iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

Lertsin 015 สารเคมีตรวจสอบความศักดิ์สิทธิ์ของหิน

 

  
 
015 สารเคมีตรวจสอบความศักดิ์สิทธิ์ของหิน
 
"หินศักดิ์สิทธิ์ ลอยน้ำได้ รักษาสารพัดโรค" เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ที่ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ในข่าวระบุว่าชาวบ้านพบหินที่สามารถลอยน้ำได้ ขณะพายเรือจับปลาอยู่ในป่าชายเลน จึงเก็บมาไว้ที่บ้านและจัดแสดงให้ชาวบ้านได้เห็นความแปลกประหลาด เมื่อมีคนเอาน้ำที่แช่หินไปดื่มกิน ปรากฏว่าสารพัดโรคภัยไข้เจ็บ อาทิ โรคอัมพฤกษ์ เจ็บหลัง ปวดขา หายไปอย่างรวดเร็วราวกับมีปาฏิหาริย์
 
ข่าวดังเกี่ยวกับเรื่อง หิน แร่ หรือปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่ไม่ผูกโยงไปถึงเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธาทางศาสนา กรมทรัพยากรธรณี จะเข้าตรวจสอบเพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้ ผมได้รับคำสั่งให้เข้าตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงพื้นที่พบผู้คนเกือบร้อยกำลังต่อแถวซื้อน้ำที่ใช้แช่หินศักดิ์สิทธิ์ ราคาถุงละ 20 บาท (ขนาดเท่าถุงพลาสติกใส่โอเลี้ยง) ต้องรออยู่จนผู้คนบางตา จึงได้เข้าไปขออนุญาตเจ้าของ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นหินอะไร ทำไมถึงลอยน้ำได้ ตอนแรก เจ้าของไม่อนุญาต ผมบอกว่ามีสารเคมีชนิดพิเศษ สามารถตรวจสอบความศักดิ์สิทธิ์ของหินได้ ต่อรองกันสักพัก เจ้าของอนุญาตแต่มีข้อแม้ว่าต้องไปกล่าวขอขมาหินศักดิ์สิทธิ์ก่อน โอย..ยากจริง ขออธิษฐานในใจ ว่าแล้วก็เข้าไปยืนนิ่งอยู่หน้ากะละมังใหญ่ใส่น้ำเต็ม มีก้อนหินขนาดเท่าลูกรักบี้ รมควันดำ ปิดด้วยทองคำเปลวไว้ประปราย ลอยน้ำได้จริง "ไอ้ก้อนหิน กรูมาตรวจสอบ คงไม่ขอขมาหรอกนะ" ไม่
รู้ว่าคิดได้ไง เอ๊ะ ใครบ้ากันแน่ ว่าแล้วก็ควักสารเคมีชนิดพิเศษบรรจุอยู่ในขวดแบบเดียวกับที่ใส่ยาหยอดตาออกมาหยดใส่หิน ความจริง ก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ว่าคงเป็นหินภูเขาไฟชนิดหนึ่งที่เรียกว่า พัมมิซ หรือ สะคอเรีย มีรูพรุนมาก จึงทำให้ลอยน้ำได้ และคาดว่าเป็นหินที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยักษ์โทบา บนเกาะสุมาตรา เมื่อเจ็ดหมื่นเจ็ดพันปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดทะเลสาบใหญ่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ถูกทำลายจากการระเบิด ฝุ่นภูเขาไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์อยู่นานหลายสิบปี เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างมากจนมีนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของการสูญพันธุ์ของมนุษย์นีแอนเดอทราล หินพัมมิซ ที่เกิดจากการระเบิดครั้งนี้ลอยมาในมหาสมุทรอินเดียจากเกาะสุมาตราเหนือ มาติดป่าชายเลนที่กลันตังที่อยู่ห่างออกมาเพียง 500 กิโลเมตร
 
นอกจากหินพัมมิซแล้วก็ยังมีประการังบางชนิดที่สามารถลอยน้ำได้เหมือนกัน การรมควันดำทำให้มองไม่ออกว่าเป็นหินพัมมิซหรือปะการัง แต่สารเคมีที่เตรียมมาจะให้คำตอบได้ดีที่สุด เพราะมันคือ กรดเกลือเจือจาง เมื่อหยดลงไป ถ้าเป็นปะการังที่มีส่วนประกอบหลักคือ แคลเซียมคาร์บอเนต จะทำปฏิกิริยา เกิดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เป็นฟองปุดขึ้นมา แต่ถ้าเป็นหินพัมมิซ จะไม่มีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้น
 
ผลเป็นไปตามคาด เมื่อหยดกรดเกลือลงไป ทุกอย่างนิ่งสนิท เพื่อให้เจ้าของได้เห็นความแตกต่าง จึงไปหยิบก้อนหินที่ใช้ถมถนนซึ่งก็คือหินปูนที่มีส่วนประกอบเป็น แคลเซียมคาร์บอเนตเหมือนปะการัง มาหยดใส่ เกิดฟองฟู่ทันที แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่เจ้าของคงได้เห็นความแตกต่างระหว่าง หินศ้กดิ์สิทธิ์ของตนเองกับหินถมถนนได้ดี หลังจากเข้ามาตัวเมืองตรัง ได้ประสานกับสาธารณสุขจังหวัด เพื่อแจ้งให้ประชาชนว่าไม่ควรกินน้ำแช่หิน ไม่ได้เป็นผลมาจาก กรดเกลือเจือจาง เพราะหยดใส่ไปนิดเดียว เจ้าของเติมน้ำในกะละมังทุกวัน แต่น้ำแช่หินพัมมิซไม่น่าจะมีสรรพคุณรักษาสารพัดโรคได้จริง
 
เมื่อตรวจสอบเสร็จต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพื่อรายงานผล เพราะอธิบดีฯต้องให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันรุ่งขึ้น รีบไปสนามบินตรัง เพื่อให้ทันเที่ยวเย็น เมื่อไปถึง เครื่องบินอยู่บนรันเวย์แล้ว ติดต่อเจ้าหน้าที่ คงเป็นด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหินลอยน้ำหรือไม่ ไม่ทราบได้ แต่เจ้าหน้าที่วิทยุไปขอให้นักบินรอผู้โดยสารอีกคน ตอนเดินขึ้นเครื่อง ไม่กล้ามองสบตาใครเลย
 
วันให้สัมภาษณ์ ต้องไปขอยืมตัวอย่างหินพัมมิซ จากนักธรณีวิทยาท่านหนึ่ง เพื่อเอามาแสดงให้เห็นชัดเจน ขนาดเล็กกว่าก้อนที่เป็นข่าวเล็กน้อย หาถังใส่น้ำ เอาหินพัมมิซใส่ลงไปกดไว้ใต้น้ำ ปล่อยมือ มันก็ลอยขึ้นมา หลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น เจ้าของมาขอคืนเพราะหินพัมมิซก้อนใหญ่หายาก ปรากฏว่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ว่าไปแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อยู่ที่ใด รับปากด้วยความมั่นใจว่าจะหามาคืน เพราะเหตุการณ์ภูเขาไฟปินาตุโบ บนเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ เพิ่งระเบิด เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2534 หินพัมมิซ น่าจะลอยมาขึ้นฝั่งอ่าวไทยแล้ว ซึ่งก็เป็นจริง พบหินพัมมิซ ก้อนใหญ่กว่าที่ยืมมาเสียอีกอยู่ในกอผักบุ้งทะเล หาดแฆแฆ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานีในอีก 2 เดือนต่อมา
 
เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์
2 กันยายน 2564 
 
 
 
.

ที่มา

https://www.facebook.com/เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์

รวบรวมข้อมูลและภาพ

www.iok2u.com

-------------------------------------------------

Lertsin บทความ เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ (Lertsin Raksaskulwong) รวมข้อมูล

-------------------------------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward