iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป

ว่าด้วยตำนานนครภูเวียง (ฉบับสมบูรณ์) ตอนที่ 2 อวสานวีรบุรุษ ขอนแก่น

“เล่าโดยลอเรศ”

เจ้าเมืองเวียงคุกเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย แม้จะสูญเสียกองทหารและเสบียงกรังไปอย่างมากมาย พระองค์กลับรวบรวมพลเข้าโอบล้อมนครภูเวียง การสู้รบจึงเกิดขึ้นโดยฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอ่อนด้อยก็คือกองทัพภูเวียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการต่อสู้นั้น ปรากฏว่าแม่ทัพคนหนึ่งของเวียงคุกมีอาวุธเป็นกระบอกโลหะที่สามารถปล่อยแสงออกมาและมีอานุภาพการทำลายที่น่ากลัว สามารถทำให้ผาหินแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ได้ โชคดีที่ดูเหมือนว่าอาวุธดังกล่าวจะใช้งานได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อการสู้รบยืดเยื้อไปหลายเดือน เจ้านครภูเวียงจึงส่งสาส์นออกไปเสนอความเห็นทำนองว่า “สงครามทำให้เราทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องสูญเสียไพร่พลกันเป็นจำนวนมาก ขอให้ท่านพิจารณายกเลิกการต่อสู้ครั้งนี้เสียเถิด” เจ้าเมืองเวียงคุกได้ตอบมาว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้นครภูเวียงส่งทหารที่เก่งที่สุดมา 1 คน เพื่อต่อสู้กับสัตว์เลี้ยง 10 ตัวของข้าพเจ้า ตัวต่อตัว หากสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด ข้าสัญญาว่าจะถอยทัพกลับเวียงคุก” ด้วยความจำใจที่ต้องยอมตาม ฝ่ายนครภูเวียงจึงได้ส่ง “บักลอ” ออกมาต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุก

ปรากฎว่า สัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุกนั้นแต่ละตัวมีรูปร่างใหญ่โต หน้าตาแปลกประหลาด ที่ชาวนครภูเวียงไม่เคยพบเห็นมาก่อน กระนั้นก็ตาม บักลอก็เอาชนะ สามารถฆ่าสัตว์เลี้ยงทั้งหมดได้ แต่เจ้าเมืองเวียงคุกกลับตระบัดสัตย์ รบเร้าให้มีการประลองฝีมือต่อเนื่องไปอีกหลายสิบครั้ง ซึ่งบักลอก็เอาชนะได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวสุดท้ายล้มลง บักลอซึ่งได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงขาดใจตามไปด้วย โชคดีที่เจ้าเมืองเวียงคุกก็ถอดใจยอมถอยทัพกลับแม่น้ำโขง ชาวนครภูเวียงจึงได้นำศพของบักลอและสัตว์ประหลาดทั้งหมดไปฝังไว้ที่ห้วยประตูตีหมา และภูเขาที่เป็นขุนห้วย ทำให้ภูเขาลูกนั้นได้รับการขนานนามว่า “ภูซำบักลอ”

ปีพ.ศ. 2519 กรมทรัพยากรธรณีได้เข้ามาสำรวจแร่ยูเรเนียม ในบริเวณเทือกเขาภูเวียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ห้วยประตูตีหมา และในช่วงดังกล่าวนั้น นักธรณีวิทยาที่ชื่อ ”สุธรรม แย้มนิยม” ได้พบหินก้อนหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับกระดูกสัตว์ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการยืนยันว่านี่คือซากดึกดำบรรพ์กระดูกไดโนเสาร์ กรมทรัพยากรธรณีจึงได้จัดตั้งคณะสำรวจซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาในปีพ.ศ. 2521 โดยเริ่มต้นการสำรวจที่ประตูตีหมาและภูซำบักลอ โครงการนี้ดำเนินไปด้วยดี เป็นเหตุให้มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มากมาย หลายชิ้นได้รับการพิสูจน์ว่า เป็นไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ และ/หรือชนิดใหม่ จนมีชื่อพันธุ์และชนิดเป็นเกียรติแก่สถานที่ที่ค้นพบ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะในบริเวณภูเวียง แต่รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในอีสาน และแม้แต่ภูมิภาคอื่นของประเทศไทย

พ่อตู้คำมายแห่งสำนักปู่เจ้าสมิงพราย เมืองเวียงเก่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกแห่งแดนสนธยาให้ความเห็นว่า แร่ยูเรเนียมที่พบที่ประตูตีหมาน่าจะเป็นร่องรอยของปืนกัมมันตรังสีของแม่ทัพชาวเวียงคุกนั่นเอง ส่วนฟอสซิลไดโนเสาร์ทั้งหมดที่เจอนั้น เมื่อวิเคราะห์แล้วเห็นว่านั่นก็คือ กระดูกของสัตว์เลี้ยงของเจ้าเมืองเวียงคุกนั่นเอง แต่สงสัยอยู่ประเด็นเดียวว่า ทำไมกระดูกไดโนเสาร์ถึงถูกค้นพบได้ง่ายและมากมาย แต่จนถึงปัจจุบันนี้ ทำไมไม่มีใครพบเจอซากกระดูกของบักลอบ้างเลย หรือว่ากระดูกของท่านจะเฮี้ยนจัดปลัดบัญชา ช่วยสอบสวนหาคำตอบให้หายสงสัยได้ไหมครับ ท่านสารวัตร

.

ที่มา https://www.facebook.com/nares.sattayarak

รวบรวมข้อมูลและภาพ www.iok2u.com

-------------------------------------------------

รวมบทความ นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)

-------------------------------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward