วัดโพธิ์ บางคล้า ฉะเชิงเทรา

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/1rJFPkq5wrBq4WoY6
วัดโพธิ์ บางคล้า ฉะเชิงเทรา มนต์เสน่ห์แห่งอดีต...เมื่อพุทธธรรมบรรจบกับปีกแห่งราตรี! ดำดิ่งสู่ดินแดนแห่งศรัทธาที่ถักทอด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ สัมผัสเรื่องราววีรชนกษัตริย์ ใต้ร่มเงาต้นโพธิ์โบราณ และตื่นตาตื่นใจกับหมู่มวลค้างคาวแม่ไก่...ผู้พิทักษ์แห่งวัดโพธิ์บางคล้า!
ในผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ณ อำเภอบางคล้า ริมสายน้ำบางปะกงอันเงียบสงบ มีวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่...นั่นคือ "วัดโพธิ์บางคล้า" ไม่ใช่เพียงศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชนเท่านั้น แต่วัดแห่งนี้ยังเป็นดั่งประตูสู่โลกอีกใบที่ผสมผสานอารยธรรมโบราณเข้ากับความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติได้อย่างลงตัว ชวนให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันร่มรื่น เปี่ยมด้วยเรื่องราวเล่าขาน ตำนานแห่งวีรบุรุษ และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง จนกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เมื่อมีโอกาสเยือนเมืองแปดริ้ว
วัดโพธิ์บางคล้า เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ซ่อนเร้นเสน่ห์ไว้หลากหลายมิติ ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สะท้อนถึงยุคสมัยอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ตอนต้น พร้อมประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณค่ามากมาย แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจและดึงดูดสายตานักเดินทางจากทั่วสารทิศให้มาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย คือฝูง "ค้างคาวแม่ไก่" ขนาดมหึมานับแสนตัว ที่มาอาศัยเกาะห้อยหัวอยู่ตามกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ภายในบริเวณวัด สร้างภาพอันน่าอัศจรรย์ใจเสมือนเป็นผู้เฝ้ารักษาอาณาเขตแห่งศรัทธาแห่งนี้ ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายคล้ายสุนัขจิ้งจอกและปีกสีดำอันสง่างาม พวกมันจะปรากฏตัวให้เห็นอย่างชัดเจนในยามกลางวัน ก่อนจะโบยบินออกหากินในยามค่ำคืน เป็นวัฏจักรที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่าหลายศตวรรษ การมาเยือนวัดโพธิ์บางคล้าจึงไม่ใช่แค่การมาไหว้พระขอพร แต่คือการผจญภัยสู่ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ การสำรวจความลับแห่งธรรมชาติ และการสัมผัสถึงความสงบทางจิตใจในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความน่าพิศวง
บทความนี้จะนำพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกแง่มุมของวัดโพธิ์บางคล้า ตั้งแต่จุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ความสำคัญในฐานะสถานที่พักทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ของค้างคาวแม่ไก่ ไปจนถึงข้อควรปฏิบัติและคำแนะนำในการเดินทาง เพื่อให้การมาเยือนของท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าใจ ความเคารพ และความประทับใจอย่างแท้จริง
วัดโพธิ์บางคล้า ตั้งอยู่ ณ ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเมืองบางคล้ามาอย่างยาวนาน ด้วยพื้นที่ประมาณ 31 ไร่ วัดแห่งนี้โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นและตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบางปะกงอันกว้างใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบวัดมีความสงบเงียบและเย็นสบาย เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรม ทำบุญ และพักผ่อนหย่อนใจ
หากท่านเดินทางจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา วัดโพธิ์บางคล้าจะอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ 23 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถยนต์ถือเป็นวิธีที่สะดวกสบาย โดยสามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 (สายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) ประมาณ 17 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3121 มุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอบางคล้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ท่านจะผ่านศาลและอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจุดนั้นให้เลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงบริเวณวัดโพธิ์บางคล้าที่สงบเงียบและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ด้วยทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำบางปะกง ทำให้วัดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เข้าถึงได้โดยทางรถยนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ทางเรืออีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องเรือชมทัศนียภาพอันสวยงามของลำน้ำบางปะกง ท่าเทียบเรือของวัดพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนจากทางน้ำ เพิ่มความสะดวกสบายและเสน่ห์ในการเดินทางมายังวัดแห่งนี้ได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่งดงามคือ เจดีย์ทรงระฆังที่ประดับประดาด้วยกระจกสีเหลือง น้ำเงิน และขาวอย่างวิจิตรบรรจง สะท้อนแสงระยิบระยับยามต้องแสงอาทิตย์ สร้างความแปลกตาและน่าประทับใจแก่ผู้พบเห็น และบริเวณริมแม่น้ำบางปะกงยังมีศาลาทรงไทยประดิษฐานพระพุทธรูปสามองค์ พร้อมด้วยรูปปั้นพระพิฆเนศและเจ้าแม่กวนอิม ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้สักการะบูชา สร้างความหลากหลายทางความเชื่อและวัฒนธรรมภายในพื้นที่เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้วัดโพธิ์บางคล้ามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และเป็นดั่งแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสด้วยตาตนเอง คือ "ฝูงค้างคาวแม่ไก่" หรือ Lyle's flying fox (Pteropus lylei) ที่มีจำนวนนับร้อยนับพันจนถึงหลักแสนตัวมาอาศัยเกาะห้อยหัวอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ทั่วทั้งบริเวณวัดในยามกลางวัน ค้างคาวแม่ไก่เหล่านี้ไม่ใช่ค้างคาวธรรมดา แต่เป็นค้างคาวผลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะโดดเด่นคือปีกสีดำสนิท ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก มีดวงตากลมโต จมูกและใบหูเล็ก ขนสีน้ำตาลแกมแดง และมีเล็บที่แหลมคมสำหรับเกาะกิ่งไม้ น้ำหนักตัวของพวกมันสามารถหนักได้ถึง 390-480 กรัม หรือบางข้อมูลระบุว่ามากถึง 800 กรัม จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
เรื่องราวของค้างคาวแม่ไก่ ณ วัดโพธิ์บางคล้ายังเต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง มีการเล่าขานกันว่าพวกมันอาศัยอยู่ที่วัดมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยพระครูสุตาลงกตเป็นเจ้าอาวาส ระหว่างปี พ.ศ. 2473-2509 ท่านเป็นพระภิกษุผู้มีเมตตาธรรมต่อสัตว์ทั้งปวง ทำให้ค้างคาวเหล่านี้เลือกที่จะอาศัยอยู่ในวัดอย่างสงบสุข และที่น่าทึ่งคือ ค้างคาวเหล่านี้จะกินผลไม้ที่อยู่ในวัดเป็นอาหาร แต่ไม่เคยออกไปสร้างความเสียหายให้กับสวนผลไม้ของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเลย นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างลงตัวและสมดุล
ตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาเกี่ยวกับค้างคาวเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้กับวัด เมื่อปี พ.ศ. 2498 ในช่วงที่มีการจัดงานฝังลูกนิมิต ปรากฏว่าฝูงค้างคาวแม่ไก่ทั้งหมดได้พร้อมใจกันบินหายไปจากวัดเป็นเวลานานถึง 7 วัน และเมื่อพิธีเสร็จสิ้นลง พวกมันก็ได้บินกลับมาอาศัยอยู่ดังเดิม ราวกับรับรู้ถึงพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งคือ เมื่อพระครูสุตาลงกต เจ้าอาวาสผู้เปี่ยมเมตตาธรรม ได้มรณภาพลงในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2509 ปรากฏว่ามีค้างคาวจำนวนมากได้ตกลงมาตายราวกับพวกมันรับรู้ถึงการจากไปของท่าน แสดงให้เห็นถึงความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างสรรพสัตว์กับพระภิกษุผู้เป็นที่พึ่งแห่งวัด แม้จะมีค้างคาวจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ภายในวัด แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนคือ ความสะอาดและความสงบภายในบริเวณวัด ที่แทบจะไม่มีกลิ่นสาบของมูลค้างคาวเลย แสดงให้เห็นถึงการดูแลจัดการที่ดีเยี่ยมของทางวัด ซึ่งรักษาความสมดุลระหว่างการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและศาสนสถานได้อย่างน่าชื่นชม
วัดโพธิ์บางคล้าจึงไม่ใช่เป็นเพียงวัดธรรมดา แต่เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมเอาประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ศิลปะอันวิจิตร และความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทำให้เราได้เข้าใจถึงอดีต ซาบซึ้งในพุทธธรรม และตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
ในทุกย่างก้าวที่วัดโพธิ์บางคล้า เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผสานกับลมหายใจของธรรมชาติที่ยังคงมีชีวิต วัดแห่งนี้ไม่ใช่เพียงศาสนสถานเก่าแก่แห่งอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของพุทธธรรม ความกล้าหาญของวีรบุรุษผู้กอบกู้แผ่นดิน และความมหัศจรรย์แห่งโลกธรรมชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
การมาเยือนวัดโพธิ์บางคล้าคือการเดินทางที่ปลุกเร้าทั้งความสงบในจิตใจและความตื่นเต้นในหัวใจ จากสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของพระวิหารจตุรมุขที่ยืนหยัดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย พยานแห่งการพักทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สู่ศาลาที่ประดิษฐานรูปหล่อพระเกจิอาจารย์และพระพุทธรูปสำคัญมากมาย ล้วนเป็นภาพที่เล่าขานตำนานและศรัทธาที่สืบทอดกันมา
แต่สิ่งที่สร้างความตราตรึงใจไม่รู้ลืม คือปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ของ "ฝูงค้างคาวแม่ไก่" นับแสนตัว ที่ห้อยหัวอยู่ตามกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์แห่งรัตติกาล ผู้ซึ่งเลือกที่จะอาศัยอยู่คู่กับพุทธสถานแห่งนี้อย่างสงบสุขและไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเมตตาของสรรพชีวิตและการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติอย่างแท้จริง เรื่องเล่าถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์สำคัญของวัด ยิ่งทำให้ค้างคาวเหล่านี้มีสถานะมากกว่าแค่สัตว์ป่า แต่เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณแห่งวัดโพธิ์บางคล้า
วัดโพธิ์บางคล้าจึงเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว แต่เป็นบทเรียนแห่งชีวิต ที่สอนให้เราเรียนรู้ที่จะเคารพในประวัติศาสตร์ ซาบซึ้งในศิลปวัฒนธรรม และอยู่ร่วมกับธรรมชาติด้วยความเข้าใจและเมตตาจิต ไม่ว่าจะเป็นนักแสวงบุญ ผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์ หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ วัดแห่งนี้พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกท่านด้วยบรรยากาศอันร่มรื่น ความเงียบสงบ และเรื่องราวที่รอการค้นพบ ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสด้วยตัวท่านเอง แล้วท่านจะพบว่าวัดโพธิ์บางคล้าแห่งนี้ คืออีกหนึ่งตำนานที่ไม่ควรพลาดในการผจญภัยอันลึกซึ้งในดินแดนไทย
"สัมผัสอดีตอันยิ่งใหญ่ ตื่นตาตื่นใจกับปีกแห่งราตรี ณ วัดโพธิ์บางคล้า...ที่ซึ่งตำนานและธรรมชาติบรรจบกัน"
.
------------------------
ที่มาข้อมูล
-
รวบรวมรูปภาพ
------------------------
เที่ยวฉะเชิงเทรา (Travel Chachoengsao)
------------------------

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่
