยมชม: เพื่อซึมซับบรรยากาศและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ภายในวัดได้อย่างเต็มที่ ขอแนะนำให้จัดสรรเวลาสำหรับการมาเยือนประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระยะเวลานี้จะเพียงพอสำหรับการเดินชมบริเวณวัด นั่งสมาธิ หรือฟังธรรม (หากมาตรงกับวันที่มีการเทศนา) และสัมผัสความสงบที่วัดนำเสนอ
7. การแต่งกายและพฤติกรรม: เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย มิดชิด หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่เปิดเผยมากเกินไป และควรรักษามารยาทอันดีงาม งดใช้เสียงดัง หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่และผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่นๆ การเปิดใจให้พร้อมรับฟังและเรียนรู้ จะช่วยให้การมาเยือนวัดชลประทานรังสฤษดิ์เป็นการเดินทางที่เปี่ยมด้วยความหมายและน่าประทับใจไม่รู้ลืม
บทสรุป
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง นนทบุรี ไม่ได้เป็นเพียงหมุดหมายแห่งศรัทธา แต่คือการเดินทางอันน่าอัศจรรย์สู่ใจกลางแห่งปัญญาและสันติสุข เป็นสถานที่ที่พระพุทธศาสนาถูกนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย แต่ยังคงเปี่ยมด้วยแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่คืออัญมณีล้ำค่าแห่งนนทบุรี ที่ยังคงส่องประกายธรรมนำทางชีวิตผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ และค้นพบความสุขที่แท้จริง
จากประวัติศาสตร์ที่ก่อกำเนิดขึ้นด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล สู่บทบาทของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ผู้ปฏิวัติการเผยแผ่พระธรรม ทำให้วัดแห่งนี้เป็นมากกว่าศาสนสถาน แต่เป็นโรงเรียนชีวิตที่สอนให้เราเข้าใจโลกและตัวเองมากขึ้น ด้วยบรรยากาศที่สงบร่มรื่นไปด้วยแมกไม้เขียวขจี ลานไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่รอคอยการมาเยือน และการเน้นย้ำถึงการปฏิบัติธรรมที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง วัดชลประทานรังสฤษดิ์เป็นแหล่งพลังงานทางจิตวิญญาณที่พร้อมโอบอุ้มทุกคนที่แสวงหา
การเดินทางมายังวัดแห่งนี้ คือการเปิดโอกาสให้จิตใจได้พักผ่อน ได้เรียนรู้ ได้ใคร่ครวญ และได้สัมผัสกับความหมายอันลึกซึ้งของชีวิตในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ขอเชิญชวนทุกท่านได้มาเยือน มาสัมผัสประสบการณ์อันเปี่ยมด้วยคุณค่านี้ด้วยตัวคุณเอง เพื่อเติมเต็มชีวิตด้วยปัญญาและความสงบเย็น ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวงแห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยทางจิตวิญญาณที่ไม่มีวันสิ้นสุด และจะยังคงอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป.
-----------------------
ที่มาข้อมูล
-
รวบรวมรูปภาพ
-----------------------
เที่ยวนนทบุรี (Travel Nonthaburi)
-----------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
20251115 วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง นนทบุรี
https://photos.app.goo.gl/YuWEWaxSVZnDyPY1A
-----------------------








