พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (Mae Moh Mine Museum)

พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (Mae Moh Mine Museum) ไขความลับพลังงาน สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

เมื่อกล่าวถึง "เหมืองแม่เมาะ" หลายท่านอาจนึกถึงภาพบ่อเหมืองขนาดใหญ่ หรือทุ่งบัวตองสีเหลืองอร่ามในฤดูหนาว แต่หัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าใจถึงเรื่องราวอันยิ่งใหญ่เบื้องหลังแหล่งพลังงานแห่งนี้ได้อย่างลึกซึ้ง คือ "พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (Mae Moh Mine Museum)" ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งรวบรวมข้อมูล แต่เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงปฏิสัมพันธ์ที่นำเสนอเรื่องราวของถ่านหินลิกไนต์ ประวัติศาสตร์การทำเหมือง การผลิตกระแสไฟฟ้า ไปจนถึงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียนในอนาคตได้อย่างน่าสนใจและเข้าใจง่าย

พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของเหมืองแม่เมาะได้ในบางส่วน อาคารพิพิธภัณฑ์มีความทันสมัยและได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

google map https://maps.app.goo.gl/9kdpEPV6BxDuPWXv6

ไฮไลต์และโซนจัดแสดงที่ไม่ควรพลาด

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกเป็นหลายโซนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกัน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจเรื่องราวของถ่านหินและพลังงานอย่างเป็นลำดับ

โซนกำเนิดถ่านหินและธรณีวิทยา: เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเกิดถ่านหินลิกไนต์นับล้านปีใต้ผืนโลก รวมถึงลักษณะทางธรณีวิทยาของแหล่งถ่านหินแม่เมาะ มีการจัดแสดงหิน แร่ธาตุ และฟอสซิลที่ค้นพบในพื้นที่

โซนประวัติศาสตร์เหมืองแม่เมาะ: ย้อนอดีตไปกับการก่อกำเนิดและการพัฒนาของเหมืองแม่เมาะ ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบัน ผ่านภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ทำเหมืองในอดีต คุณจะได้เห็นว่าจากพื้นที่ป่าเขา ได้กลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของประเทศได้อย่างไร

โซนเทคโนโลยีการทำเหมืองและการผลิตไฟฟ้า: สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในการทำเหมือง และเรียนรู้ขั้นตอนอันซับซ้อนในการเปลี่ยนถ่านหินให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่การขุด การขนส่ง ไปจนถึงกระบวนการในโรงไฟฟ้า มีแบบจำลองและสื่อมัลติมีเดียที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น

โซนการจัดการสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟู: เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ กฟผ. ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูพื้นที่หลังการทำเหมือง มีการจัดแสดงโครงการปลูกป่า การบำบัดน้ำเสีย การจัดการกากถ่านหิน และการเปลี่ยนพื้นที่เหมืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่สีเขียว

โซนพลังงานทางเลือกและอนาคต: เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดและเทคโนโลยีของพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม รวมถึงวิสัยทัศน์ด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคต

ห้องชมวิว (บางส่วน): บริเวณชั้นบนของพิพิธภัณฑ์มีส่วนที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของบ่อเหมืองได้จากระยะไกล ช่วยให้เห็นภาพรวมของพื้นที่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ทำไมต้องมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

แหล่งเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม: เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่สนใจเรื่องพลังงาน สิ่งแวดล้อม และกระบวนการผลิตไฟฟ้า

การจัดแสดงที่ทันสมัย: ใช้เทคโนโลยีและสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งแบบจำลอง วีดิทัศน์ ภาพถ่าย และนิทรรศการแบบปฏิสัมพันธ์ ทำให้ไม่น่าเบื่อ

เข้าใจความสำคัญของถ่านหิน: ช่วยให้ผู้มาเยือนเห็นถึงบทบาทสำคัญของถ่านหินลิกไนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และความท้าทายในการจัดการสิ่งแวดล้อม

เปิดมุมมองใหม่: จากที่เคยคิดว่าเหมืองถ่านหินเป็นเพียงแหล่งอุตสาหกรรม แต่ที่นี่จะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ข้อแนะนำสำหรับผู้มาเยือน

เวลาทำการ: ควรตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดของพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้า (โดยทั่วไปจะเปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวัน)

การเดินทาง: พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ กฟผ. แม่เมาะ การเดินทางที่ดีที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว หรือรถเช่า

ใช้เวลาให้เพียงพอ: เพื่อให้ได้เรียนรู้และซึมซับข้อมูลอย่างเต็มที่ ควรเผื่อเวลาในการเยี่ยมชมอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง

พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (แม่เมาะ) จึงไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ธรรมดา แต่เป็นประตูบานสำคัญที่จะเปิดโลกทัศน์ให้คุณได้สัมผัสถึงเบื้องหลังของพลังงานที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน และตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดลำปาง

ที่มาข้อมูล

- 

.

-----------------------